พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลUkázka

พระเจ้าสถิตกับคุณ
ผมสงสัยว่าคุณเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้างไหม: คุณกำลังพูดกับเพื่อนเรื่องความเชื่อของคุณ และพวกเขาก็มองกลับมาที่คุณด้วยสายตาว่างเปล่า พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าคุณพูดเรื่องอะไร เมื่อคุณพูดเรื่องความสัมพันธ์กับพระเยซู กับพวกเขาเหมือนกับว่าคุณกำลังพูดเรื่อง ‘เพื่อนในจินตนาการ’ นี่ฟังไม่มีเหตุผลเลยสำหรับพวกเขา อัครสาวกเปาโลชี้ประเด็นว่า คุณสามารถเข้าใจความจริงฝ่ายวิญญาณได้ก็ต่อเมื่อมีความช่วยเหลือจากองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ คนที่ ‘ไม่รับสิ่งเหล่านี้ซึ่งเป็นของพระวิญญาณแห่งพระเจ้า เพราะว่าเขาเห็นว่าเป็นเรื่องโง่ และเขาไม่สามารถเข้าใจ เพราะจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้ก็ต้องวินิจฉัยโดยพึ่งพระวิญญาณ’ (1 โครินธ์ 2:14) เมื่อพระเจ้าสถิตกับเราโดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ประทานความเข้าใจแก่เรา 'เพื่อจะได้รู้ถึงสิ่งต่าง ๆ ที่พระเจ้าประทานแก่เรา’ (ข้อ 12) ‘พระเจ้าสถิตกับเรา’ (อิมมานูเอล) เป็นหนึ่งในชื่อซึ่งพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ใช้เรียกพระเยซู (มัทธิว 1:23) พระองค์สถิตอยู่กับคุณเสมอ การที่พระเจ้าผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งปวงสถิตกับคุณไม่ใช่อะไรที่จะนับเป็นเรื่องเล่น ๆ นี่เป็นพระสัญญาที่ไม่ธรรมดาและน่าทึ่ง การมีประสบการณ์กับการทรงสถิตของพระเจ้ากับคุณผ่านทางองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นเรื่องเปลี่ยนชีวิตสดุดี 91:9-16
ทรงสถิตกับคุณท่ามกลางปัญหา
ในช่วงเวลายากลำบาก ‘ในยามลำบาก’ (ข้อ 15) คุณอาจรู้สึกในบางครั้งว่า พระเจ้าทรงละไปจากคุณ ในช่วงเวลาเหล่านั้น ให้เราใคร่ครวญพระสัญญาของพระเจ้าซ้ำ และให้อยู่เหนือกว่าความรู้สึกและอารมณ์ต่าง ๆ ของคุณ
สดุดีบทนี้เกี่ยวกับการปกป้องของพระเจ้า และหนุนใจคุณไม่ให้หวาดกลัว:
'เพราะท่านได้ทำให้พระยาห์เวห์ผู้เป็นที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า คือองค์ผู้สูงสุด เป็นที่พักพิงของท่าน– ไม่มีเหตุร้ายใด ๆ จะเกิดแก่ท่าน ไม่มีภัยพิบัติมาใกล้เต็นท์ของท่าน’ (ข้อ 9)
นี่อาจปรากฎเป็นสูตรสำเร็จสำหรับชีวิตที่ปราศจากปัญหา อย่างไรก็ตามผู้เขียนสดุดีกล่าวต่อไปว่า:
‘พระเจ้าตรัสว่า “เพราะเขารักเรา เราจะช่วยเขาให้พ้นภัย เราจะพิทักษ์รักษาเขาไว้ เพราะเขารู้จักนามของเรา เขาจะร้องทูลเรา แล้วเราจะตอบเขา เราจะอยู่กับเขาในยามลำบาก”’ (ข้อ 14–15)
ชัดเจนจากสิ่งนี้ว่า ไม่ใช่ว่าผู้ที่รักพระเจ้าจะไม่มีปัญหา พระเจ้าไม่ได้ทรงสัญญาถึงชีวิตที่ปราศจากปัญหา กลับกัน พระองค์ทรงสัญญาว่าพระองค์จะช่วยกู้คุณ พิทักษ์รักษาคุณ และตอบคำอธิษฐานของคุณ ยิ่งกว่านั้น พระองค์ทรงสัญญาว่า ‘เราจะอยู่กับเจ้า’ ในยามลำบาก นี่เป็นสิ่งที่ทำให้แตกต่างออกไป แม้ในยามมืดมิดที่สุด พระองค์สถิตอยู่กับคุณ คุณไม่เคยอยู่ลำพัง
ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์สถิตกับข้าพระองค์ในยามลำบาก ขอบพระคุณสำหรับการช่วยกู้ การปลดปล่อย การปกป้องของพระองค์ และการตอบคำอธิษฐานของข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า วันนี้ข้าพระองค์ขอร้องทูลพระองค์อีกครั้ง…
1 โครินธ์ 2:6-16
ทรงสถิตกับคุณโดยทางพระวิญญาณของพระองค์
ผ่านทางองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าสถิตอยู่กับคุณในแบบที่เหนือธรรมดาสุด ที่จริงพระองค์สถิตอยู่ภายในคุณ ผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์
ในพระธรรมตอนนี้ เปาโลอธิบายประโยชน์ที่เหนือธรรมดา ของการที่พระเจ้าสถิตกับคุณในวิธีนี้ ‘เรื่องจิตวิญญาณสามารถรับรู้ได้ผ่านทางฝ่ายวิญญาณ – พระวิญญาณของพระเจ้า และจิตวิญญาณของเราในการสนทนาอย่างเปิดเผย การดำเนินชีวิตในฝ่ายวิญญาณ เราได้เข้าถึงทุกสิ่งที่พระวิญญาณของพระเจ้าทรงกำลังกระทำอยู่ และไม่สามารถถูกวินิจฉัยได้โดยผู้ที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายวิญญาณ คำถามของอิสยาห์คือ “ใครเล่ารู้พระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้า? ใครเล่าจะรู้ถึงสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ?” ได้รับคำตอบแล้ว: พระคริสต์ทรงทราบ และเราก็มีพระทัยของพระคริสต์’ (ข้อ 15–16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
เช่นเดียวกับผู้เขียนสดุดี อัครสาวกเปาโลชี้แจงเรื่องทุกสิ่งอันน่าทึ่งที่ ‘พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้เพื่อคนที่รักพระองค์' (ข้อ 9 ดูเพิ่มเติม สดุดี 91:14 ‘เพราะเขารักเรา…’)
เปาโลเปรียบเทียบพระปัญญาของพระเจ้ากับ 'ปัญญาของผู้เชี่ยวชาญในยุคนี้ ซึ่งจะล้าสมัยไปในหนึ่งปีหรือราว ๆ นั้น’ (1 โครินธ์ 2:6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระปัญญาที่ปิดซ่อนไว้ของพระเจ้าถูกเปิดเผยสำแดงแก่เรา (ข้อ 6–10) คือความอัศจรรย์ของชีวิต การสิ้นพระชนม์ และการเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซู ผู้ปกครองโลกนี้ไม่เข้าใจ หากพวกเขาเข้าใจ พวกเขาก็จะไม่ตรึงพระเยซู ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งพระสิริ’ (ข้อ 8)
พระปัญญาอันลึกลับของพระเจ้าเป็นสิ่งน่าทึ่ง 'สิ่งที่ตาไม่เห็น หูไม่ได้ยิน และสิ่งที่ใจมนุษย์คิดไม่ถึง คือสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้สำหรับคนทั้งหลายที่รักพระองค์’ (ข้อ 9)
ในหนังสือ True Spirituality (ฝ่ายวิญญาณที่แท้จริง) ของโวห์ฮาน โรเบิร์ตส บันทึกไว้ว่า มีกระบวนการสี่ด้านในการที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเปิดเผยพระปัญญาของพระเจ้ากับเรา
-
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงหยั่งรู้
พระองค์ทรงหยั่งรู้สิ่งที่มนุษย์ไม่มีวันทราบได้ คือพระทัยและพระดำริของพระเจ้า ‘เพราะว่าพระวิญญาณทรงหยั่งรู้ทุกสิ่งแม้เป็นความล้ำลึกของพระเจ้า อันความคิดของมนุษย์นั้น จะมีใครหยั่งรู้ได้ถ้าไม่ใช่จิตวิญญาณของมนุษย์คนนั้นเอง? พระดำริของพระเจ้าก็ไม่มีใครหยั่งรู้ได้เว้นแต่พระวิญญาณของพระเจ้าเช่นกัน’ (ข้อ 10ข–11) -
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสำแดง
พระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ได้ทรงเก็บความรู้ของพระองค์เรื่องพระปัญญาของพระเจ้าไว้กับพระองค์เอง แต่พระองค์ทรงสำแดงสิ่งนี้กับผู้ที่พระองค์สถิตอยู่ด้วย ‘เราไม่ได้รับวิญญาณของโลก แต่ได้รับพระวิญญาณซึ่งมาจากพระเจ้า เพื่อจะได้รู้ถึงสิ่งต่าง ๆ ที่พระเจ้าประทานแก่เรา’ (ข้อ 12) คุณได้รับพระวิญญาณผู้ทรงมาจากพระเจ้า พระองค์สถิตกับคุณ พระองค์ทรงทำให้คุณสามารถเข้าใจพระปัญญาที่ลึกลับของพระเจ้าได้ แม้ว่าแน่นอนเราอาจไม่สามารถหยั่งรู้ถึงความล้ำลึกของพระเจ้าได้ ดังที่เปาโลกล่าวไว้ภายหลังในจดหมายฉบับนี้ว่า ในชีวิตนี้ 'เราเห็นสลัว ๆ เหมือนดูในกระจก’ ยังไม่ได้เป็นแบบ ‘หน้าต่อหน้า’ (13:12) -
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงดลใจ
เปาโลได้รับการดลใจโดยองค์พระวิญญาณ ให้ส่งต่อปัญญาของพระกิตติคุณแก่คนอื่น ๆ 'และเรากล่าวถึงเรื่องเหล่านี้ด้วยถ้อยคำซึ่งไม่ใช่ปัญญาของมนุษย์สอนไว้ แต่พระวิญญาณทรงสอนไว้ คือเราได้อธิบายความหมายของเรื่องฝ่ายจิตวิญญาณ ให้คนฝ่ายจิตวิญญาณฟัง’ (2:13) พระวิญญาณทรงสอนแบบเดียวกันกับคุณว่าต้องพูดอะไรเพื่อให้คุณเองสามารถกล่าว ‘ความจริงเรื่องฝ่ายวิญญาณในถ้อยคำฝ่ายวิญญาณ’ โดยทั่วไปผ่านทางถ้อยคำซึ่งได้รับการดลใจจากองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่อัครสาวกได้บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ คุณสามารถแบ่งปันถ้อยคำที่สอดคล้องกับพระคริสตธรรมคัมภีร์เพื่อชี้ผู้คนไปหาพระเยซู -
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำให้กระจ่าง
ถ้าปราศจากองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ คุณก็ไม่สามารถเข้าใจความจริงฝ่ายวิญญาณได้: ‘แต่คนทั่วไปจะไม่รับสิ่งเหล่านี้ซึ่งเป็นของพระวิญญาณแห่งพระเจ้า เพราะว่าเขาเห็นว่าเป็นเรื่องโง่ และเขาไม่สามารถเข้าใจ เพราะจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้ก็ต้องวินิจฉัยโดยพึ่งพระวิญญาณ’ (ข้อ 14) เมื่อพระเจ้าสถิตกับคุณทางพระวิญญาณของพระองค์ คุณสามารถเข้าใจได้จริง ๆ ถึงพระทัยของพระเจ้า ที่จริงแล้วคุณมี ‘พระทัยของพระคริสต์’ (ข้อ 16)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์สำหรับความจริงอันน่าทึ่งนี้ ที่พระองค์สถิตกับข้าพระองค์ทางพระวิญญาณของพระองค์ ขอให้ข้าพระองค์มีหัวใจอย่างพระเยซูในการตัดสินใจทุกอย่าง และในทุกบทสนทนา ข้าพระองค์อธิษฐานขอให้มีถ้อยคำฝ่ายวิญญาณเพื่อกล่าวความจริงฝ่ายวิญญาณ
1 พงศาวดาร 22:2-23:32
ทรงสถิตกับคุณในความสำเร็จ
คุณเคยรู้สึกผิดหวัง หรืออิจฉาเมื่อคนอื่นประสบความสำเร็จในพันธกิจที่คุณอยากทำไหม? ตัวอย่างของดาวิด (22:6–19) ท้าทายเราให้อธิษฐานเผื่อคนอื่นให้ประสบความสำเร็จ หนุนใจ อวยพร และช่วยพวกเขาเมื่อพวกเขาทำพันธกิจอยู่
ดาวิดอยากจะสร้างพระวิหารด้วยพระองค์เองอย่างยิ่ง ตอนนี้ดาวิดเตรียมเพื่อราชโอรสของตน ซาโลมอน เพื่อให้เขาทำสำเร็จ ดาวิดเตรียมทุกสิ่งให้พร้อมเพื่อเขา พระองค์ทรงมีแผนการสืบทอดตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อให้ซาโลมอนได้ประสบความสำเร็จ
การเป็นผู้นำคือการปรนนิบัติรับใช้เพื่อผู้คนจะได้ไปไกลกว่า และทำได้ดีกว่าคุณ เมื่อคุณสัตย์ซื่อที่จะอวยพรคนอื่น ๆ ให้ทำได้ดี พระเจ้าจะทรงสัตย์ซื่อที่จะให้เกียรติและอวยพรคุณ
ดาวิดและซาโลมอนที่ร่วมกันทำให้การสร้างพระวิหารเกิดขึ้น ดาวิดเองไม่สามารถรับงานนี้ได้เพราะว่าเขา ‘ทำให้โลหิตตกเป็นอันมาก’ (ข้อ 8) ซาโลมอนคือผู้ที่จะลงมือจริง ๆ ในการสร้างพระวิหาร
ดาวิดกล่าวว่า ‘นี่แหละ ลูกของข้าเอ๋ย ขอพระยาห์เวห์สถิตอยู่กับเจ้า และขอให้เจ้ามีความสำเร็จ สร้างพระนิเวศของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ตามพระดำรัสเกี่ยวกับเจ้า ขอเพียงพระยาห์เวห์ประทานให้เจ้ามีความเฉลียวฉลาด และความเข้าใจ… จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวและอย่าหวาดหวั่นเลย… ลุกขึ้นทำไปเถอะ ขอพระยาห์เวห์ทรงอยู่กับเจ้า’ (ข้อ 11–16)
พระเจ้าไม่ได้ทรงสถิตแค่กับซาโลมอน ‘ดาวิดทรงบัญชาผู้นำทั้งปวงของอิสราเอลให้ช่วยซาโลมอนโอรสของพระองค์ด้วยว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านทรงอยู่กับพวกท่านไม่ใช่หรือ?”’ (ข้อ 17–18ก) พระเจ้าทรงสถิตกับพวกเขาด้วยเช่นกัน พระองค์ทรงประทาน ‘การหยุดพักสงบทุกด้าน’ แก่พวกเขา (ข้อ 18ข) ดาวิดบอกกับพวกเขาว่า ‘บัดนี้จงทุ่มเทจิตใจและชีวิตของพวกท่านที่จะแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน’ (ข้อ 19)
พวกเขาประสบความสำเร็จและหยุดพัก ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลประทับในเยรูซาเล็มตลอดนิรันดร์’ (23:25)
นี่เป็นเหตุให้เกิดความชื่นชมยินดี การขอบพระคุณ และการสดุดีอย่างใหญ่หลวง พวกเลวี ‘และทุก ๆ เช้า เขาจะต้องยืนขอบพระคุณและสรรเสริญแด่พระยาห์เวห์ และเวลาเย็นก็เช่นเดียวกัน’ (ข้อ 30)
ความสำเร็จระยะยาวมาจากการที่พระเจ้าสถิตกับคุณ ชีวิตอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พระเยซูทรงสัญญาว่า หากคุณติดสนิทกับพระองค์ คุณจะเกิดผลมาก และผลนั้นจะคงอยู่ (ยอห์น 15:1–17)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์สัญญาถึงความสำเร็จระยะยาวและการได้หยุดพัก ขอให้ข้าพระองค์ขอบพระคุณและสรรเสริญพระองค์เป็นสิ่งแรกในยามเช้า และเป็นสิ่งสุดท้ายในยามค่ำคืนสำหรับการทรงสถิตของพระองค์
Pippa Adds
สดุดี 91:9–16
ฉันรักสดุดีบทนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย เป็นสดุดีที่เหมาะมากที่จะใช้อธิษฐานเผื่อครอบครัวและเพื่อนฝูงที่กำลังเดินทางไกล หรือเผชิญกับความยากลำบาก ตลอดหลายปีมานี้ ฉันได้เขียนสองสามสิ่งไว้ที่ขอบหน้าพระคัมภีร์ข้าง ๆ สดุดีบทนี้ เป็นสิ่งที่ฉันกังวลในเวลานั้น พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ พระองค์ทรงดูแลสิ่งเหล่านั้นทุกอย่าง
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)O tomto plánu

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Podobné plány

Zkus se modlit

Svoboda

Milost ve vašem příběhu

Co je mým účelem? Nauč se milovat Boha a milovat druhé lidi

Uvědomit si, že Bůh mě miluje

Sedmidenní vánoční rozjímání

Ester: Pro chvíli, jako je tato

Zůstávejme v Ježíši: Přinášejme trvalé ovoce (Love God Greatly/Miluj Boha nesmírně)

Porazit sebevědomí a úzkost
