พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลUkázka

ครั้งเดียวเป็นพอ
ครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 7 มกราคม 1978 ผมในฐานะเจ้าบ่าวยืนที่หน้าคริสตจักรโฮลีทรินิตี้บรอมตันในลอนดอน เจ้าสาว พิพพา ฮิลลอพ เดินตามทางเดินกับพ่อของเธอ และเข้าร่วมกับผมที่ด้านหน้า เราให้คำปฏิญาณต่อกันต่อพระพักตร์พระเจ้าและเราเป็นหนึ่งเดียวกันในการแต่งงาน เราออกจากคริสตจักรในฐานะ ‘คุณและคุณนายกัมเบล’ มันเป็นเหตุการณ์ ‘*ครั้งเดียว*’ แต่มันมีความหมายมากต่อชีวิตของเรา มันเกิดจากความรักที่เรามีให้กัน และเรามุ่งมั่นที่จะรักกันไปจนสิ้นชีวิต เกือบสี่ปีก่อนนั้น เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 1974 ผมได้พบกับพระเยซูคริสต์เป็นครั้งแรก ความสัมพันธ์ความรักเริ่มต้นขึ้น ซึ่งเปลี่ยนชีวิตผมอย่างสิ้นเชิง มันเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้น ‘*ครั้งเดียว*’ อีกเรื่องหนึ่ง แต่ความหมายและผลกระทบของเหตุการณ์ ‘*ครั้งเดียว*’ นั้นยังคงดำเนินต่อไป และยังครอบคลุมถึงปัจจุบัน ผมได้รับความรักที่พระเจ้ามีต่อผม และผมมุ่งมั่นที่จะรักพระองค์ตลอดไป ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ในวันนี้ ผู้เขียนฮีบรูพูดถึงเหตุการณ์ ‘ครั้งเดียว’ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล มันเปลี่ยนเส้นทางของประวัติศาสตร์และมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราทั้งหมด พระเยซูทรงปรากฏ ‘*ครั้งเดียวเท่านั้น*’ (ฮีบรู 9:26) ‘พระองค์ทรงถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาครั้งเดียวเป็นพอ’ (ข้อ 28) พระเยซูเสด็จเข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ครั้งเดียวเป็นพอด้วย ‘พระโลหิตของพระองค์เอง’ (ข้อ 12) ‘เราจึงได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ โดยการถวายพระกายของพระเยซูคริสต์*ครั้งเดียวเป็นพอ*’ (10:10) เหตุการณ์ ‘ครั้งเดียว’ นี้เกิดขึ้นจากความรักอันยิ่งใหญ่ที่พระเจ้ามีต่อเรา และมีความหมายอย่างมากต่อชีวิตของคุณและของผมสดุดี 121:1-8
พระเจ้าจะระแวดระวังและปกป้องคุณ
เมื่อคุณมีปัญหา หรือคุณไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ที่แรกที่คุณมอง คือ ที่ใด? คุณมองหาเพื่อน ครอบครัว หรือหมอหรือไม่? ไม่แปลกอะไรในการขอความช่วยเหลือจากทุกทิศทาง แต่ที่แรกที่ผู้เขียนพระธรรมสดุดีมอง คือมองขึ้นไปข้างบน
ความเสียใจมองย้อนกลับไป ความกลัวมองไปรอบ ๆ ความกังวลมองเข้ามา แต่ความเชื่อนั้นมองขึ้นข้างบน
ผู้เขียนพระธรรมสดุดีเงยหน้าขึ้นมอง ‘ข้าพเจ้าเงยหน้าดูภูเขา ความช่วยเหลือของข้าพเจ้ามาจากไหน?’ (ข้อ 1) ความช่วยเหลือ ความแข็งแกร่ง และการปกป้องของคุณมาจากผู้สร้างจักรวาล ‘กำลังของฉันมาจากพระเจ้า ผู้ทรงสร้างสวรรค์โลกและภูเขา’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘พระองค์จะไม่ทรงทำให้เท้าของท่านสะดุดล้ม พระองค์ผู้อารักขาท่านจะไม่เคลิ้มหลับไป’ (ข้อ 3)
พระธรรมสดุดีที่งดงามเป็นเรื่องราวของความรักของพระเจ้าและการปกป้องของพระองค์ต่อชีวิตของคุณ
‘พระเจ้าผู้อารักขาของเจ้า
|อยู่เคียงข้างเจ้าเพื่อคุ้มครองเจ้า...
พระเจ้าพิทักษ์เจ้าจากความชั่วร้ายทั้งปวง
|พระองค์ปกป้องชีวิตเจ้า
|ทรงคุ้มครองเจ้าตอนออกไปและตอนกลับมา
|พระองค์ปกป้องเจ้าวันนี้และคุ้มครองเจ้าตลอดไป’ (ข้อ 5–8, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
บางครั้ง ผมใช้พระธรรมตอนนี้ในการอธิษฐานเผื่อครอบครัว หรือผองเพื่อนที่มีความยากลำบากในชีวิต
คำสัญญาในพระธรรมสดุดีนี้ คือ พระเจ้าจะทรงปกป้องคุณจากอันตรายร้ายแรงทั้งหมด ผู้เขียนสดุดีไม่อาจรู้ได้ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้ผ่านการเสียสละของพระเยซู ‘ครั้งเดียวเป็นพอ’ ซึ่งหมายความว่าวันหนึ่งพระองค์จะเสด็จมา ‘นำความรอดมาให้บรรดาผู้ที่รอคอยพระองค์ด้วยใจจดจ่อ’ (ฮีบรู 9:28)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ทรงเฝ้าดูข้าพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน ขอบพระคุณที่คอยเฝ้าดูการไป และมาของข้าพระองค์ ทั้งในตอนนี้ และตลอดไป
ฮีบรู 9:16-28
พระเยซูสละพระองค์เองเพื่อคุณ
คุณรู้ไหมว่าพระเจ้ารักคุณมากแค่ไหน? คุณรู้หรือไม่ว่าพระเยซูทรงหลั่งพระโลหิตเพื่อคุณจะได้รับการอภัยทั้งสิ้น? คุณเข้าใจหรือไม่ว่าพระองค์ทรงจ่ายราคาสำหรับบาปทุกอย่างที่คุณเคยทำในอดีตและบาปทุกอย่างที่คุณทำในอนาคต?
ทำไมการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูจึงจำเป็น? ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่า ทั้งในกรณีของพินัยกรรม และพันธสัญญา (ใช้คำภาษากรีกตัวเดียวกัน) จะไม่มีผลบังคับใช้หากไม่มีการตาย ความตายนำไปสู่การรับมรดกจากผู้อื่น
‘พันธสัญญาเดิมก็ไม่ได้ทรงตั้งขึ้นโดยปราศจากเลือด’ (ข้อ 18) แล้วอธิบายรายละเอียดต่อไปว่า ‘โลหิตแห่งพันธสัญญา (เก่า)’ และสรุปว่า ‘ถ้าไม่มีโลหิตไหลออกแล้ว ก็จะไม่มีการยกโทษบาปเลย’ (ข้อ 19–22)
ผู้เขียนปรียบเทียบการเสียสละของพระเยซู กับเครื่องบูชาที่ต่ำต้อยกว่า ภายใต้ธรรมบัญญัติอยู่ 3 ประการ
-
พระเยซูทรงรับมือกับ*สิ่งที่เป็นของจริง |‘พระคริสต์ไม่ได้เข้าสถานศักดิ์สิทธิ์ที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่เข้าไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นสถานที่จริง* และถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป’ (ข้อ 24, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
-
การถวายเครื่องบูชาของพระเยซู *‘ครั้งเดียวเป็นพอ’
|‘ไม่ใช่เพื่อทรงถวายพระองค์เองซ้ำอีก ไม่เหมือนมหาปุโรหิตที่เข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ทุกปี’ (ข้อ 25) แต่ ‘มนุษย์ทุกคนตายครั้งเดียวแล้วต้องไปรับผลการกระทำ การสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียว แต่เครื่องบูชานั้นจัดการกับบาปตลอดไป*’ (ข้อ 27–28, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) -
พระเยซูทรงถวาย*พระโลหิตของพระองค์เอง
|พระเยซูไม่ได้ถวาย ‘เลือดซึ่งไม่ใช่ของตัวเองเข้าไปด้วย’ (ข้อ 25) ไม่เหมือนกับมหาปุโรหิต แต่ทรงนำพระโลหิตของพระองค์เอง*เข้าไป (ข้อ 12)
ไมจำเป็นต้องมีการถวายเครื่องเผาบูชาอีกต่อไป: ‘การถวายสัตวบูชาเหล่านี้ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว หลังจากทำตามวัตถุประสงค์แล้ว’ (ข้อ 23, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ตามที่หนังสือภาวนาแองกลิกันเขียนไว้ว่า ครั้งเดียวสำหรับการสละพระชนม์ของพระเยซูนั้นเป็น ‘เครื่องบูชาที่ครบถ้วนสมบูรณ์และเพียงพอต่อบาปของคนทั้งโลก ขณะที่พระเยซูตรัส บนไม้กางเขนว่า ‘สำเร็จแล้ว’ (ยอห์น 19:30)
เมื่อพระเยซูเสด็จมาอีกครั้ง จะไม่เป็น ‘การแบกบาปเอาไว้’ แต่เพื่อ‘นำความรอดมาให้บรรดาผู้ที่รอคอยพระองค์’ (ฮีบรู 9:28)
ขอบพระคุณสำหรับองค์พระเยซู ขอบพระคุณสำหรับการถวายเครื่องบูชาครั้งเดียวสำหรับข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะรับการยกโทษทั้งสิ้น โปรดให้ข้าพระองค์จดจำวันนี้ที่เป็นที่ ‘สำเร็จแล้ว’
เอเสเคียล 17:1-18:32
จงหันกลับมา!
ถึงแม้การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเพื่อเราจะเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นครั้งเดียว ในความรักนั้นพระเจ้าทรงเตรียมประชากรของพระองค์ มาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปีแล้ว พระองค์ทรงเตือนเรื่องผลร้ายแรงของบาป และให้เล็งเห็นถึงพระผู้ช่วยให้รอด
พระวจนะของพระเจ้ามาถึงประชากรของพระองค์ผ่านการเปรียบเปรยและอุปมา (17:1) บริบทของการเปรียบเปรย คือ ‘นกอินทรีมหึมาตัวหนึ่ง’ (ข้อ 3) ของบาบิโลนที่นำตัวกษัตริย์เยโฮยาคิมจากยูดาห์ไปยังบาบิโลนในปี 597 ก่อนคริสตกาล แต่การเปรียบเปรยนั่นมากยิ่งกว่านั้น
หน่อมีสองปะเภท เถาองุ่นก็มีสองประเภทและแผ่นดินก็มีสองประเภท มีแผ่นดินโลกนี้ที่มนุษย์สร้างขึ้น ที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งมาก ใช้ทรัพยากรที่ดีที่สุดทั้งหมด ดูเหมือนจะเจริญรุ่งเรือง แต่ในที่สุดจะเหี่ยวเฉาตายไปและไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ในทางกลับกันมีแผ่นดินของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเริ่มต้นจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เกิดผลรุ่งเรืองและเกิดผลถาวร (ดู มัทธิว 13:31–32 และวิวรณ์ 22)
เมื่อเราอ่านพระธรรมตลอดทั้งบทผ่านมุมมองของพระเยซู เราจะพบคำใบ้ของการไถ่บาปของพระองค์ ‘ครั้งเดียวเป็นพอ’ คำว่า ‘หน่อ’ (เอเสเคียล 17:22) เป็นภาษาที่อิสยาห์ผู้เผยพระวจนะใช้เพื่อสื่อถึงพระเมสสิยาห์ โดยเป็นการทำนายการเสด็จมาของพระเยซู (อิสยาห์ 53:2) ผู้ที่ถูกแทงเพราะความทรยศของเรา (ข้อ 5) ทรงวางความผิดบาปของเราทุกคนบนตัวท่าน (ข้อ 6) พระองค์เป็นผู้ที่ทำให้พระองค์เองเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
เอเสเคียลพูดต่อ ‘เจ้าตายเพราะบาปของเจ้าเอง ไม่ใช่ของคนอื่น’ (เอเสเคียล 18:4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘ตัวคนที่ทำบาปจะต้องตาย’ (ข้อ 20) ก่อนหน้านี้เอเสเคียลกล่าวว่าเป็นความรับผิดชอบของพงศ์พันธ์ุ (17:12) ตอนนี้เขาพูดถึงความรับผิดชอบรายบุคคล เราต้องรับผิดชอบต่อชีวิตเราเอง บุตรไม่ต้องรับโทษความผิดของบิดา บิดาไม่ต้องรับโทษความผิดของบุตร (18:20) แต่รับโทษความผิดของตัวเอง
พระเจ้าทรงรักทุกคน ทรงไม่อยากให้ใครถูกพิพากษา ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสว่า“เราพอใจในความตายของคนอธรรมหรือ? แต่เราพอใจให้เขาหันกลับจากทางของเขาและมีชีวิตอยู่ไม่ใช่หรือ?”’ (ข้อ 23)
พระองค์สรุปทั้งหมดในข้อนี้ ‘เราจะพิพากษาเจ้าตามการกระทำของเจ้า ดังนั้น จงหันกลับมา! หันหลังให้กับการมีชีวิตแห่งการกบฎเพื่อบาปจะไม่ลากเจ้าลง ให้ทำความสะอาด.... จงรับเอาใจใหม่! จงรับเอาวิญญาณใหม่! (ข้อ 30–31, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ข้อพระคัมภีร์นี้จบด้วยข้อความที่เตือนว่ามีความเป็นไปได้คือ ‘จงหันกลับและมีชีวิตอยู่!’ (ข้อ 32)
นี่คือข่าวที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าคุณจะเคยล้มกี่ครั้ง ไม่ว่าชีวิตของคุณจะยุ่งเหยิงแค่ไหนก็ตาม คุณสามารถตัดความสัมพันธ์กับอดีตได้ เพียง ‘กลับใจ’ คือ หันจากทางที่ไม่ดีและหันไปหาพระเยซู คุณได้รับการอภัย ได้รับใจใหม่ และวิญญาณใหม่ และสามารถเพลิดเพลินกับความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้ด้วยการถวายเครื่องบูชาของพระองค์เพื่อไถ่บาปเพียงครั้งเดียว
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ข้าพระองค์สามารถ ‘กลับใจและมีชีวิตอยู่’ ขอบพระคุณที่พระองค์สัญญากับข้าพระองค์ว่าจะมอบหัวใจใหม่ และวิญญาณใหม่ ช่วยข้าพระองค์ หันหลังให้กับนิสัยบาป และเพลิดเพลินไปกับความสัมพันธ์กับพระเจ้าที่พระองค์ทำให้เป็นไปได้ โดยการเสียสละ ‘ครั้งเดียว’ ของพระองค์สำหรับบาปของข้าพระองค์
Pippa Adds
สดุดี 121:7–8
‘พระยาห์เวห์จะทรงอารักขาท่านให้พ้นภยันตรายทั้งสิ้น พระองค์จะทรงอารักขาชีวิตของท่าน พระยาห์เวห์จะทรงอารักขาการเข้าออกของท่านตั้งแต่บัดนี้สืบไปเป็นนิตย์’
ฉันอธิษฐานข้อนี้หลายครั้งเพื่อตัวเอง ครอบครัว และเพื่อน ๆ ของฉัน ช่างเป็นคำปลอบโยน และหนุนใจจริง ๆ
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)O tomto plánu

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Podobné plány

Zůstávejme v Ježíši: Přinášejme trvalé ovoce (Love God Greatly/Miluj Boha nesmírně)

Milost ve vašem příběhu

Co je mým účelem? Nauč se milovat Boha a milovat druhé lidi

Sedmidenní vánoční rozjímání

Svoboda

Radujme se

Porazit sebevědomí a úzkost

Ester: Pro chvíli, jako je tato

Zkus se modlit
