พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลПримерок

วิธีพบสันติสุขในความทุกข์ยาก
เป็นเวลา 2,000 ปีที่สาวกของพระเยซูต้องเผชิญกับความทุกข์ยาก การต่อต้าน และการข่มเหง ผมกับพิพพาเคยไปหลายแห่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คริสเตียนต้องเผชิญกับการกดขี่ข่มเหงทางร่างกาย ที่จริง…การข่มเหงคริสเตียนทั่วโลกในทุกวันนี้อาจเลวร้ายยิ่งกว่าครั้งใดในประวัติศาสตร์ ปัจจุบันเราไม่ได้เผชิญการกดขี่ข่มเหงทางกายแล้วในชาติตะวันตก อย่างไรก็ตาม ดังที่เราเห็นข้อความบางส่วนที่โผล่ออกมาจากผู้ที่มีเจตนาที่จะ ‘กำจัดความเชื่อ’ ชัดเจนว่าการรุกรานและความรุนแรงของการโจมตีอาจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ต่อต้านจะต้องมาแน่นอน บรรดาผู้ที่ปรารถนา ‘ดำเนินชีวิตตามทางพระเจ้าในพระเยซูคริสต์จะถูกข่มเหง’ (2 ทิโมธี 3:12) การต่อต้านมาจากผู้ที่อยู่ห่างไกลจากเรา (ชาวฟิลิสเตียในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมสำหรับวันนี้) และบางครั้งก็มาจากผู้ที่ใกล้ชิด (พวกฟาริสีในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่) คุณจะพบความสันติสุขในความทุกข์ยากได้อย่างไร?สุภาษิต 12:18-27
แนะให้มีสันติภาพ
ยาถอนพิษต่อการต่อต้านและความชั่วร้ายคือการดำเนินชีวิตในวิญญาณในตรงกันข้าม คือ เป็นผู้ที่ ‘แนะให้มีสันติภาพ’ ผู้เขียนเปรียบเทียบ ‘ความหลอกลวงอยู่ในใจของคนที่คิดการชั่ว’ (ข้อ 20ก) ‘คนที่แนะให้มีสันติภาพก็มีความยินดี’ (ข้อ 20ข) คุณสามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างไร?
1. นำการรักษา
แนะให้มีสันติภาพด้วยคำพูดของคุณ ‘คำพูดที่รุนแรงทำให้บาดเจ็บและพิการ แต่มีการรักษาในคำพูดของปราชญ์’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) คำพูดมีพลังมาก คำพูดสามารถทำให้เจ็บลึกได้ แต่คำพูดก็สามารถรักษาได้เช่นกัน
2. จริงใจ
‘ปากที่พูดจริงทนอยู่ได้เป็นนิตย์ แต่ลิ้นที่พูดมุสาอยู่ได้เพียงประเดี๋ยวเดียว’ (ข้อ 19) คำพูดที่สัตย์จริงไม่เพียงแต่เป็นการแสดงออกความรู้สึกเท่านั้น แต่ยังเป็นคำพูดที่ส่งผลกระทบที่ยั่งยืนอีกด้วย คือ ‘ทนอยู่ได้เป็นนิตย์’ (ข้อ 19)
3. ยับยั้งชั่งใจ
'คนโง่อวดความโง่' (ข้อ 23ข) แต่ ‘คนหยั่งรู้ไม่สะดวกใจที่จะแสดงความรู้ของเขา’ (ข้อ 23ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) ความรู้ก็เหมือนชุดชั้นใน การมีไว้มีประโยชน์ แต่ไม่จำเป็นต้องอวด! ความจริงที่ว่าคุณรู้คำตอบไม่ได้หมายความว่าคุณต้องตอบ ผมประทับใจเสมอกับการยับยั้งชั่งใจของเจ้าภาพ และผู้ช่วยของอัลฟ่าที่ทำสิ่งนี้ได้ดี
4. มีเมตตา
‘ความกระวนกระวายในใจคนถ่วงเขาลง’ (ข้อ 25ก) พระเจ้าต้องการให้คุณสนุกกับชีวิต ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่วิตกกังวล แต่พูดถ้อยคำที่ดีให้กำลังใจคนอื่น (ข้อ 25ข) ด้วยคำพูดที่ให้กำลังใจ คุณสามารถเปลี่ยนวันของคน ๆหนึ่งหรือแม้แต่ชีวิตของพวกเขาก็ได้
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้เป็นผู้ที่แนะให้มีสันติภาพ และผู้ที่พูดคำแห่งการรักษา พูดด้วยความจริง มีความยับยั้งชั่งใจ และมีความเมตตา
ยอห์น 11:45-12:11
ดำเนินชีวิตในสันติภาพ
พระเจ้าทรงเป็นองค์เจ้านาย พระองค์ใช้แม้กระทั่งสิ่งที่เลวร้ายที่สุดเพื่อความดีที่สุดแล้ว เราเห็นสิ่งนี้บนไม้กางเขนคือแผนการที่เลวร้ายที่สุด เป็นการทรมาน และการสังหารพระบุตรผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้านั้นถูกใช้โดยพระเจ้า เพื่อนำความรอดมาสู่เผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด
ในกรณีนี้ คุณสามารถดำเนินชีวิตในสันติภาพ โดยวางใจว่าพระเจ้าจะทรงใช้สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่คุณเผชิญในชีวิตเพื่อการดี (โรม 8:28)
พระเยซูทรงเผชิญแผนการชั่วร้าย แรงจูงใจดูเหมือนเป็นความอิจฉา (เป็นบาปที่ผู้เชื่อมักจะกระทำ) ผู้คนต่างอิจฉาพระเยซูเพราะว่าพระองค์มีผู้ติดตามจำนวนมากและดูเหมือนจะ ‘ประสบความสำเร็จ’ มากกว่าบรรดาผู้นำทางความเชื่อ ด้วยความอิจฉา พวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกฟาริสีจึงเรียกประชุมสภาแซนเฮดริน (ยอห์น 11:47ก)
สภาแซนเฮดรินเป็นศาลสูงสุดของชนชาติ ประกอบด้วยสมาชิกเจ็ดสิบเอ็ดคนรวมทั้งมหาปุโรหิต พวกหัวหน้าปุโรหิตเป็นส่วนใหญ่ และพวกฟาริสีเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีอิทธิพล พวกเขาถามว่า ‘เราจะทำอย่างไรกันดี’ (ข้อ 47ข) เป็นคำถามที่ดีมาก! พวกเขาอิจฉาความนิยมของพระเยซู และวางแผนที่จะฆ่าพระองค์ (ข้อ 53)
พวกเขาต้องการให้เกิดการร้าย แต่พระเจ้าทรงทำให้เป็นการดี คายาฟาส (ซึ่งเป็นมหาปุโรหิตตั้งแต่ ค.ศ. 18–36) พยากรณ์ว่า ‘ไม่รู้หรือว่าเป็นการดีสำหรับพวกท่านที่จะมีคนหนึ่งตายเพื่อประชาชน แทนที่จะให้คนทั้งชาติต้องพินาศ’ (ข้อ 50) พระเจ้าสามารถตรัสผ่านผู้ที่ไม่รู้ได้
ยอห์นให้ความเห็นว่า ‘คายาฟาสไม่ได้พูดสิ่งนี้ตามความยินยอมของเขาเอง แต่ในฐานะหัวหน้าปุโรหิตในปีนั้น เขาพยากรณ์โดยไม่รู้ตัวว่าพระเยซูกำลังจะสิ้นพระชนม์เพื่อเป็นเครื่องบูชาเพื่อประชาชาติ ไม่เพียงเพื่อประชาตินี้เท่านั้น แต่เพื่อบุตรที่กระจัดกระจายทั้งหมดของพระเจ้า ที่จะรวมเป็นหนึ่ง’ (ข้อ 51–52, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
บางทีอาจเป็นเพราะพระองค์รู้ถึงแผนการที่ต่อต้านพระองค์ ‘เพราะฉะนั้นพระเยซูจึงไม่เสด็จไปมาท่ามกลางพวกยิวอย่างเปิดเผยอีก แต่เสด็จออกจากที่นั่น....ประทับอยู่ที่นั่นกับพวกสาวก’ (ข้อ 54) แต่นี่ไม่ใช่จุดจบของการต่อต้านที่พระเยซูต้องเผชิญ
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือการต่อต้านจากยูดาส เมื่อมารีย์เทน้ำมันลงที่พระบาทของพระเยซู ยูดาสคัดค้านว่า ‘ทำไมไม่เอาน้ำมันนั้นไปขายและมอบเงินให้คนยากจน? (มูลค่าเท่ากับค่าจ้างหนึ่งปี)’ (12:5) ดูเผิน ๆ นี่เป็นการคัดค้านที่ดี แต่เราได้อ่านต่อว่า ‘เขาพูดอย่างนั้นไม่ใช่เพราะเขาเอาใจใส่คนจน’ (ข้อ 6)
พระเยซูต้องลำบากใจมากจนยูดาสที่เป็นดั่งสหายและสาวกของพระองค์ขโมยเงินการถวายให้พระเยซูและสาวกของพระองค์โดยผู้ให้ที่ใจกว้างขวาง (ลูกา 8:2–3)
พระเยซูเพียงตอบสนองต่อคำคัดค้านของยูดาสว่า ‘เพราะว่ามีคนจนอยู่กับพวกท่านเสมอ แต่เราจะไม่อยู่กับท่านเสมอ’ (ยอห์น 12:8)
พระเยซูไม่ทรงสนับสนุนให้คนยากจนพอใจอย่างแน่นอน ความจริงที่ว่าเราจะไม่มีวันขจัดความยากจนในโลกนี้ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ควรพยายาม ท้ายที่สุด ความเห็นอกเห็นใจต่อคนยากจนเป็นหัวใจสำคัญของพันธกิจของพระเยซู พระเยซูทรงหันความสนใจของเหล่าสาวกให้สนใจความสำคัญของสิ่งที่มารีย์ทำ
ขณะที่ทั้งหมดนี้กำลังดำเนินอยู่ แผนการต่อต้านพระเยซูกำลังก่อตัวขึ้น (ข้อ 9–11) ความอิจฉาอาจนำไปสู่การฆาตกรรม พวกเขาไม่เพียงแต่วางแผนที่จะฆ่าพระเยซูเท่านั้น (ข้อ 11:53) พวกเขายังวางแผนจะฆ่าลาซารัสด้วย เพราะเขากำลังนำผู้คนจำนวนมากไปสู่ความเชื่อ (ข้อ 12:10-11)
เป็นสิ่งที่อัศจรรย์ที่เราเห็นพระหัตถ์ของพระเจ้าทำงานผ่านทุกสิ่ง แม้จะมีการต่อต้านและการกระทำผิด แผนการสุดท้ายของพระเจ้าก็ยังสำเร็จ สิ่งที่ฝ่ายต่อต้านของพระเยซูตั้งใจให้มีการร้าย แต่พระเจ้าใช้สิ่งนั้นให้เป็นการดี
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ข้าพระองค์สามารถดำเนินชีวิตอย่างมีเสีภาพ โดยรู้ว่าในทุกสิ่งที่พระองค์ทำก็เพื่อประโยชน์ของคนที่รักพระองค์
1 ซามูเอล 5:1-7:17
อธิษฐานเพื่อเสรีภาพ
พระเจ้าไม่เคยลืมคำอธิษฐานของคุณแม้แต่คำเดียว แม้ว่าคุณอาจจะลืมก็ตาม สิ่งต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นกับคุณในวันนี้ อาจเป็นคำอธิษฐานที่คุณอธิษฐานเมื่อหลายปีก่อนและคุณอาจลืมไปหมดแล้ว แต่พระเจ้ายังคงทำงานในเวลาของพระองค์ จงเก็บสะสมคำอธิษฐาน การมุ่งมั่นอธิษฐานจะเกิดผลดี
ภายใต้พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม หีบพันธสัญญาของพระเจ้าเป็นที่ที่พระเจ้าประทับอยู่อย่างสูงสุด และเป็นที่ตั้งของพระสิริของพระเจ้า เมื่อวานนี้เราได้อ่าน ‘พระสิริพรากจากอิสราเอลแล้ว เพราะหีบของพระเจ้าถูกยึดไป’ (ข้อ 4:22)
บางครั้งคุณอาจต้องรอเป็นเวลานานกว่าที่พระเจ้าจะทรงกระทำและตอบคำอธิษฐานของคุณ ‘เป็นเวลาช้านานถึง 20 ปี และบรรดาพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งสิ้นก็คร่ำครวญถึงพระยาห์เวห์’ (ข้อ 7:2) ผมรู้สึกว่าเราอธิษฐานมานานแล้วถ้าเราอธิษฐานเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ แต่พวกเขาอธิษฐานเป็นเวลายี่สิบปีเพื่อประเทศของพวกเขาก่อนที่พระเจ้าจะทรงตอบ
เส้นทางสู่การปลดปล่อยมักเริ่มต้นเมื่อเรากลับมาหาพระเจ้าด้วยสุดใจของเรา ซามูเอลกล่าวว่า ‘“ถ้าท่านจริงจังในการกลับมาหาพระเจ้า จงทำความสะอาดบ้าน ขจัดพระต่างด้าวและเทพธิดาแห่งความอุดมสมบูรณ์ จงตั้งมั่นในพระเจ้า นมัสการพระองค์และพระองค์เพียงผู้เดียว แล้วพระองค์จะช่วยท่านให้พ้นจากการกดขี่ของชาวฟิลิสเตีย” พวกเขาทำมัน พวกเขากำจัดเทพเจ้าและเทพธิดา รูปเคารพของพระบาอัลและอัชโทเรธ และให้ความสนใจและรับใช้พระเจ้าเป็นพิเศษ’ (ข้อ 7:3–4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
สิ่งแรกที่คุณต้องทำในชีวิตของคุณเมื่อคุณกำลังแสวงหาการทรงสถิตและความช่วยเหลือจากพระเจ้าคือ นำทุกสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจของคุณออกไปจากพระเจ้า
หลังจากการกลับมาหาพระเจ้า มีความจำเป็นต้องสารภาพผิดและการกลับใจเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นโดยการ ‘อดอาหารในวันนั้น และพูดที่นั่นว่า “พวกเราได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์”’ (ข้อ 6)
ในที่สุด ซามูเอลก็อธิษฐานวิงวอนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายี่สิบปีซึ่งทำให้คนของพระเจ้าได้รับชัยชนะ ซามูเอลกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าจะอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์เพื่อท่าน’ (ข้อ 5) พวกเขากล่าวว่า 'จงอธิษฐานด้วยสุดกำลังของท่าน! และอย่ายอมแพ้! อธิษฐานต่อพระเจ้า พระเจ้าของเรา ว่าพระองค์จะทรงช่วยเราให้รอดพ้นจากรองเท้าของชาวฟีลิสเตีย (ข้อ 8, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘ซามูเอลร้องทูลต่อพระยาห์เวห์เพื่ออิสราเอล และพระยาห์เวห์ทรงตอบท่าน’ (ข้อ 9)
พวกเขารู้ว่านี่เป็นคำตอบที่น่าอัศจรรย์ของการอธิษฐาน ‘พระยาห์เวห์ทรงช่วยพวกเราจนบัดนี้’ (ข้อ 12) พวกเขาได้รับการปลดปล่อยจากอำนาจของชาวฟีลิสเตียและมีเสรีภาพในแผ่นดิน (ข้อ 13)
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ขอสัญญากับพระองค์อีกครั้งเพื่อรับใช้พระองค์เท่านั้น ยกโทษบาปของข้าพระองค์และบาปของประชากรของพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลขอความรอดและสันติสุขจากพระองค์ ขอให้พวกข้าพระองค์เห็นผู้คนมากมายในแผ่นดินนี้เชื่อในพระเยซู พบสันติสุขในความทุกข์ยาก
Pippa Adds
1 ซามูเอล 5:4
‘แต่เมื่อพวกเขาตื่นแต่เช้าในวันรุ่งขึ้น ดูสิ พระดาโกนก็ล้มหน้าคว่ำมายังพื้นดินตรงหน้าหีบของพระยาห์เวห์ เศียรของพระดาโกนและมือทั้งสองก็หักออกอยู่ที่ธรณีประตู เหลืออยู่แต่ลำตัวพระดาโกน’
เมื่อมีการทรงสถิตอยู่ ณ ที่แห่งใด ฤทธิ์เดชของพระเจ้าก็ถูกปลดปล่อย และรูปเคารพปลอมก็ถูกทุบลงบนพื้น
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)Опис за овој план

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Слични Планови

Што е вистинска љубов?

Пет молитви на понизност

Отстапи го на Бога првото место

Живеј со сила и храброст!

Твојата најдобра инвестиција!

Библија за деца

Живеј живот со цел!

доверба - да веруваш на тоа што бог го кажува во неговото слово и да живееш во согласност со тоа божјо слово

божиќ о, дојдете да го прославиме!
