พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลUkázka

พระเยซูทรงสร้างความแตกต่างอะไร?
ผมสัมภาษณ์ผู้คนหลายร้อยคนทั่วโลกที่เชื่อในพระเยซูมาแล้ว คำถามที่ผมถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าคือ ‘พระเยซูทรงสร้างความแตกต่างอะไร?’ และคำตอบจริง ๆ จากคนที่ผมยกมานี้คือภาพรวม ‘ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ฉันมองโลกด้วยสายตาที่ต่างออกไป... ฉันรู้สึกถึงความรักที่มีต่อทุกคนและความสงบภายในที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีอยู่จริง’ ‘ฉันใช้ชีวิตอยู่ในหลุมดำ ฉันแบกรับภาระหนักอึ้งไว้บนบ่า... ภาระนั้นหมดไป... และฉันก็เปี่ยมด้วยความหวัง ความยินดี ความตื่นเต้นและความรัก และทั้งหมดที่ฉันต้องการ ที่ต้องทำคือรับใช้พระคริสต์ในทุกรูปแบบที่พระองค์เลือกมา’ ‘ฉันรู้สึกเหมือนได้พบความรักและพิชิตความตายในหนึ่งวัน’ ความแตกต่างที่พระเยซูสร้างนั้นยิ่งใหญ่ ดำรงอยู่ตลอดไป และเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจอย่างถ่องแท้สดุดี 110:1-7
การให้อภัยอย่างถาวร
พระเยซูทรงทำให้การให้อภัยเป็นไปได้ผ่านการเสียสละที่สมบูรณ์แบบเพียงครั้งเดียวเพื่อบาปของเรา พระองค์มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่จะทำเช่นนั้นในฐานะ 'ราชาแห่งราชา' และ 'มหาปุโรหิตยิ่งใหญ่'
พระเยซูทรงตระหนักจากเพลงสดุดีของดาวิดอย่างชัดเจนว่าดาวิดหมายถึงพระองค์เอง (ข้อ 1 ดูมัทธิว 22:42–45; ลูกา 20:42–44) ข้อพระคัมภีร์ตอนนี้เป็นหนึ่งในข้อพระคัมภีร์ที่ยกมาอ้างอิงบ่อยที่สุดในพันธสัญญาใหม่ คำพยากรณ์ในพันธสัญญาเดิมสองบรรทัดมารวมกันในพระธรรมสดุดีตอนนี้
-
ราชาแห่งราชา
แม้ว่าจะเกี่ยวกับกษัตริย์ที่เป็นมนุษย์ แต่ก็ชี้ให้เห็นถึงกษัตริย์แห่งฟ้าสวรรค์ เป็นองค์จอมกษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งปวง (สดุดี 110:5) -
มหาปุโรหิตยิ่งใหญ่
ผู้เขียนพระธรรมฮีบรูอ้างคำสดุดีนี้ว่าหมายถึงพระเยซู (ดู ฮีบรู 7:17–22) ว่าเป็นผู้ที่เป็นปุโรหิตเป็นนิตย์ตามอย่างเมลคีเซเดค (สดุดี 110:4) ทั้งเมลคีเซเดคและพระเยซูไม่ใช่ชาวเลวี แต่ทั้งคู่เป็นปุโรหิต ไม่ใช่โดยอาศัยบรรพบุรุษ แต่อยู่บนพื้นฐานของฤทธิ์เดชแห่งชีวิตอันไม่สามารถจะทำลายได้ (ฮีบรู 7:16)
ในขณะที่ปุโรหิตในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมเป็นกันแบบชั่วคราว แต่ฐานะปุโรหิตของพระเยซูนั้นถาวร: ‘พระองค์ทรงเสียสละเพื่อบาปของพวกเขาทั้งหมดเพียงครั้งเดียวโดยมอบชีวิตของพระองค์เอง (ข้อ 27) ‘ท่านเป็นมหาปุโรหิตถาวร’ (สดุดี 110:4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเยซูองค์จอมกษัตรา ขอบพระคุณที่พระองค์ได้ทรงเสียสละอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อที่ข้าพระองค์จะได้รับการอภัยจากความบาป และชีวิตของข้าพระองค์จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
เอเฟซัส 2:1-22
สันติภาพและการคืนดี
‘สันติภาพ’ เป็นคำที่สรุปพระพรทั้งหมดที่พระเยซูทรงนำมาสู่ชีวิตเรา พระคริสต์เสด็จมาและเทศนาถึงความเป็นไปได้ของ ‘สันติภาพ’ ในทุกคน (ข้อ 17)
พระเยซูทรงนั่งอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้าหลังจากการฟื้นคืนพระชนม์ตามคำพยากรณ์ในพระธรรมสดุดีที่อ่านกันในวันนี้ (สดุดี 110:1) การนั่งหมายถึงการพักและความสงบ คุณตายพร้อมกับพระคริสต์ ถูกฝังไว้กับพระองค์ และถูกชุบให้เป็นขึ้นกับพระองค์ และบัดนี้ได้นั่งอยู่กับพระองค์ในสวรรคสถาน (เอเฟซัส 2:6) คุณสามารถเพลิดเพลินกับสันติภาพ และพักสงบได้ในขณะที่คุณดำเนินชีวิตประจำวัน
เปาโลบรรยายถึง ชีวิตที่ปราศจากพระคริสต์ในลักษณะเหล่านี้ คือคุณนั้นจะ:
- ‘ตายโดยการละเมิดและการบาปของท่าน’ (ข้อ 1)
- ‘ดำเนินชีวิตในการบาปนั้นตามวิถีของโลก’ (ข้อ 2)
- ‘ประพฤติเหมือนพวกเขาตามตัณหาของเนื้อหนัง คือทำตามความต้องการของเนื้อหนังและของความคิด’ (ข้อ 3ก)
- ‘สมควรได้รับการลงโทษ’ (ข้อ 3ช)
- ‘เป็นคนไม่มีพระคริสต์’ (ข้อ 12ก)
- ‘เป็นคนที่อยู่นอกวิถีของพระเจ้า’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
- ‘เป็นคนนอกในเรื่องพันธสัญญาทั้งหลายที่ทรงสัญญาไว้’ (ข้อ 12ข)
- ‘ไม่มีความหวัง’ (ข้อ 12ค)
- ‘ปราศจากพระเจ้า’ (ข้อ 12ค)
- ‘อยู่ไกล’ (ข้อ 13)
- ‘[พบ]กำแพงที่แยกระหว่างสองฝ่ายคือการเป็นศัตรูกัน’ (ข้อ 14ข)
- ‘[เป็น]คนนอกและคนต่างด้าว’ (ข้อ 19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
เปาโลอธิบาย ความแตกต่างที่พระเยซูทรงทำให้เกิดขึ้น ด้วยคำที่ตรงกันข้ามกันเหล่านี้ คือคุณนั้นจะ:
- ‘เป็นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริสต์’ (ข้อ 6)
- ‘นั่งด้วยกันกับพระองค์ในสวรรคสถานในพระเยซูคริสต์’ (ข้อ 6)
- ‘ผลงานอันยอดเยี่ยมของพระเจ้า’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก New Living Translation โดยผู้แปล)
- ‘เป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทำการดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ก่อนแล้วเพื่อให้เราดำเนินตาม’ (ข้อ 10)
- ‘ได้เข้ามาใกล้โดยพระโลหิตของพระคริสต์’ (ข้อ 13)
- ‘คืนดีกับพระเจ้าเป็นกายเดียวโดยทางกางเขน’ (ข้อ 16)
- ‘เป็นพลเมืองเดียวกับบรรดาธรรมิกชน’ (ข้อ 19)
- ‘เป็นครอบครัวของพระเจ้า’ (ข้อ 19)
- ‘ถูกก่อร่างสร้างขึ้นด้วยกันให้เป็นที่สถิตของพระเจ้าโดยพระวิญญาณ’ (ข้อ 22)
ความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ตรงกันข้ามกันก่อนหน้านี้ที่มาจากตัวคุณเองและจากพระเจ้า กับสันติภาพและการคืนดีที่พระเยซูนำมานั้น ไม่มีอะไรจะดีเยี่ยมไปกว่านี้อีกแล้ว พระเยซูเป็นผู้สร้างความแตกต่างนั้น คุณถูกทำให้มีชีวิตอยู่กับพระคริสต์ (ข้อ 5) คุณเป็นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริสต์ (ข้อ 6) คุณรอดโดยความเชื่อในพระคริสต์ (ข้อ 8) คือ ในพระเยซูคริสต์ที่คุณได้เข้ามาใกล้ (ข้อ 13) โดยทางพระเยซู คุณสามารถเข้าถึงพระบิดาโดยพระวิญญาณองค์เดียว (ข้อ 18) พระเยซูคริสต์เองทรงเป็นศิลามุมเอกของพระวิหารใหม่ นั่นคือคริสตจักร
คำสั่งเดียวที่เปาโลให้ไว้ที่นี่คือ ‘จงระลึก’ (ข้อ 12–13) บ่อยครั้งเราลืมไปว่าการเป็นคริสเตียนนั้นเกี่ยวกับสิ่งที่พระเยซูทรงทำเพื่อเรา และมัวแต่จมปลักอยู่กับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ พระวจนะช่วงนี้ช่วยให้คุณหยุด ระลึก และขอบคุณพระผู้ช่วยให้รอดผู้ยอดเยี่ยม สำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อคุณ
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับความรักอันยิ่งใหญ่ที่ทรงมีต่อข้าพระองค์ ขอบพระคุณสำหรับการเปลี่ยนแปลงอย่างถึงที่สุดที่พระองค์นำมาสู่ชีวิตของข้าพระองค์
อิสยาห์ 55:1-57:13
วัตถุประสงค์และความหมาย
พระคัมภีร์เป็นคำเชิญที่มีมาอย่างยาวนานให้เรามาหาพระเจ้า เริ่มต้นด้วยการทรงเรียกของพระเจ้าถึงอาดัม ที่เต็มไปด้วยความรัก และความปวดร้าวว่า ‘เจ้าอยู่ที่ไหน?’ (ปฐมกาล 3:9) ปิดท้ายด้วยคำเชื้อเชิญจากพระวิญญาณ และเจ้าสาวที่กล่าวว่า ‘เชิญเสด็จมาเถิด’ (วิวรณ์ 22:17)
พระเยซูมักจะเชิญผู้คน ‘จงมาหาเรา’ (มัทธิว 11:28) ‘เชิญมาในงานเลี้ยงอภิเษกสมรสนี้เถิด’ (22:4) ‘ถ้าใครกระหาย ให้คนนั้นมาหา’ (ยอห์น 7:37) ในพระวจนะตอนนี้ พระเจ้าส่งคำเชิญให้มาอีกครั้ง
‘บรรดาผู้กระหายน้ำ
|มาที่น้ำนี่เถิด!
เจ้านั้น ไม่มีเงินเลยหรือ
|มาเถิด ซื้อและกิน
มาเถอะ ซื้อเครื่องดื่ม ซื้อไวน์และนม
|ซื้อโดยไม่ต้องใช้เงิน ทุกอย่างไม่มีค่าใช้จ่าย!’ (อิสยาห์ 55:1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
คำเชิญเป็นเรื่องเร่งด่วนและเป็นไปเพื่อทุกคน พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่มองว่านี่เป็นคำเชื้อเชิญของพระเยซูแก่เรา (ดู กิจการ 13:34–35) ต่อไปนี้คือเหตุผลสี่ประการที่คุณควรมาหาพระองค์
- พระเยซูผู้เดียวสามารถสนองความหิวโหยในใจคุณได้
หากปราศจากพระเยซู เราก็กระหายน้ำ (อิสยาห์ 55:1) เราตรากตรำเพื่อสิ่งที่ไม่เป็นที่พอใจ (ข้อ 2) พระคำเริ่มต้นที่สะท้อนเสียงร้องพ่อค้าในบาบิโลนอันเป็นศูนย์กลางการค้าในโลกยุคโบราณ ข้อความในพระคำนั้นคือ: ไม่มีสิ่งใดเติมเต็มเราได้และเราก็มักจะรู้สึกว่างเปล่าเสมอหากปราศจากพระเจ้า เราจะประสบกับการรู้สึกว่างเปล่าและความรู้สึกไม่พึงพอใจ
ข้อเสนอของพระเยซูนั้นไม่ต้องการสิ่งใดมาแลก เพราะมันมีเพื่อ ‘ผู้ไม่มีเงิน' (ข้อ 1) พระสัญญาคือเมื่อคุณมาหาพระเยซู ‘ตัวเจ้าปีติยินดีในอาหารโอชา...ตัวเจ้าจะมีชีวิต’ (ข้อ 2-3) บรรดาผู้ที่มาหาพระองค์ก็พอใจอย่างยิ่ง พระเจ้าไม่ได้เสนออาหารขยะให้คุณ แต่เป็นอาหารอันโอชา พระองค์ตรัสว่า ‘ให้ชีวิต’ และ ‘หล่อเลี้ยงชีวิต’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
- ความรักและพระเมตตาของพระเยซูยิ่งใหญ่
การกลับใจเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อที่จะได้ชื่นชมการประทับของพระเจ้าอย่างเต็มที่ (ข้อ 6–9) ให้เราละทิ้งความบาป: ‘ให้คนอธรรมละทิ้งทางของเขา และคนชั่วละทิ้งความคิดของเขา’ (ข้อ 7ก) ผมชอบคำจำกัดความของการกลับใจของเด็ก: ‘เสียใจมากพอจนต้องหยุดในสิ่งที่ทำลงไป’
การกลับใจยังรวมถึงการหันไปหาพระเจ้า: ‘ให้เขากลับมายังพระยาห์เวห์ และพระองค์จะทรงเมตตาเขา และมายังพระเจ้าของพวกเรา เพราะพระองค์ทรงมีการอภัยอย่างเหลือล้น’ (ข้อ 7ข) ไม่ว่าคุณจะล้มลงไปมากเพียงใด พระเจ้าจะทรงอภัยให้คุณ พระองค์นั้น ‘มากล้นด้วยการให้อภัย’ (ข้อ 7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
- พระเยซูทรงเป็นผู้เปลี่ยนชีวิต
'เพราะพวกเจ้าจะออกไปด้วยความชื่นบาน และจะถูกนำพาไปโดยสวัสดิภาพ บรรดาภูเขาและเนินเขา จะเปล่งเสียงร้องเพลงต่อหน้าพวกเจ้า และต้นไม้ทั้งหมดในท้องทุ่งจะตบมือ ต้นสนสามใบจะงอกขึ้นแทนต้นหนาม ต้นน้ำมันเขียวจะงอกขึ้นแทนต้นไมยราบ’ (ข้อ 12–13)
การนำข้อนี้ไปใช้โดยทันทีคือการที่ชาวยิวออกจากบาบิโลน อิสราเอลจะต้อง ‘ออกไป’ จากบาบิโลนและกลับไปยังกรุงเยรูซาเล็มด้วย ‘ความชื่นบาน’ และ ‘สวัสดิภาพ’
อย่างไรก็ตาม คำพยากรณ์จะไม่บรรลุผลสำเร็จอย่างสมบูรณ์จนกว่าพระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมา จากนั้นทุกอย่างก็จะได้รับการเติมเต็มและฟื้นฟู คุณได้ทราบล่วงหน้าถึงสิ่งนี้ ในชีวิตนี้ แต่ความสมบูรณ์ของข้อความเหล่านี้จะมาถึงเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา ในสวรรค์ใหม่ และโลกใหม่
พระคัมภีร์ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวของเผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องราวของการทรงสร้างทั้งหมดที่เผ่าพันธุ์มนุษย์มีบทบาทสำคัญและเป็นศูนย์กลาง
- พระเยซูมีเป้าหมายสำหรับชีวิตคุณ
พระพรของพระเจ้าไม่เคยมีเจตนาให้ได้รับความสุขอย่างเห็นแก่ตัว (ข้อ 3ข–5) พระพรจะได้รับเปี่ยมล้นเพื่อไปยังผู้อื่น คุณไม่สามารถเสนอสิ่งที่คุณยังไม่ได้รับให้ผู้อื่นได้ แต่เมื่อได้รับพรแล้วให้ส่งต่อไป
ดังที่เปาโลกล่าวไว้ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ตอนที่คุณอ่านในวันนี้ คุณเป็น ‘ผลงานชิ้นเอกของพระเจ้า’ พระองค์ทรงสร้างคุณใหม่ในพระเยซูคริสต์เพื่อที่คุณจะได้ทำสิ่งที่ดีซึ่งพระองค์ทรงวางแผนไว้ให้คุณเมื่อนานมาแล้ว (ดู เอเฟซัส 2:10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก the New Living Translation โดยผู้แปล) ชีวิตของคุณมีเป้าหมาย เรื่องราวของคุณมีความสำคัญ ความฝันของคุณถูกนับไว้ เสียงของคุณมีความสำคัญ คุณเกิดมาเพื่อสร้างผลกระทบ
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงเชิญข้าพระองค์ให้มาหาพระองค์เพื่อดื่มน้ำแห่งชีวิต ขอบคุณสำหรับความแตกต่างอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์สร้างให้กับชีวิตของข้าพระองค์ ทั้งในเวลานี้ และในนิรันดร์
Pippa Adds
เอเฟซัส 2:10
‘เพราะว่าเราเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทรงสร้างขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทำการดี ซึ่งเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ก่อนแล้วเพื่อให้เราดำเนินตาม’
เหตุผลหนึ่งที่เราถูกสร้างมาก็คือการทำความดี ฉันสงสัยว่าพระเจ้าได้ ‘จัดเตรียมไว้ก่อนแล้ว’ ให้ฉันทำอะไรในวันนี้กันนะ
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)O tomto plánu

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Podobné plány

Uvědomit si, že Bůh mě miluje

Svoboda

Radujme se

Co je mým účelem? Nauč se milovat Boha a milovat druhé lidi

Porazit sebevědomí a úzkost

Ester: Pro chvíli, jako je tato

Milost ve vašem příběhu

Zůstávejme v Ježíši: Přinášejme trvalé ovoce (Love God Greatly/Miluj Boha nesmírně)

Zkus se modlit
