พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลUkázka

เราจะเป็นประโยชน์ต่อพระเจ้าได้อย่างไร?
พิพพากับผมเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล ในช่วงเช้าของวันนั้นแม่ของผมเสียชีวิตลงด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ขณะที่เธออยู่ที่โต๊ะทำงาน เธออายุหกสิบเก้าปี ผมอยู่ในสภาวะช็อก และว้าวุ่นภายในใจ ผมเดินออกจากบ้านเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ และกำลังคิดว่าคนเดียวที่ผมอยากจะพบคือแซนดี้ มิลลาร์ ศิษยาภิบาล และเพื่อนรักของพวกเรา ในขณะนั้น ผมเงยหน้ามองและตระหนักว่ารถยนต์ของเขากำลังแล่นเข้ามาใกล้ เขาเพิ่งได้ข่าวเกี่ยวกับเราและรีบขับรถตรงมาหาเรา พระเจ้าใช้*การมาของแซนดี้*ในวันนั้นเพื่อปลอบโยน และให้กำลังใจแก่เรา ข้อพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ในวันนี้ เราจะได้เห็นว่าพระเจ้าใช้ก*ารมาของทิตัส*ได้ปลอบประโลมใจและหนุนใจเปาโลอย่างมาก ท่านกำลังอยู่ในสภาวะสับสน วุ่นวาย อ่อนเพลีย โดนกดดันกดขี่ อยู่ในความทุกข์ ความครั่นคร้าม และตกอยู่ในความกลัว 'แต่พระเจ้าผู้ทรงหนุนใจคนที่ท้อใจ ได้ทรงหนุนใจเราด้วย*การมาของทิตัส*’ (2 โครินธ์ 7:6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Amplified Bible โดยผู้แปล) การมาของทิตัสถือเป็นการหนุนน้ำใจเป็นอย่างมาก เพราะเขานำข่าวมาแจ้งว่า ชาวโครินธ์เป็นประโยชน์ต่องานของพระเจ้าอย่างไร ผลที่ได้คือ เปาโล ‘ชื่นชมยินดีมากยิ่งขึ้น’ (ข้อ 7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Amplified Bible โดยผู้แปล) แม้ว่าสิ่งเลวร้ายอาจเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนพระเจ้าจะทรงเลี้ยงดูคนที่พระองค์ทรงใช้เสมอ 'เป็นภาชนะพิเศษ ... เหมาะที่เจ้าของจะใช้*เป็นประโยชน์* และพร้อมสำหรับการดีทุกอย่าง’ (2 ทิโมธี 2:21) คุณกับผมจะ*เป็นประโยชน์*ต่อพระเจ้าได้อย่างไร?สดุดี 105:23-36
เตรียมตัวเป็นผู้นำ
บางครั้งคุณรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในที่รกร้างในฝ่ายวิญญาณในที่ทำงาน เมืองของคุณ หรือแม้แต่ในประเทศของคุณหรือเปล่า?
ผู้เขียนสดุดีเล่าถึงช่วงเวลาที่หนาวเยือกที่สุดช่วงหนึ่งสำหรับผู้คนของพระเจ้า พระเจ้าได้อวยพรพวกอิสราเอล พวกเขากลายเป็นคนที่ ‘มีลูกดก’ (ข้อ 24) แต่ความสำเร็จของพวกเขาทำให้พวกเขาถูกเกลียดชัง (ข้อ 25ก) ศัตรูของพวกเขาสมคบคิดกันเล่นงานพวกเขา (ข้อ 25ข) ‘พวกเขาทำร้ายและโกงผู้รับใช้ของพระเจ้า’ (ข้อ 25, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ประชากรของพระเจ้าถูกกดขี่และตกเป็นทาส พวกเขาอยู่ใน ‘ที่รกร้างทางฝ่ายวิญญาณ’ (ข้อ 27, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) แต่พระเจ้า ‘พระองค์ทรงใช้โมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ และอาโรนผู้ที่พระองค์ทรงเลือกไว้’ (ข้อ 26) พระเจ้าเลือกโมเสสและอาโรน พวกเขาตอบรับ (ยอมรับอย่างไม่เต็มใจในกรณีของโมเสส) ต่อการเรียกให้เป็นผู้นำ พวกเขาแสดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์ และปลดปล่อยประชากรของพระเจ้าให้เป็นอิสระ ‘พวกเขาทำสิ่งอัศจรรย์ในดินแดนรกร้างฝ่ายวิญญาณนั้น’ (ข้อ 27, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์มองดูประเทศของข้าพระองค์ และเห็นสภาพของคริสตจักร ข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์ให้พระองค์ทรงยกคนเช่นโมเสส และอาโรนขึ้นมา เพื่อนำผู้คนของพระองค์ออกจากดินแดนที่รกร้างฝ่ายวิญญาณ
2 โครินธ์ 7:2-16
หันไปหาพระเจ้าในยามลำบาก
บางครั้งในชีวิต เราชนกำแพงแห่งความเจ็บปวดและความทุกข์ใจ มันครอบงำเรา อาจเกิดจากความสูญเสียความซ้ำซาก การเจ็บป่วย ความผิดหวัง หรือสถานการณ์อื่น ๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา แม้กระทั่งในกรณีของชาวโครินธ์ที่ต้นเหตุอาจจะเป็นความบาปหรือความผิดพลาดของมนุษย์เอง ไม่ใช่สิ่งที่ควบคุมได้
สิ่งที่สำคัญคือวิธีการตอบสนอง สำหรับบางคน เวลาแห่งความยากลำบากเช่นนี้จะพรากพวกเขาออกห่างจากพระเจ้า แต่สำหรับหลาย ๆ คน เช่นพวกชาวโครินธ์ เวลาแห่งความยากลำบากสร้างพวกเขาขึ้น ความทุกข์ยากของพวกเขาผลักดันให้พวกเขามาหาพระเจ้า มันเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นผู้คนที่พระเจ้าสามารถใช้ได้อย่างมาก
เปาโลเป็นคนที่พระเจ้าใช้อย่างมาก แต่เส้นทางกลับไม่ได้ราบรื่นนัก มันไม่ใช่ชีวิตที่ปราศจากความเครียดแต่อย่างใด อาจารย์เปาโลไม่ได้ทำอะไรเพื่อหาเรื่องใส่ตัวเอง เขาเขียนไว้ว่า 'เราไม่เคยทำร้ายจิตใจ ไม่เคยเอาเปรียบหรือหาผลประโยชน์จากคนอื่น’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) อย่างไรก็ตาม เขายังคงพูดถึง ‘ความยากลำบากทุกอย่างของเรา’ (ข้อ 4) และเขียนเกี่ยวกับ ‘การขัดแย้งภายในคริสตจักร’ และ ‘ความกลัวในใจของเรา’ (ข้อ 5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
เปาโลรักชาวโครินธ์ (ข้อ 3-4ก) แม้ว่าความรักที่มีต่อพวกเขาจะไม่ได้รับการตอบแทนเสมอไป แต่ก็ทำให้มีความสุขอย่างมากเมื่อถึงเวลานั้น เมื่อเปาโลได้ยินจากทิตัสเกี่ยวกับการที่ชาวโครินธ์รอคอยท่าน ท่านรับรู้ถึงความโศกเศร้าและความห่วงใยที่ทุกคนมีต่อเขา และกล่าวว่า ‘ทำให้ข้าพเจ้ายิ่งมีความยินดีมากขึ้น’ (ข้อ 7)
เปาโลมีความกล้าที่จะเขียนจดหมายฝากถึงพวกเขา เนื้อหาในจดหมายตอนแรกทำให้พวกเขาเจ็บปวด (ข้อ 8) เช่นเดียวกับการเผชิญหน้าทำนองนี้ในหลาย ๆ ตอนแรกเปาโลเสียใจที่ได้เขียนจดหมายฝากฉบับนั้น แต่ขอบคุณพระเจ้าที่ชาวโครินธ์ตอบสนองอย่างถูกต้อง พวกเขายอมให้เนื้อความในจดหมายดึงพวกเขาให้เข้ามาใกล้พระเจ้ามากขึ้น เราทุกคนสับสนในบางครั้งในเวลายากลำบากแบบที่ชาวโครินธ์เผชิญ กษัตริย์ดาวิดได้ทำบาปอย่างใหญ่หลวง (2 ซามูเอล 11 และ 12) แม้อัครสาวกเปาโลก็ยังทำพลาด แต่สิ่งสำคัญคือวิธีการตอบสนองของคุณ
'เราปล่อยให้ความทุกข์พาเรามาหาพระเจ้า ไม่ใช่ลากเราออกห่างจากพระองค์... เราไม่มีวันเสียใจให้กับความเจ็บปวดที่ดึงเราเข้าใกล้แบบนั้น แต่ผู้ที่ปล่อยให้ความทุกข์ยากลากจูงพวกเขาออกไปจากพระเจ้า... จบลงด้วยความเสียใจจนแทบดับชีวิตลง’ (2 โครินธ์ 7:9-10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ความโศกเศร้าแบบผิด ๆ ที่ซาอูลแสดงให้เห็นในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม และยูดาส อิสคาริโอทที่ทำลงไป ไม่ได้นำไปสู่การกลับใจ แต่นำไปสู่ความตาย ‘ความเสียใจอย่างโลกนั้นย่อมนำสู่ความตาย’ (ข้อ 10ค) ชาวโครินธ์เช่นเดียวกับกษัตริย์ดาวิด (ดู สดุดี บทที่ 51) และอัครสาวกเปโตร พวกเขาตอบสนองอย่างถูกต้อง
'และตอนนี้มันวิเศษหรือไม่ที่ความทุกข์ยากนี้ได้นำพาท่านเข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้น ท่านมีชีวิตมากขึ้น พะวักพะวงมากขึ้น ไวต่อความรู้สึกมากขึ้น ให้เกียรติมากขึ้น เห็นอกเห็นใจมากขึ้น กระตือรือร้นมากขึ้น รับผิดชอบมากขึ้น’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ทิตัสเป็นพยานถึงการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของชาวโครินธ์ อันเป็นผลมาจากการตอบสนองต่อความทุกข์ยาก เขาฮึกเหิมต่อเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เขาเองก็ฟื้นฟู และสดชื่นด้วยทุกสิ่งที่ชาวโครินธ์ทำเพื่อเขา
ทิตัสไม่สามารถหยุดพูดกับเปาโลเกี่ยวกับชาวโครินธ์ได้ 'ระลึกถึงเรื่องความเชื่อฟังของพวกท่านครั้งแล้วครั้งเล่า เกียรติและความไวต่อการเป็นเจ้าบ้านของพวกท่าน ข้าพเจ้ารู้สึกท่วมท้นไปกับการต้อนรับทั้งหมด!และข้าพเจ้าไม่อาจจะพอใจมากไปกว่านี้แล้ว ข้าพเจ้ามั่นใจและภูมิใจในตัวพวกท่านมาก’ (ข้อ 15-16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ขอบคุณพระเจ้า เมื่อข้าพระองค์หันไปหาพระองค์ในยามยากลำบาก พระองค์เปลี่ยนข้าพระองค์และทำให้ข้าพระองค์มีชีวิตมากขึ้น พะวักพะวงมากขึ้น ไวต่อความรู้สึกมากขึ้น ให้เกียรติมากขึ้น เห็นอกเห็นใจมากขึ้น กระตือรือร้นมากขึ้น รับผิดชอบมากขึ้น และเป็นประโยชน์แก่พระองค์มากขึ้น
อิสยาห์ 5:8-8:10
ตอบรับการทรงเรียกของพระเจ้า และพูดว่า ‘ข้าพระองค์จะไป’
ในทุกวันนี้เมื่อเรามองไปทั่วโลก เราเห็นหลายประเทศอยู่ในความสิ้นหวัง คำอธิบายในเนื้อหาตอนนี้กำลังกล่าวถึงประเทศที่อุดมไปด้วยความอยุติธรรม
พวกผู้นำ ‘ยึดครองดินแดนทั้งหมด... ขับไล่เจ้าของเก่า... เข้ายึดประเทศ ปล่อยให้ทุกคนไร้ที่อยู่และไม่มีที่ดิน... ที่ดินฟุ่มเฟือยเหล่านั้นจะถูกทิ้งร้าง ไร่องุ่นขนาดสิบเอเคอร์จะผลิตไวน์เพียงหนึ่งไพน์’ (5:8-10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ในขณะเดียวกัน ผู้นำกลับจดจ่ออยู่กับ ‘งานเลี้ยงของพวกเขาได้รับการตกแต่งอย่างดี ด้วยดนตรีและไวน์มากมาย’ ในขณะที่คนทั่วไป ‘ตายเพราะการกระหายน้ำ’ ผู้นำของพวกเขาเรียกความชั่วว่าดีและความดีว่าชั่ว (ข้อ 8-22 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
แต่อิสยาห์มีสิทธิอำนาจอะไรพูดกับสังคมแบบนี้? ระหว่างช่วงเวลาที่มืดมนในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล พระเจ้าทรงเรียกเขา อิสยาห์บรรยายถึงนิมิตที่เขามีขึ้นเมื่อ 740 ปีก่อนคริสตกาล ในปีที่กษัตริย์อุสซียาห์สิ้นพระชนม์ (6:1)
1. เขาได้พบกับพระเจ้า
อิสยาห์บรรยายความรู้สึกอันท่วมท้นถึงการรับรู้ถึงการทรงสถิตของพระเจ้า ความยิ่งใหญ่ ความบริสุทธิ์ สง่าราศีและฤทธิ์อำนาจของพระองค์ (ข้อ 1-4) คำสำคัญ คือ ‘ข้าพเจ้าเห็นองค์เจ้านาย’ (ข้อ 1) กุญแจสำคัญสู่การทรงเรียกของเขาในภายภาคหน้าไม่ใช่แค่ประสบการณ์ที่ดีจากการได้รับรู้ถึงการทรงสถิตของพระเจ้าเท่านั้น แต่ชีวิตของเขาได้รับการเปลี่ยนแปลง
2. เขาได้รับการชำระ
อิสยาห์ได้เห็นความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าและกล่าวว่า ‘วิบัติแก่ข้าพเจ้า เพราะว่าข้าพเจ้าพินาศแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากไม่สะอาดและข้าพเจ้าอยู่ท่ามกลางชนชาติที่ริมฝีปากไม่สะอาด แต่ดวงตาของข้าพเจ้าได้เห็นกษัตริย์ คือพระยาห์เวห์จอมทัพ’ (ข้อ 5) ยิ่งคุณอยู่ใกล้ความสว่างมากเท่าไร ความสว่างก็ยิ่งเผยให้เห็นบาปของคุณมากขึ้นเท่านั้น
แต่แล้วพระเจ้าทรงริเริ่ม และจัดเตรียมการชำระให้บริสุทธิ์ ‘ดูเถอะ ถ่านเพลิงได้แตะต้องริมฝีปากของท่านแล้ว ความผิดของท่านมลายไป บาปของท่านถูกเช็ดออกไปจนหมดสิ้นแล้ว’ (ข้อ 7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ผ่านการสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์บนไม้กางเขน ความผิดและบาปที่คุณต้องชดใช้ถูกนำออกไป คุณไม่จำเป็นต้องดำเนินชีวิตด้วยความรู้สึกผิด แต่คุณสามารถเต็มไปด้วยความรู้สึกว่าความรักของพระเจ้ามีไว้สำหรับคุณ
3. เขาทูลพระเจ้าว่า ‘ข้าพระองค์จะไป’
อิสยาห์ตอบรับการทรงเรียกของพระเจ้า พระเจ้าถามคำถามกับเขาว่า เราทำทั้งหมดนี้เพื่อพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าจะออกไปเพื่อเราไหม ทั้งชีวิตของพวกเจ้าอยู่ต่อหน้าพวกเจ้า พวกเจ้าจะทำอย่างไรกับมัน อิสยาห์กล่าวว่า ‘เราจะใช้ผู้ใดไป? และผู้ใดจะไปแทนพวกเรา?’ (ข้อ 8ก)
อิสยาห์ตอบว่า ‘ข้าพระองค์อยู่นี่ ขอทรงใช้ข้าพระองค์เถิด’ (ข้อ 8ข) เขาเห็นว่านี่เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เขาไม่ได้หลีกเลี่ยง ไม่ได้ปล่อยให้ล่าช้าไป เขากล่าวกับพระเจ้าว่า ‘ข้าพระองค์จะไป’ (ข้อ 8, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) แล้วพระเจ้าใช้เขาได้อย่างมาก
สิ่งนี้เทียบไม่ได้กับผู้ที่อิสยาห์พยากรณ์ไว้ เขากล่าวว่า ‘องค์เจ้านายจะประทานหมายสำคัญด้วยพระองค์เอง นี่แน่ะ หญิงสาวคนหนึ่งจะตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และคนจะเรียกนามของเขาว่า อิมมานูเอล’ (7:14) สิ่งที่ว่าไว้นี้สำเร็จเป็นจริงตามประวัติศาสตร์ด้วยการถือกำเนิดของมาเฮร์-ชาลาล-หัช-บัส (8:1) อย่างไรก็ตาม ตามคำพยากรณ์นี้สำเร็จโดยสมบูรณ์ในพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นอิมมานูเอล แปลว่าพระเจ้าสถิตอยู่กับเรา (ข้อ 8,10 ดูมัทธิว 1:23)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระองค์ตรัสกับข้าพระองค์ว่า ‘ความผิดของเจ้าก็ถูกขจัด และบาปของเจ้าก็ได้รับการลบล้าง’ (อิสยาห์ 6:7) ข้าพระองค์ตอบวันนี้แก่พระองค์ว่า ‘ข้าพระองค์อยู่นี่ ขอทรงใช้ข้าพระองค์เถิด!’
Pippa Adds
2 โครินธ์ 7:2
‘จงเปิดใจรับเราเถิด’
หลักสูตรใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น หลักสูตรอัลฟ่าจะเริ่มต้นอีกครั้งเร็ว ๆ นี้ มีคนใหม่ ๆ เข้ามาในคริสตจักรมากมาย มันอาจจะน่าหวั่นใจอยู่บ้าง แต่นี่เป็นเครื่องเตือนใจให้ฉันเปิดใจให้กับทุกคนที่ฉันพบ
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)O tomto plánu

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Podobné plány

Zůstávejme v Ježíši: Přinášejme trvalé ovoce (Love God Greatly/Miluj Boha nesmírně)

Zkus se modlit

Milost ve vašem příběhu

Svoboda

Ester: Pro chvíli, jako je tato

Co je mým účelem? Nauč se milovat Boha a milovat druhé lidi

Porazit sebevědomí a úzkost

Radujme se

Uvědomit si, že Bůh mě miluje
