พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลMuestra

จากนิมิตสู่การลงมือปฏิบัติ
แจ็คกี้ พูลลิงเจอร์ ได้ใช้ชีวิตของเธอในการทำงานกับคนยากจนและบุคคลอนาถา กลุ่มอาชญากรลับชาวจีน กลุ่มคนติดเฮโรอีนและฝิ่น เธอช่วยเหลือคนติดยาหลายพันคนให้สามารถเลิกยาได้ผ่านทางฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เธอได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในชีวิตมากมายมหาศาล และยังส่งอิทธิพลอย่างมากในฮ่องกงอีกด้วย แจ็คกี้เขียนไว้ว่า ‘ฉันได้ใช้เวลามากกว่าครึ่งชีวิตของฉันในสถานที่ที่มืดมน เน่าเฟะ เพราะฉันได้รับ “*นิมิต*” ของนครแห่งหนึ่งที่มีแสงไฟเจิดจ้า มันคือความฝันของฉัน ที่นั่นไม่มีการร้องไห้ การตาย หรือความเจ็บปวดอีกต่อไป คนป่วยได้รับการรักษา คนติดยาสามารถเลิกยาได้ ผู้ที่หิวโหยได้อิ่มท้อง เด็กกำพร้าได้มีครอบครัวที่รับไปเลี้ยงดู มีบ้านสำหรับคนไร้บ้าน และมีศักดิ์ศรีใหม่สำหรับคนที่เคยอยู่ในความอับอาย ฉันไม่รู้ว่าจะนำสิ่งนี้ออกมาได้อย่างไร แต่ด้วย *“ความร้อนรนในนิมิต”* ที่ช่วยให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ตามกำแพงเมืองได้มารู้จักผู้ที่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างได้ นั่นก็คือ พระเยซู’ นิมิตคือ “ความไม่พอใจอันบริสุทธิ์” มันคือ ความรู้สึกไม่พอใจในส่วนลึกกับบางสิ่งที่เป็นอยู่ บวกกับภาพที่ชัดเจนถึง*สิ่งที่ควรจะเป็น* มันคือภาพที่เห็นได้ในความคิด เป็นภาพแห่งอนาคตที่เป็นแรงบันดาลใจให้มีความหวัง นิมิตที่ปราศจากการลงมือทำเป็นแค่เพียงความฝันลมๆแล้งๆเท่านั้น ส่วนการลงมือปฏิบัติโดยปราศจากนิมิตนั้นเป็นเหมือนดังฝันร้าย! แต่*นิมิตบวกกับการลงมือปฏิบัติ* สามารถเปลี่ยนโลกได้สุภาษิต 29:10-18
ความสำคัญของนิมิต
‘ที่ใดๆที่ไม่มีนิมิต ประชาชนก็พินาศ’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จากไทยคิงเจมส์)
คำในภาษาฮีบรูสามารถแปลความหมายได้เช่นเดียวกับ ‘การเปิดเผย’ หรือ ‘นิมิต’ (พระคัมภีร์ตอนนี้จากไทยคิงเจมส์) สิ่งนี้อ้างถึงการสื่อสารของพระเจ้าต่อผู้เผยพระวจนะของพระองค์ ที่ที่ไม่มีนิมิตแห่งการสำแดงจากพระเจ้า ที่นั่นจะเต็มไปด้วยความอลหม่านทั้งในฝ่ายจิตวิญญาณและการเมือง ‘ประชาชนก็ปล่อยตัว’ (ข้อ 18)
นิมิตและการยับยั้งชั่งใจควรไปด้วยกัน ความรักอย่างแรงกล้าและความขุ่นเคืองอย่างไร้ศีลธรรมสามารถขับเคลื่อนให้นิมิตนั้นนำไปสู่ ‘ความโกรธที่ไม่สามารถควบคุมได้’ แต่ผู้เขียนกล่าวว่า ‘คนโง่ระบายความโกรธออกมาเต็มที่ แต่คนมีปัญญาย่อมยับยั้งไว้เงียบๆ’ (ข้อ 11) แจ็คกี้ พูลลิงเจอร์เช่นเดียวกับมาร์ติน ลูเธอร์ คิง, วิลเลียม วิลเบอร์ฟอร์ซ และคนอื่นๆอีกหลายๆคนนั้น เป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมของผู้นำที่ยึดมั่นในนิมิตและการยับยั้งช่างใจ
ในส่วนที่เหลือของบท เราได้เห็นผลลัพธ์ของทั้งภาวะผู้ที่ดีและภาวะผู้นำที่ชั่วร้าย ‘เมื่อคนอธรรมทวีอำนาจ การทรยศก็ทวีขึ้น’ (ข้อ 16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ในขณะที่ ‘ถ้าพระราชาพิพากษาคนจนด้วยความเที่ยงธรรม พระที่นั่งของพระองค์จะตั้งอยู่เป็นนิตย์’ (ข้อ 14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ได้ยินเสียงของพระองค์ ขอทรงประทานการสำแดงอันสดใหม่ของพระองค์ต่อข้าพระองค์ในวันนี้
1 ยอห์น 2:28-3:10
ฤทธิ์อำนาจของนิมิต
พระเยซูทรงมีนิมิตที่ชัดเจนสำหรับชีวิตของพระองค์ และพระองค์ทรงรวมมันเข้ากับการลงมือปฏิบัติ ‘พระองค์ทรงปรากฏเพื่อกำจัดบาปของเราให้หมดไป’ (3:5)
ยอห์นกล่าวต่อไปว่า ‘พระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาปรากฏก็เพราะเหตุนี้ คือเพื่อทำลายกิจการของมาร’ (ข้อ 8) พระเยซูทรงกำจัดบาปของคุณและทำลายกิจการของมารผ่านการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์
คุณพอจะทราบหรือไม่ว่าพระเจ้าทรงรักคุณมากแค่ไหน? ‘ลองคิดดู พระบิดาได้ประทานความรักแก่เราเพียงไรที่เราได้ชื่อว่าเป็นลูกของพระเจ้า! และเราก็เป็นอย่างนั้น!’ (ข้อ 1)
พระเจ้าทรงมีนิมิตที่ชัดเจนในการส่งพระบุตรของพระองค์ลงมาเพื่อตายเพื่อท่าน พระองค์ปรารถนาที่จะมอบความรักของพระองค์ให้กับคุณ นิมิตของพระองค์เพื่อคุณก็คือ ในวันหนึ่ง คุณจะเป็นเหมือนพระเยซูและได้เห็นพระเยซู ‘อย่างที่พระองค์ทรงเป็น’ (ข้อ 2)
พระเจ้าทรงมีนิมิตสำหรับชีวิตของคุณ คุณเองก็ควรที่จะมีนิมิตสำหรับชีวิตของคุณเช่นกัน นิมิตภาพรวมของชีวิตท่านควรจะเป็นการที่คุณได้เป็นเหมือนพระเยซูให้มากขึ้นเท่าที่คุณจะสามารถเป็นได้ในตอนนี้ ‘และทุกคนที่มีความหวังอย่างนี้ในพระองค์ ก็ชำระตนให้บริสุทธิ์เหมือนที่พระองค์ทรงบริสุทธิ์’ (ข้อ 3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
การทดสอบที่จะบอกได้ว่าคุณเป็นลูกของพระเจ้าหรือไม่ก็คือ: ‘ผู้ที่เกิดจากพระเจ้าจะไม่ถือว่าประพฤติและหลงระเริงในความบาป...ผู้ที่ไม่ได้ประพฤติชอบก็ไม่ได้มาจากพระเจ้าและผู้ที่ไม่รักพี่น้องของตนก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า เหล่านี้เป็นการทดสอบ’ (ข้อ 9-10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ความรักและการประพฤติชอบเป็นตัวชี้วัดสองสิ่งว่าคุณ คือ ลูกของพระเจ้า
จอยซ์ ไมเยอร์ เขียนไว้ว่า ‘ฉันเคยเป็นคนบาปเต็มเวลา และหลังจากนั้นไม่นานฉันก็ “บังเอิญ” ได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ในตอนนี้ที่ฉันได้ใช้เวลาหลายปีในการพัฒนาความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ลงลึกกับพระเจ้า...ฉันยังคงทำผิดพลาด แต่เทียบไม่ได้เลยกับที่สิ่งที่ฉันเคยทำไว้ในอดีต ฉันยังไปไม่ถึงจุดที่ฉันจำเป็นต้องอยู่ แต่ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันไม่ได้อยู่ในจุดเดิมที่ฉันเคยอยู่อีกต่อไป ฉันไม่ได้ทำถูกต้องในทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ฉันรู้ว่าท่าทีในหัวใจของฉันนั้นถูกต้อง’
นิมิตของคุณควรจะเป็นการที่ได้อยู่ใกล้ชิดพระเยซู ‘จงอยู่ใกล้พระคริสต์ ใช้ชีวิตให้ลึกลงไปในพระคริสต์...เราจะได้มีความมั่นใจ และไม่ต้องหลบพระพักตร์พระองค์ด้วยความละอาย เมื่อพระองค์เสด็จมา’ (2:28, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
นี่ควรเป็นนิมิตหลักของชีวิตคุณ เป็นไปได้ที่เราจะโฟกัสกับบางสิ่งอย่างเจาะจงที่เรานั้นมักเชื่ออย่างถูกต้องว่าพระเจ้าทรงเรียกให้เราทำ แต่ก็ต้องไม่ละเลยนิมิตภาพรวมนี้สำหรับชีวิตของคุณเอง พระเจ้าทรงสนพระทัยอย่างมากว่าคุณใช้ชีวิตของคุณอย่างไรมากกว่าสิ่งที่คุณประสบความสำเร็จ การทรงเรียกส่วนบุคคลของเรานั้นดี และมีความสำคัญ แต่นิมิตหลักสำหรับชีวิตของเรา ควรจะเป็นการที่เราได้อยู่ใกล้ชิดพระเยซูเสมอ
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับนิมิตอัศจรรย์สำหรับข้าพระองค์ ที่วันหนึ่งข้าพระองค์จะเป็นเหมือนพระเยซู และที่จะได้เห็นพระองค์ในสิ่งที่พระองค์ทรงเป็น
ดาเนียล 8:15:9-19
นิมิตที่ถูกทำให้สำเร็จ
ดาเนียลเป็น ‘ผู้เห็นนิมิต / ผู้มีวิสัยทัศน์’ ในทั้งสองแง่ของคำนี้ เขาได้รับการสำแดงอันล้ำลึก (‘นิมิต’ คำที่ปรากฏถึงเจ็ดครั้งในพระธรรมดาเนียล 8:15-27) และมีเป้าหมายตามวิสัยทัศน์สำหรับชีวิตของเขาเอง
ในครึ่งแรกของบทวันนี้ ดาเนียลได้รับการตีความของนิมิตของเขา (การสำแดงอันล้ำลึก) โดยทูตสวรรค์กาเบรียล (ข้อ 16, นี่เป็นที่แรกในพระคำของพระเจ้าที่ทูตสวรรค์ได้ถูกเรียกชื่อ) กาเบรียลอธิบายให้ดาเนียลได้รู้ว่านิมิตที่เขาเห็นนั้น ‘เกี่ยวข้องกับกาลอวสาน’ (ข้อ 17) ‘นิมิตนี้..เป็นความจริง..เป็นเรื่องของวันข้างหน้า’ (ข้อ 26, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
นิมิตของดาเนียลนี้มีทั้งที่เกิดขึ้นแล้วในประวัติศาสตร์และที่ต้องรอคอย ส่วนที่ได้เกิดขึ้นแล้วนั้นอาจพบได้ในช่วงเวลาแห่งความมืดในประวัติศาสตร์ชนชาติยิว ในระหว่าง 175 และ 164 ปีก่อนคริสตกาล พวกเขาได้ถูกปกครองโดยกษัตริย์ต่างชาติคือแอนทิโอคัสที่ 4 เอพิฟาเนส เขาข่มเหงชาวยิว ล้มล้างกฏหมายแห่งการนมัสการพระเจ้า ทำลายพระนิเวศ และฆ่าคนหลายพันคน แต่วิญญาณที่ครอบงำแอนทิโอคัสและปล่อยให้เขาประสบความสำเร็จอย่างโลก(ข้อ 23-25) นั้นเป็นวิญญาณเดียวกับที่ดลใจกลุ่มคนที่ต่อต้านพระคริสต์ในวันสุดท้าย (ดู 2 เธสะโลนิกา 2:3-8; โรม 13:11,14)
ดาเนียลเผยพระวจนะต่อกษัตริย์องค์นี้ว่า ‘ท่านจะถูกหักทำลาย แต่ไม่ใช่ด้วยมือมนุษย์’ (ดาเนียล 8:25) กองทัพของแอนทิโอคัสเคลื่อนพลเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มและฆ่าคนยิวไปทั้งสิ้น 80,000 คน และสนับสนุนการนมัสการเทพซุส เขาได้ตายลงอย่างกะทันหันและอย่างไม่คาดฝันในช่วง 164 ปีก่อนคริสตกาลจากโรคร้ายแรงที่ไม่มีผู้ใดรู้จัก คำเผยพระวจนะนี้จะได้เกิดขึ้นจริงในครั้งสุดท้ายเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมาและทำลายล้างมาร ‘ด้วยลมพระโอษฐ์ของพระองค์’ (2 เธสะโลนิกา 2:8)
ดาเนียลยังเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ในแอีกแง่หนึ่งด้วย เขาเข้าใจ ‘ตามพระวจนะของพระยาห์เวห์’ ‘ข้าพเจ้าดาเนียลได้ใคร่ครวญพระคัมภีร์...ตามพระวจนะของพระเจ้าที่ทรงมีถึงเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะ’ (ดาเนียล 9:2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล; ดูใน เยเรมีย์ 25:11-12; 29:10) ว่าจะต้องผ่านพ้นไปก่อนสิ้นวันกรุงเยรูซาเล็มร้างเปล่าคือ 70 ปี (นั่นก็คือ จาก 587 ปีก่อนคริสตกาลถึงการก่อสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ในช่วง 516 ปีก่อนคริสตกาล)
ถ้าคุณปรารถนาให้พระเจ้ามอบนิมิตอย่างเจาะจงให้สำหรับชีวิตของคุณ เราได้เห็นในบทนี้ถึงกุญแจ 2 ดอกที่จำเป็นอย่างยิ่ง อย่างแรก นิมิตอันมาจากพระเจ้าทั้งหมดจำเป็นต้องได้มาจากความเข้าใจ ‘ตามพระวจนะของพระยาห์เวห์’ อย่างที่สอง นิมิตจะสำเร็จเป็นจริง ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยการอธิษฐาน ดาเนียลหันหาพระเจ้าด้วยการอธิษฐาน (ดาเนียล 9:4)
คำอธิษฐานของดาเนียลนั้นเป็นการที่เขาได้ระบายความในในของเขาต่อพระเจ้า เขารู้อยู่เสมอผ่านความยิ่งใหญ่และพระกรุณาของพระเจ้า และความรู้สึกไม่คู่ควรของเขาเอง แต่เขาก็ยังมั่นใจในความสามารถของพระเจ้าที่จะตอบคำอธิษฐานของเขา
พระเจ้าทรงรอคอยให้คุณเข้ามาพูดคุยกับพระองค์เกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในใจของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องกลั้นหรือปิดบังบางส่วนในสิ่งที่คุณต้องการจะพูดคุยกับพระองค์ หรือพยายามจะเป็นในสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ตัวตนของคุณพระองค์นั้นทรงรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณแล้ว แต่พระองค์ก็ยังทรงปรารถนาที่จะได้ยินจากคุณและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้นกับคุณ จงเป็นตัวเองกับพระเจ้าเมื่อคุณอธิษฐาน ไม่ใช่พยายามที่จะเป็นคนอื่นที่คุณคิดว่าคุณควรจะเป็น
ดาเนียลสารภาพบาปว่าพวกเขาได้ทำบาปในทุกทาง ทั้งทางความคิด การละเลยพระเจ้า และปล่อยตัวทำในสิ่งที่เขาพอใจ พวกเขาเหล่านั้นเต็มไปด้วยความผิดและความอับอาย (ข้อ 3-16)
แต่ดาเนียลรู้ว่าพระเจ้าจะไม่ทรงล้มเลิกกับผู้ที่รักพระองค์ (ข้อ 4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) และที่ “การอภัยโทษนั้นเป็นเพียงความหวังเดียวของเรา” (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
บนพื้นฐานนั้น เขาอธิษฐานเพื่อเมืองของเขาและชนชาติของเขา (ข้อ 17-19) คำอธิษฐานของดาเนียลได้รับคำตอบ คุณเองก็สามารถร้องทูลต่อพระเจ้าเพื่อเมืองและชนชาติของคุณได้เช่นเดียวกัน และเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงตอบคำอธิษฐานของคุณและทำให้นิมิตที่ทรงมอบไว้ให้ท่านนั้นได้เกิดขึ้นจริง
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงประทานนิมิตสำหรับเมืองและชนชาติของข้าพระองค์ เพื่อพระนามของพระองค์ได้โปรดเมตตาเรา องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงนำการฟื้นฟูและการแตะต้องรักษามาสู่เรา ขอพระนามพระองค์ได้รับพระเกียรติ
Pippa Adds
1 ยอห์น 3:1
‘พระบิดาได้ประทานความรักแก่เราเพียงไรที่เราได้ชื่อว่าเป็นลูกของพระเจ้า’
‘(มาก)เพียงไร’ ช่างเป็นคำที่ยิ่งใหญ่
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)Acerca de este Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Planes relacionados

5 Claves Para Liderar Con Madurez: Convierte tu influencia en impacto duradero

El Tesoro Del Sufrimiento

Un Matrimonio Que Da Fruto

Vivir Una Vida Que Importe

inVISIBLES

El Arte Perdido Del Servicio

¡Hola Rival! Un Plan De Juego Bíblico Para Deportistas Cristianos.

De Camino Con Jesús

El Rey Que Se Hizo Siervo
