ยอห์น 7:25, 26, 27, 28, 29, 30, 31, 32, 33, 34, 35, 36, 37, 38, 39, 40, 41, 42, 43, 44
ยอห์น 7:26 THSV11
เขาก็อยู่นี่แล้วไง กำลังพูดอยู่อย่างเปิดเผย และพวกเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร พวกผู้ใหญ่รู้แน่แล้วหรือว่าคนนี้เป็นพระคริสต์?
ยอห์น 7:27 THSV11
แต่เรารู้แล้วว่าคนนี้มาจากไหน เพราะเมื่อพระคริสต์เสด็จมา จะไม่มีใครรู้เลยว่าพระองค์มาจากไหน”
ยอห์น 7:30 THSV11
พวกเขาจึงหาโอกาสจับพระองค์ แต่ไม่มีใครยื่นมือแตะต้องพระองค์เพราะยังไม่ถึงกำหนดเวลาของพระองค์
ยอห์น 7:31 THSV11
แต่มีหลายคนในหมู่ประชาชนนั้นวางใจในพระองค์และพูดว่า “เวลาที่พระคริสต์เสด็จมา พระองค์จะทรงทำหมายสำคัญมากยิ่งกว่าสิ่งที่ท่านผู้นี้ได้ทำหรือ?”
ยอห์น 7:32 THSV11
เมื่อพวกฟาริสีได้ยินประชาชนซุบซิบกันเรื่องพระองค์อย่างนั้น พวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกฟาริสีจึงใช้เจ้าหน้าที่ไปจับพระองค์
ยอห์น 7:35 THSV11
พวกยิวจึงพูดกันว่า “คนนี้จะไปไหนที่เราจะหาเขาไม่พบ? เขาตั้งใจจะไปหาคนที่กระจัดกระจายอยู่ในหมู่พวกกรีกและสั่งสอนพวกกรีกหรือ?
ยอห์น 7:36 THSV11
เขาหมายความว่าอย่างไรที่พูดว่า ‘พวกท่านจะแสวงหาเราแต่จะไม่พบเรา’ และ ‘ที่ที่เราอยู่นั้นพวกท่านจะเข้าไปไม่ได้’?”
ยอห์น 7:37 THSV11
ในวันสุดท้ายของงานเทศกาลซึ่งเป็นวันยิ่งใหญ่นั้น พระเยซูทรงยืนขึ้นและทรงประกาศว่า “ถ้าใครกระหาย ให้คนนั้นมาหาเรา
ยอห์น 7:38 THSV11
และให้คนที่วางใจในเราดื่ม ตามที่มีคำเขียนไว้แล้วว่า ‘แม่น้ำที่มีน้ำดำรงชีวิตจะไหลออกมาจากภายในคนนั้น’”
ยอห์น 7:39 THSV11
สิ่งที่พระเยซูตรัสนั้นหมายถึงพระวิญญาณซึ่งคนที่วางใจพระองค์จะได้รับ เพราะว่าพระวิญญาณยังไม่สถิตด้วย เพราะพระเยซูยังไม่ได้รับพระเกียรติ
ยอห์น 7:41 THSV11
คนอื่นๆ ก็พูดว่า “ท่านผู้นี้เป็นพระคริสต์” แต่บางคนว่า “พระคริสต์จะมาจากกาลิลีได้หรือ?
ยอห์น 7:42 THSV11
พระคัมภีร์กล่าวไว้ไม่ใช่หรือว่าพระคริสต์จะมาจากเชื้อพระวงศ์ของดาวิด และมาจากหมู่บ้านเบธเลเฮม ที่ดาวิดเคยอยู่นั้น”