พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลနမူနာ

ความสัมพันธ์ที่ถูกต้อง
ในการประชุมสัมมนา[อัลฟ่า](https://thailand.alpha.org/)ที่ได้จัดขึ้นที่มาเลเซียตะวันออก มีผู้คนจากทั่วเอเชีย หลายคนถูกข่มเหงเพราะความเชื่อของพวกเขา ชายคนหนึ่งบอกผมว่าพ่อของเขาถูกจำคุกเป็นเวลาหกปี เพียงเพราะว่าเขาเป็นศิษยาภิบาลคริสเตียน ตัวเขาเองก็ถูกจำคุกเป็นเวลาหนึ่งปีเมื่อตอนอายุสิบเก้า เพราะเขาเรียกร้องแทนพ่อของเขา ถือเป็นความอยุติธรรมอย่างยิ่งเมื่อผู้บริสุทธิ์ถูกตัดสินว่า มีความผิด และถูกคุมขัง สิ่งนี้เลวร้ายยิ่งกว่าการถูกประหารชีวิต เนื้อหาในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่วันนี้ เราจะได้อ่านเรื่องความอยุติธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ พระเยซูเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ พระองค์ทรงเป็น *‘คนชอบธรรม’* (ลูกา 23:47) แต่ทรงถูกประหารโดยการตรึงกางเขน อัครสาวกเปโตรอธิบายดังนี้ ‘เพราะพระคริสต์ทรงทนทุกข์ครั้งเดียวเป็นพอเพราะบาป คือพระองค์*ผู้ชอบธรรม*เพื่อ*ผู้ไม่ชอบธรรม* เพื่อจะนำพวกท่านไปถึงพระเจ้า’ (1 เปโตร 3:18) คำว่า ‘ชอบธรรม’ มักเกี่ยวข้องกับ ‘ความชอบธรรมในตนเอง’ และเกือบจะกลายเป็นเงื่อนไขของการล่วงละเมิด อย่างไรก็ตาม คำว่า ‘ชอบธรรม’ ในพระคัมภีร์เป็นคำที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำความเข้าใจพระคัมภีร์ทั้งหมดของเรา ในที่สุด ‘ความชอบธรรม’ นั้นเกี่ยวกับ*ความสัมพันธ์ที่ถูกต้อง* เป็นความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้าและความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับผู้อื่น ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่เราได้เข้าใจว่าความชอบธรรมนั้นเกิดขึ้นโดยผ่านความเชื่อในพระเยซูคริสต์เท่านั้น (ดู โรม 3:21-4:25)สุภาษิต 10:21-30
พระพรของผู้ชอบธรรม
หนังสือสุภาษิตเปรียบเทียบชีวิตของ ‘คนโง่’ กับชีวิตของ ‘คนมีปัญญา’ นอกจากนี้ยังเปรียบเทียบชีวิตของ ‘คนชอบธรรม’ กับชีวิตของ ‘คนอธรรม’ นี่คือพระพรบางประการที่สัญญาไว้กับ ‘คนชอบธรรม’:
-
แตกต่างจากผู้อื่น
‘ปากของคนชอบธรรมเลี้ยงคนมากมาย’ (ข้อ 21ก) เราไม่สามารถเป็นคนชอบธรรมโดยอยู่อย่างโดดเดี่ยว ความชอบธรรมเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของเรา เป็นการนำพระพรไปสู่ผู้อื่น วันนี้คุณได้ ‘หล่อเลี้ยง’ (ให้อาหาร นำทาง หนุนจิตชูใจ) ให้ใครบ้างหรือยัง? -
เพลิดเพลินในปัญญา
‘คนที่มีความเข้าใจก็เพลิดเพลินกับปัญญา’ (ข้อ 23ข) สิ่งหนึ่งที่มาจากความสัมพันธ์กับพระเจ้าคือการหิวกระหายความรู้และสติปัญญา ทูลขอสติปัญญาในวันนี้ พระเจ้าสัญญาว่าจะให้สติปัญญาเมื่อคุณทูลขอ (ยากอบ 1:5) -
ความปรารถนาได้รับการเติมเต็ม
‘สิ่งที่คนชอบธรรมปรารถนา พระองค์จะประทานให้’ (สุภาษิต 10:24ข) พระวิญญาณของพระเจ้าเริ่มเปลี่ยนเจตจำนงของคุณเพื่อให้สอดคล้องกับพระประสงค์ของพระองค์ (ฟีลิปปี 2:13) และเมื่อสอดคล้องกับน้ำพระทัยของพระองค์แล้ว พระเจ้าสัญญาว่าจะประทานตามใจปรารถนาของท่าน (สดุดี 37:4) -
ปลายทางแห่งความชื่นชมยินดี
‘ความหวังของคนชอบธรรมคือความยินดี’ (สุภาษิต 10:28ก) ‘คนชอบธรรมจะตั้งมั่นเป็นนิตย์’ (ข้อ 25ข) ‘ความยำเกรงพระยาห์เวห์นั้นยืดชีวิตให้ยาว’ (ข้อ 27ก) และ ‘คนชอบธรรมจะไม่มีวันสั่นคลอน’ (ข้อ 30ก) ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องเป็นแหล่งของความชื่นชมยินดีที่ยิ่งใหญ่ ความชื่นชมยินดีของคุณถูกทำให้ ‘สมบูรณ์’ ในความสัมพันธ์กับพระเยซู (ยอห์น 15:11) ปลายทางของคุณคือความชื่นชมยินดีนิรันดร์
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ทูลขอสติปัญญาจากพระองค์ และขอพระองค์ทรงให้ปากของข้าพระองค์ได้ใช้เลี้ยงดู และชี้แนะผู้อื่น
ลูกา 23:26-56
พระองค์ผู้ชอบธรรมเพื่อผู้ไม่ชอบธรรม
พระธรรมตอนนี้ให้ความหวังแก่เราทุกคน เราเห็นจากตัวอย่างของผู้ร้ายคนหนึ่งที่ถูกประหารพร้อมกับพระเยซู ทันทีที่คุณรับรู้ถึงความบาปของตัวคุณและหันไปหาพระเยซู คุณจะได้รับการอภัยโทษทั้งหมดและมี ‘ความสัมพันธ์ที่ถูกต้อง’ กับพระเจ้า ชายคนนี้ไม่ได้ทำอะไรเลยเพื่อให้ได้ของประทานนี้ เขาไม่มีโอกาสรับบัพติศมาด้วยซ้ำ แต่ผู้ร้ายรายนี้ได้รับพระสัญญาว่าเขาจะอยู่กับพระเยซูในสวรรค์ในทันที (ข้อ 43) สิ่งนี้เป็นไปได้อย่างไร?
- ความชอบธรรมของพระเยซู
มีใครบ้างหรือไม่ที่ทำให้คุณเจ็บปวด และคุณต้องการให้อภัยในวันนี้?
พระเยซูทรงกำหนดมาตรฐานไว้สูงมากในแง่ของความท้าทายในการรักศัตรูหรือคนที่วิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงคนเหล่านั้นที่เยาะเย้ยและดูหมิ่นเรา บททดสอบของท่าทีเราก็คือการตอบสนองเมื่อเรามีความทุกข์และความเจ็บปวด ในขณะที่พระเยซูถูกทรมานบนไม้กางเขน พระองค์ทรงอธิษฐานเผื่อผู้ที่ทรมานพระองค์: ‘พระบิดาเจ้าข้า ขอทรงยกโทษพวกเขาเพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร’ (ข้อ 34)
พระเยซูทรงดำเนินชีวิตในความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้า ถ้อยคำสุดท้ายของพระองค์ที่บันทึกไว้ในพระกิตติคุณของลูกาคือ ‘ข้าแต่พระบิดา ข้าพระองค์ขอฝากจิตวิญญาณของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์’ (ข้อ 46)
แม้แต่นายร้อยชาวโรมันก็ ‘เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ จึงสรรเสริญพระเจ้าว่า “แท้จริงท่านผู้นี้เป็นคนชอบธรรม”’ (ข้อ 47)
- ความอธรรมของเราทุกคน
ความชอบธรรมของพระเยซูแตกต่างไปพวกฝูงชนที่กำลังยืนดูอยู่ คือพวกผู้นำที่เยาะเย้ยพระองค์ (ข้อ 35) พวกทหารที่เยาะเย้ยพระองค์ (ข้อ 36) และผู้ร้ายที่ถูก ‘ลงโทษอย่างยุติธรรม’ และ ‘ได้รับผลสมกับการกระทำ’ (ข้อ 41)
หนึ่งในผู้ร้ายนั้นหมิ่นประมาทพระเยซู อีกคนหนึ่งห้ามปรามเขา และหันไปหาพระเยซู เขาตระหนักถึงบาปของตนเอง (‘เราทั้งสองก็สมควรกับโทษนั้นจริง เพราะเราได้รับผลสมกับการกระทำ’ , ข้อ 41ก) และความชอบธรรมของพระเยซู (‘แต่ท่านผู้นี้ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย’, ข้อ 41ข) แล้วคนนั้นจึงทูลว่า ‘พระเยซู ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในแผ่นดินของพระองค์’ (ข้อ 42) พระเยซูทรงตอบเขาว่า ‘เราบอกความจริงกับท่านว่า วันนี้ท่านจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม’ (ข้อ 43)
- คนชอบธรรมตายเพื่อเหล่าคนอธรรม
ข้อความนี้เต็มไปด้วยการประชดประชัน พวกผู้นำก็เยาะเย้ยพระองค์ด้วยว่า ‘เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ ก็ให้เขาช่วยตัวเองด้วยซิ ถ้าหากเขาเป็นพระคริสต์ของพระเจ้าที่ทรงเลือกไว้’ (ข้อ 35) พวกทหารก็เยาะเย้ยพระองค์ด้วยว่า ‘ถ้าเจ้าเป็นกษัตริย์ของพวกยิวก็จงช่วยตัวเองให้รอดเถิด’ (ข้อ 37)
หนึ่งในผู้ร้ายพูดกับพระเยซูว่า ‘เจ้าเป็นพระคริสต์ไม่ใช่หรือ? จงช่วยตัวเองกับเราทั้งสองให้รอดเถิด!’ (ข้อ 39) อันที่จริงพระองค์กำลังจะตายเพื่อช่วยพวกเขาและพวกเรา แต่ในการกระทำเช่นนั้นพระองค์ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ พระองค์กำลังจะสิ้นพระชนม์ในฐานะ ‘ผู้ชอบธรรมเพื่อผู้ไม่ชอบธรรม เพื่อจะนำพวกท่านไปถึงพระเจ้า’ (1 เปโตร 3:18)
ม่านในพระวิหารก็ขาดออก (ลูกา 23:45) เป็นสัญลักษณ์ว่า ทุกคนสามารถเข้าไปในที่ประทับของพระเจ้าได้ผ่านทางการสิ้นพระชนม์ของพระเยซู พระเยซูทรงทำให้คุณและผมสามารถมีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้าได้
- ‘ชอบธรรม’ หรือ ‘ไม่ชอบธรรม’?
ความแตกต่างในปฏิกิริยาที่ผู้ร้ายทั้งสองนั้นมีต่อพระเยซู ลูกาได้วางให้เห็นว่าการตัดสินใจเป็นสิ่งที่เราต้องทำ คุณสามารถปฏิเสธพระเยซูได้เช่นเดียวกับที่หนึ่งในนั้นทำหรือคุณจะไว้วางใจในพระองค์เหมือนที่ผู้ร้ายอีกคนหนึ่งได้ทำ เขาหันมาหาพระเยซูและกล่าวว่า ‘ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์’ (ข้อ 42)
แม้ว่าหลายคนในสมัยนั้นได้ปฏิเสธพระเยซู แต่อีกหลายคนก็เชื่อในพระองค์ ตัวอย่างเช่น โยเซฟแห่งอาริมาเธีย ‘เป็นคนดีและชอบธรรม’ (ข้อ 50) ได้มาเชื่อในพระเยซู ท่านไม่เห็นด้วยกับมติและการกระทำของสภานั้น (ข้อ 51) เป็นคนที่คอยแผ่นดินของพระเจ้า (ข้อ 51) และเป็นคนจัดการฝังพระศพให้พระเยซูอย่างสง่างาม
พวกผู้หญิงที่มากับพระเยซูก็วางใจในพระองค์เช่นกัน ‘พวกผู้หญิงที่ตามพระองค์มาจากแคว้นกาลิลีก็ตามไปและเห็นอุโมงค์นั้น ทั้งเห็นว่าเขาวางพระศพของพระองค์ไว้อย่างไรด้วย แล้วพวกนางก็กลับไปจัดแจงเครื่องหอมกับน้ำมันหอม ในวันสะบาโตนั้นพวกเขาก็หยุดพักตามบัญญัติ’ (ข้อ 55–56)
คุณเองก็สามารถเลือกได้ เมื่อคุณเชื่อในพระเยซู พระองค์ทรงสัญญากับคุณเช่นเดียวกันกับที่ทรงสัญญากับผู้ร้ายคนนั้นที่หันมาหาพระองค์ คุณจะได้อยู่กับพระองค์ในสวรรค์เช่นเดียวกัน
หากคุณเคยรู้สึกว่าเป็นภาระหนักที่ต้องพยายามทำเพื่อจะได้รับความรักจากพระเจ้า คุณสบายใจได้เลยจากข้อพระธรรมนี้ว่า ไม่มีสิ่งใดที่คุณสามารถทำเพื่อทำให้พระเจ้ารักคุณมากขึ้นได้ และไม่มีสิ่งใดที่คุณสามารถทำเพื่อทำให้พระเจ้ารักคุณน้อยลงได้
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงประทานความชอบธรรมแก่ข้าพระองค์โดยความเชื่อและทำให้ข้าพระองค์มีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระองค์
โยชูวา 9:16-10:43
ชอบธรรมโดยความเชื่อ
โยชูวาพูดกับผู้นำของเขาตามพระวจนะที่พระเจ้าตรัสกับโยชูวาในช่วงต้นของการเป็นผู้นำของเขา (โยชูวา 1:6,9,18) ว่า ‘อย่ากลัวหรือตกใจเลย จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด’ (10:25) ขอให้คุณได้ฟังถ้อยคำเหล่านี้ด้วยตัวคุณเองวันนี้แล้วส่งต่อให้ผู้อื่น
ชื่อของกษัตริย์แห่งเยรูซาเล็มคืออาโดนีเซเดก (ข้อ 1) คำว่า ‘เซเดก (Zedek)’ หมายถึง ‘ชอบธรรม’ อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ว่าเขาอยู่ห่างไกลจากความชอบธรรม ผู้คนที่อาศัยอยู่ในคานาอันในเวลานั้นเกี่ยวข้องกับการบูชายันและการกระทำที่ชั่วร้ายอื่น ๆ
ในทางกลับกัน โยชูวากำลังดำเนินชีวิตในความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้า ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่เปิดเผยชัดเจนว่าความชอบธรรมของโยชูวาเป็นเช่นเดียวกับอับราฮัมและคนอื่น ๆ ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ซึ่งมาจาก ‘ความเชื่อ’ (โรม 3:21-4:25) โยชูวาเป็นคนมีความเชื่อ (ฮีบรู 11:30)
ผลของการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะผู้ที่มีชีวิตอยู่หลังจากพระองค์ การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูได้ส่งผลต่อผู้ที่มีชีวิตอยู่ก่อนหน้าพระองค์เช่นกัน พระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่ออับราฮัม โมเสส และโยชูวา พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อผู้ร้ายบนไม้กางเขน พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อผมและเพื่อคุณ เราถูกทำให้เป็นคนชอบธรรม ‘ความชอบธรรมของพระเจ้า ซึ่งปรากฏโดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์แก่ทุกคนที่เชื่อ โดยไม่ทรงถือว่าเขาแตกต่างกัน’ (โรม 3:22)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ ทรงเป็นผู้ชอบธรรมที่กระทำเพื่อคนอธรรม ขอทรงโปรดช่วยให้ข้าพระองค์ได้ดำเนินชีวิตในวันนี้ด้วยความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระองค์ และมีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับผู้อื่นด้วย
Pippa Adds
ลูกา 23:55-56ก
พวกผู้หญิงเหล่านั้นมีความภักดี กล้าหาญ และลงมือทำ พวกเธอพบว่าพระศพของพระเยซูถูกวางที่ไหน จากนั้นจึงไปและทำในสิ่งที่ทำได้ พวกเธอได้สนับสนุนพระเยซู ทั้งในด้านการเงิน และพระราชกิจตลอดช่วงชีวิตของพระองค์ และพวกเธอยังคงดูแลพระองค์ต่อไปจนถึงที่สุด
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)ဤအစီအစဥ္အေၾကာင္း

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
စပ္ဆိုင္ေသာ အစီအစဥ္မ်ား

BibleProject | ဘုရားသခင်၏ထာဝရမေတ္တာ

ဉာဏ်အရာ၌ အသက်ကြီးသောသူ ဖြစ်ကြလော့

ဆာလံကျမ်း ၁၁၉ အရ၊ နှုတ်ကပတ်တော်တရား

ဝိညာဥ်ကြီးထွားခြင်းကို တည်ဆောက်ပေးသော အလေ့အကျင့် (၇)ခု

BibleProject | ကားစင်တင်ခြင်းခံဘုရင်

BibleProject | ယေရှုနှင့် လူသားမျိုးနွယ်သစ်

BibleProject | တမန်တော်ပေါလုအကြောင်းလေ့လာချက်

BibleProject | ပဋိညာဉ်သစ်၊ ပညာသစ်

ယေရှု၏ ဘုရားဇာတိတော်ကို အတည်ပြုသောအကြောင်း (၅) ရပ်
