พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลUkázka

วิธีอธิษฐานด้วยฤทธิ์เดช
ผมได้รับโทรศัพท์จากใครคนหนึ่งในคริสตจักรของเรา เขาต้องการให้ผมไปอธิษฐานเผื่อภรรยาของเขา ที่เข้ารับการผ่าตัดในโรงพยาบาลอย่างกะทันหัน ขณะที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ตัวผมเองก็มีนัดฉีดยาที่ไหล่ใกล้ ๆ กันพอดี ผมมีอาการ ‘ข้อไหล่ติด’ มาเกือบสองปีแล้ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา จู่ ๆ อาการผมก็ดีขึ้น ผมอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับหมอ หมอมองมาที่ผมและพูดว่า ‘นี่มันเป็นเรื่องอัศจรรย์!’ ผมพูดว่า ‘จู่ ๆ อาการข้อไหล่ติดของผมก็ดีขึ้นงั้นหรือหมอ?’ เขาย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า 'ไม่ใช่ครับ นี่มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์’ เขาเป็นแพทย์ที่ไม่ใช่คริสเตียนที่พยายามเกลี้ยกล่อมศิษยาภิบาลที่ค่อนข้างขาดความเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นสามารถอธิบายได้ด้วยอำนาจเหนือธรรมชาติของพระเจ้าเท่านั้น! ผมขอบคุณหมอมากที่เพิ่มเติมความเชื่อขณะที่ผมกำลังจะไปอธิษฐานในโรงพยาบาล ขณะที่ผมเดินผ่านทางเดิน ผมได้เดินผ่านคนเฝ้าประตูของโรงพยาบาลที่กำลังร้องเพลงอยู่ (เสียงดังมาก!) ‘วางมือบนคนป่วยแล้วพวกเขาจะหายดี' ผมพูดว่า ‘นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังจะไปและทำ’ เขาดูตกใจ และประหลาดใจอย่างมาก เห็นได้ชัดว่า เขาไม่คิดว่าผมเป็นคนที่เชื่อแบบนั้น! ผมขึ้นบันไดเพื่อไปอธิษฐานกับผู้หญิงคนนั้น และอธิบายว่า ทำไมความเชื่อของผมเพิ่มขึ้น ผู้หญิงคนนี้กล่าวว่า เธอได้อ่านยากอบบทที่ 5 (ซึ่งเป็นข้อพระคัมภีร์สำหรับวันนี้) ซึ่งบอกว่า ‘มีใครในพวกท่านเจ็บป่วยหรือ? จงให้คนนั้นเชิญบรรดาผู้ปกครองของคริสตจักรมา และให้ท่านเหล่านั้นอธิษฐานเผื่อเขา....การอธิษฐานด้วยความเชื่อจะรักษาผู้ป่วยให้หายโรค’ (ยากอบ5:14–15) ถึงตอนนี้พระเจ้าได้ประทานหมายสำคัญ (แม้แต่ผม!) มากพอที่จะอธิษฐานด้วยความเชื่อ พระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือเธอด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ เธอไม่ได้รับการรักษาในทันที (แม้ว่าตอนนี้เธอดีขึ้นแล้วก็ตาม) แต่มันทำให้ผมเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับ ‘คำอธิษฐานด้วยความเชื่อ’ วอท์ชแมน นี เขียนว่า ‘คำอธิษฐานเป็นตัวกำหนดรางที่ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าจะเคลื่อนมาได้ เช่นเดียวกับหัวรถจักรที่ทรงพลัง พลังของพระองค์ไม่อาจต้านทานได้ และไม่สามารถเคลื่อนมาหาเราได้หากไม่มีราง’ แล้วคุณจะอธิษฐานด้วยฤทธิ์เดชได้อย่างไร?สดุดี 130:1-8
อธิษฐานอย่างสัตย์ซื่อ
คุณเคยรู้สึกอยู่ในห้วงลึกของความสิ้นหวังหรือไม่? คุณเคยรู้สึกหมดหวังหรือไม่ (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)? ผู้เขียนพระธรรมสดุดีกล่าวว่า ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์จากที่ลึก ข้าแต่องค์เจ้านาย ขอทรงฟังเสียงของข้าพระองค์ขอเงี่ยพระกรรณ ฟังเสียงวิงวอนของข้าพระองค์’ (ข้อ 1–2)
คำอธิษฐานของคุณและพระเมตตาของพระเจ้าเหมือนถังน้ำสองใบในบ่อน้ำ เมื่ออันหนึ่งลอยขึ้นอีกอันหนึ่งจมลง
มีความสิ้นหวังอย่างที่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับคำอธิษฐานนี้ อย่าพยายามปิดบังความยากลำบากในสถานการณ์ของคุณ แต่ให้ตระหนักถึงการพึ่งพาพระเจ้าเพื่อขอความช่วยเหลือจากพระองค์
ให้เราวางใจในพระเมตตาของพระเจ้าและการยกโทษ:
|‘ถ้าพระองค์บันทึกความผิด
||ใครจะได้รับโอกาส?
|เมื่อมันปรากฏออกมา การให้อภัยคือพระลักษณะของพระองค์’ (ข้อ 3–4ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
หากพระเจ้าไม่จดบันทึกการกระทำผิดของคุณ คุณไม่ควรเก็บ ‘รายการ’ การกระทำความผิดของผู้อื่นที่ผิดต่อคุณเช่นกัน และความรักนั้น ‘ไม่ช่างจดจำความผิด’ (1 โครินธ์ 13:5)
คุณไม่จำเป็นต้องจัดการชีวิตของคุณก่อนที่คุณจะเข้าหาพระเจ้า พระองค์อยากได้ยินเสียงร้องจากก้นลึกในของหัวใจคุณ
ไม่ว่าสถานการณ์จะสิ้นหวังแค่ไหน คุณก็สามารถมั่นใจได้ว่าความช่วยเหลือจะมาจากพระเจ้า (สดุดี130:6) นำคำร้องทูลของคุณมายังพระเจ้า และจงรอคอยอย่างอดทน (ข้อ 5) วางใจในความรักที่มั่นคงของพระองค์ (ข้อ 7)
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ร้องขอความช่วยเหลือจากในส่วนลึกของจิตใจ ขอบพระคุณที่ในพระองค์มีการอภัย และความรักที่มั่นคง
ยากอบ 5:1-20
อธิษฐานในทุกสถานการณ์
สิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าในชีวิตของเราคือการวางใจสิ่งอื่นมากกว่าพระเจ้า ในบางมุมความเชื่อ และความมั่งคั่ง ก็เหมือนน้ำมันกับน้ำ มันผสมกันยาก และบ่อยครั้งที่เข้ากันไม่ได้
การมีเงินทองในตัวเองนั้นไม่มีผิด แต่มีอันตรายทางฝ่ายวิญญาณอย่างยิ่งในการรักความมั่งคั่ง นั่นคือความเย่อหยิ่ง ความโลภ การตามใจตนเอง และการไม่สนใจความต้องการของผู้อื่น (ข้อ 1–6)
อันตรายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับคนมั่งคั่ง (ซึ่งอาจรวมถึงพวกเราส่วนใหญ่ในตะวันตกในปัจจุบัน) คือเราวางใจในความมั่งคั่งมากกว่าที่จะวางใจในพระเจ้า (1 ทิโมธี 6:17) เหตุใดจึงดูเหมือนจะพบการอัศจรรย์ในการรักษาโรคในบางพื้นที่ของโลกที่มีคนยากจนมากกว่า? บางทีความมั่งคั่งอาจเป็นอุปสรรคต่อความเชื่อ ทำให้เราวางความเชื่อผิดที่ คุณได้รับการทรงเรียกให้หวังใจในพระองค์ผู้ทรงจัดเตรียมทุกสิ่งที่คุณต้องการ และให้คุณอธิษฐานในทุกสถานการณ์
ผู้อ่านจดหมายฉบับนี้กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างชัดเจน ยากอบหนุนใจพวกเขา ‘ท่านทั้งหลายก็ต้องอดทนอย่างนั้น’ (ยากอบ 5:8) ยากอบยกชีวิตของโยบมาเป็นแบบอย่างของคนที่อดทนต่อความทุกข์ยากและทรหดอดทน (ข้อ 11ก) และย้ำเตือนว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมีความสงสารและความเมตตา’ (ข้อ 11ข)
ให้เราอธิษฐานในทุกสถานการณ์ดังต่อนี้:
- เมื่อคุณกำลังเจ็บปวด
‘มีใครในพวกท่านทนทุกข์หรือ? จงให้คนนั้นอธิษฐาน’ (ข้อ 13ก)
มีคำกล่าวว่า ‘คนส่วนใหญ่มีปัญหาในการอธิษฐานมากเมื่อเรามีปัญหาเล็กน้อย แต่มีปัญหาในการอธิษฐานน้อยเมื่อเรามีปัญหามาก’
- เมื่อคุณมีความสุข
‘มีใครร่าเริงยินดีหรือ? จงให้คนนั้นร้องเพลงสรรเสริญ’ (ข้อ 13ข)
นักบุญออกัสตินกล่าวว่า ‘ความคิดของคุณกระตุ้น (ใครซักคน) อย่างลึกซึ้งจน (พวกเขา) ไม่สามารถพอใจได้เว้นแต่ พวก(เขา) จะยกย่องคุณ’
- เมื่อคุณเจ็บป่วย
‘มีใครในพวกท่านเจ็บป่วยหรือ? จงให้คนนั้นเชิญบรรดาผู้ปกครองของคริสตจักร...’ (ข้อ14)
แน่นอน พระเจ้ามักจะรักษาด้วยความร่วมมือของแพทย์ แต่คาดหวังให้พระเจ้ารักษาอย่างอัศจรรย์ในวันนี้ด้วย
- เมื่อคุณทำบาป
ไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างความบาปและความเจ็บป่วยโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถแยกความเป็นไปได้ ยากอบกล่าวว่า ‘และถ้าเขาเคยทำบาป พระองค์ก็จะทรงให้อภัย เพราะฉะนั้นท่านจงสารภาพบาปต่อกันและกัน และจงอธิษฐานเผื่อกันและกัน เพื่อท่านทั้งหลายจะได้รับการรักษาโรค’ (ข้อ 15ข–16)
การสารภาพบาปต่อกัน และอธิษฐานเผื่อกัน จะช่วยในกระบวนการเยียวยาและฟื้นฟู เมื่อสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตของเราถูกซ่อนไว้ในความมืด สิ่งเหล่านี้สามารถมีพลังทำลายล้างได้ เมื่อเรานำพวกเขาออกไปสู่แสงสว่าง เราก็เป็นอิสระ นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องบอกคนทั้งโลก แต่คุณต้องหาคนที่คุณไว้ใจได้อย่างน้อยหนึ่งคน และที่คุณสามารถพูดออกมาได้อย่างเปิดเผย แสดงความอ่อนแอออกมาได้และคุณสามารถปลดปล่อยตัวเองได้อย่างเต็มที่
การอธิษฐานมีพลังและเกิดผล ยากอบชี้ประเด็นนี้อย่างจริงจังโดยดูตัวอย่างของเอลียาห์ เขาควบคุมสภาพอากาศได้ด้วยการอธิษฐาน ทำให้เกิดความแห้งแล้งและหยุดความแห้งแล้งได้ แต่ยากอบประกาศว่า ‘เขาเป็นมนุษย์ที่มีสภาพเหมือนอย่างเรา’ (ข้อ 17) พูดอีกอย่างก็คือ ไม่ว่าเอลียาห์จะทำอะไร คุณก็ทำได้!
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงได้ยินคำอธิษฐานของข้าพระองค์ วันนี้ ข้าพระองค์อธิษฐานขอ....
เอเสเคียล 40:1-49
อธิษฐานด้วยตาที่เปิดออก และหูที่ตั้งใจฟัง
การอธิษฐานไม่ใช่การพูดคนเดียว มันคือบทสนทนา พระเจ้าตรัสกับคุณขณะที่คุณอธิษฐาน
เอเสเคียลกล่าวว่า ‘พระหัตถ์ของพระยาห์เวห์มาอยู่เหนือข้าพเจ้า’ (ข้อ 1) พระเจ้าเรียกเขาให้ไปเผยพระวจนะและเทศนา นี่คืองานของผู้เชื่อในพระเยซู เราจะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ (ข้อ 4)
-
ดู: ‘*จงมองดูด้วยตาเจ้าเอง’* ดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณด้วยสายตาของพระวิญญาณ ดังที่ ดี เอล มูดี้กล่าวว่า ‘คริสเตียนคุกเข่าจะมองเห็นมากกว่าปราชญ์ที่เขย่งปลายเท้า’
-
ฟัง: *‘จงฟังด้วยหูของเจ้า’* ฟังสิ่งที่พระเจ้าตรัสทั้งหมด การสื่อสารสองทางของคุณกับพระเจ้า สิ่งที่พระองค์ตรัสกับคุณสำคัญกว่าสิ่งที่คุณพูดกับพระองค์
-
เอาใส่ใจ: *‘จงเอาใจใส่’* ซิโมน ไวล์เขียนไว้ว่า ‘ความเอาใจใส่เป็นรูปแบบของความเอื้ออาทรที่หาได้ยากและบริสุทธิ์ที่สุด’ สิ่งนี้ใช้ได้กับทุกความสัมพันธ์รวมถึงความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้าด้วย
-
บอก: *‘จงประกาศทุกสิ่ง’* แค่เห็นด้วยตาและได้ยินเท่านั้นยังไม่พอ เราต้องเชื่อฟัง เต็มใจที่จะพูดในสิ่งที่พระเจ้าบอกให้คุณพูด
เอเสเคียลได้รับนิมิตเรื่องพระนิเวศหลังใหม่ เป็นพระนิเวศที่เป็นภาพที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ คล้ายกับเมืองที่อธิบายไว้ในพระธรรมวิวรณ์ (วิวรณ์ 21:16) ที่มีความสมมาตรและความสมบูรณ์แบบในพระนิเวศนี้
ใจกลางของพระนิเวศเป็นห้องของปุโรหิตที่ ‘เข้ามาใกล้พระยาห์เวห์เพื่อจะปรนนิบัติพระองค์’ (เอเสเคียล 40:46) ‘การเข้ามาใกล้พระยาห์เวห์’ ถูกจำกัดจำนวนบรรดาวงค์วานไม่มากในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม
แต่ปัจจุบันนี้ คุณสามารถเข้ามาใกล้พระยาห์เวห์ เพื่อจะปรนนิบัติพระองค์ ผ่านทางพระโลหิตของพระคริสต์ (เอเฟซัส 2:13) ช่างเป็นสิทธิพิเศษที่ยอดเยี่ยม จงเปิดตาและเปิดหูด้วยความตั้งใจฟังในสิ่งที่พระเจ้าทรงตรัสกับคุณ จงมีใจกล้าหาญและมีความเชื่อที่จะอธิษฐานด้วยคำอธิษฐานแห่งความเชื่อ คุณคือลูกที่พระเจ้าทรงรัก คำอธิษฐานของคุณจึงเต็มไปด้วยฤทธิ์เดช
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับฤทธิ์เดชที่พิเศษของคำอธิษฐาน โปรดตรัสกับข้าพระองค์ในวันนี้เมื่อข้าพระองค์เข้ามาใกล้พระองค์
Pippa Adds
ยากอบ 5:17
‘เอลียาห์เป็นมนุษย์ที่มีสภาพเหมือนอย่างเรา’
ฉันไม่รู้สึกเหมือนเอลียาห์เลย เอลียาห์อธิษฐาน และฝนไม่ตกสามปีครึ่ง และมันไม่เป็นแบบนั้น ฉันอธิษฐานว่าไม่ให้ฝนตกในวันแต่งงานของลูกสาวฉัน ฝนไม่ตก แต่หิมะตกแทน!
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)O tomto plánu

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Podobné plány

Uvědomit si, že Bůh mě miluje

Zůstávejme v Ježíši: Přinášejme trvalé ovoce (Love God Greatly/Miluj Boha nesmírně)

Sedmidenní vánoční rozjímání

Svoboda

Ester: Pro chvíli, jako je tato

Co je mým účelem? Nauč se milovat Boha a milovat druhé lidi

Radujme se

Porazit sebevědomí a úzkost

Zkus se modlit
