พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลПримерок

วิธีสัมผัสความรักของพระเจ้าที่มีต่อคุณ
เนื้อเพลงที่ชวนให้รำลึกถึงอดีตในเพลง ‘Feel' (ฟีล) ของร็อบบี วิลเลียมส์ ได้สะท้อนถึงความโหยหาอย่างลึกซึ้งของหัวใจมนุษย์ อย่างท่อน ‘I just wanna feel real love’ (ฉันแค่อยากสัมผัสถึงรักแท้) พระเจ้าประสงค์ให้คุณสัมผัสความรักของพระองค์ที่มีต่อคุณ พระองค์ประสงค์ให้คุณรับเอาความรักของพระองค์ในหัวใจ วันนี้คุณสามารถรับความรักจากพระองค์ ด้วยวิธีการใหม่ ผมจำเหตุการณ์เมื่อหลานชายอายุ 2 ขวบอยากจะสัมผัสความรักของพ่อ เขาชูมือ 2 ข้างขึ้นและพูดว่า ‘พ่อ... กอด’ ลูกชายของผมอุ้มลูกของเขาขึ้นมา โอบกอดและจูบเขา การจับมือพ่อแม่เป็นสิ่งที่ดีงาม แต่การที่พ่อแม่สวมกอดเรานั้นเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ามาก นั่นคือภาพที่บรรยายถึงประสบการณ์กับ ความรักของพระเจ้า คุณรู้ว่าพระเจ้าทรงรักคุณผ่านไม้กางเขน ‘แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เรา คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา’ (โรม 5:8) คุณ*มีประสบการณ์*กับความรักของพระเจ้าผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์: ‘เพราะเหตุว่าความรักของพระเจ้าได้หลั่งเข้าสู่จิตใจของเรา โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เราแล้ว’ (5:5) เซนต์ออกัสติน กล่าวว่า ‘พระคัมภีร์ทั้งเล่มทำสิ่งเดียวคือบอกถึงความรักของพระเจ้า’ คุณพ่อราเนียโร คานทาลาเมสซ่า เขียนว่า ‘นี่คือข้อความที่สนับสนุนและอธิบายข้อความอื่น ๆ ทั้งหมด ความรักของพระเจ้าเป็นคำตอบสำหรับคำถามในพระคัมภีร์ทั้งเล่มว่า “ทำไม”: ทำไมมีการทรงสร้าง ทำไมทรงมาเกิดเป็นมนุษย์ ทำไมมีการทรงไถ่ หากคำที่เขียนในพระคัมภีร์เปลี่ยนเป็นคำพูดและกลายเป็นเสียงเดียวได้ เสียงนี้จะเป็นเสียงที่เปล่งออกมาอย่างทรงพลังยิ่งกว่าเสียงคำรามของท้องทะเล “พระบิดาเองก็ทรงรักพวกท่าน” (ยอห์น 16:27) ทุกสิ่งที่พระเจ้ากระทำและตรัสในพระคัมภีร์คือความรัก แม้แต่ความกริ้วของพระเจ้าก็เปี่ยมด้วยรัก พระเจ้าทรง “เป็น” ความรัก!’สดุดี 86:11-17
ความรักของพระเจ้ายิ่งใหญ่และเป็นส่วนตัว
เมื่อเรารู้ถึงความยิ่งใหญ่ของความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรา การตอบสนองคือการนมัสการ: ‘ข้าแต่องค์เจ้านายพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะยกย่องพระองค์ด้วยสุดใจ และข้าพระองค์จะเทิดทูนพระนามของพระองค์เป็นนิตย์’ (ข้อ 12)
ดาวิดรู้ว่าคือความรักของพระเจ้าผู้สนพระทัยเราแต่ละคนเป็นการส่วนตัว ดาวิดเขียนว่า ‘เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ที่ทรงมีต่อข้าพระองค์นั้นใหญ่ยิ่ง’ (ข้อ 13ก) เราเองก็เป็นเหมือนดาวิด คือเป็น ‘บุตรที่รักของพระองค์’ (ข้อ 16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
การรักคือธรรมชาติของพระเจ้า ‘ข้าแต่องค์พระเจ้า พระองค์ทรงอ่อนโยนและมีใจเมตตา ไม่ทรงกริ้วง่าย และอุดมด้วยความรัก’ (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ดาวิดอธิษฐานว่า ‘ขอทรงสำแดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงรักข้าพระองค์มากเพียงใด’ (ข้อ 17, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เมื่อรำลึกถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อเขา ดาวิดอธิษฐาน ‘ขอทรงรวมใจของข้าพระองค์เป็นใจเดียว’ (ข้อ 11ข) ดาวิดต้องการตอบสนองต่อความรักของพระเจ้าที่มีต่อเขาโดยการยอมจำนนต่อพระองค์อย่างสิ้นเชิง
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงกรุณาและมีพระคุณทรงอุดมด้วยความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ (ข้อ 15) ขอบคุณที่ความรักของพระองค์ที่มีต่อข้าพระองค์ยิ่งใหญ่นักและเป็นการส่วนตัว โปรดประทานหัวใจที่รวมเป็นหนึ่งเดียวให้ข้าพระองค์ด้วยเถิด
โรม 4:16-5:11
ความรักของพระองค์ถูกสำแดงและหลั่งไหลออกมา
คุณเชื่อหรือไม่ว่าพระเจ้าทรงรักคุณอย่างแท้จริง? ความรักของพระเจ้าจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง พระองค์จะไม่มีวันหยุดรักคุณ ความรักของพระองค์ที่มีต่อคุณนั้นยิ่งใหญ่กว่าความผิดพลาดของคุณ พระองค์ทรงต้องการให้คุณรับความรักของพระองค์ด้วยความเชื่อ
พระเจ้าทรงรักคุณและต้องการจะให้ชีวิตกับคุณ ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด พระองค์ทรงให้ ‘ชีวิตแก่คนที่ตายแล้ว’ (4:17) พระเจ้าทรงทำให้พระเยซูเป็นขึ้นจากความตาย วันหนึ่งทุกคนในพระคริสต์ที่ตายแล้วนั้นจะได้รับชีวิตที่เป็นขึ้นใหม่ ในขณะเดียวกันพระเยซูตรัสว่าพระองค์มาเพื่อพวกเขาจะได้ชีวิตและจะได้อย่างครบบริบูรณ์ (ยอห์น 10:10)
อาจารย์เปาโลบรรยายต่อไปถึงความเชื่อของอับราฮัม อับราฮัมเชื่อในพระสัญญาของพระเจ้าที่บอกว่าเขาและซาราห์จะมีบุตร ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นไปไม่ได้สำหรับมนุษย์ก็ตาม
เราเรียนรู้เกี่ยวกับอับราฮัมว่า 'ความไม่เชื่อหรือความแคลงใจไม่อาจทำให้เขาไขว้เขว (ตั้งคำถามอย่างสงสัย) ในพระสัญญาของพระเจ้า แต่เขากลับเข้มแข็งขึ้นและเสริมด้วยความเชื่อเมื่อเขาร้องสรรเสริญและถวายเกียรติแด่พระเจ้าโดยความพึงพอใจอย่างยิ่งและมีความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าทรงฤทธิ์สามารถรักษาถ้อยคำของพระองค์ และกระทำตามสิ่งที่ทรงสัญญาไว้’ (โรม 4:20-21, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) พูดอีกอย่างคืออาจารย์เปาโลกำลังกล่าวย้ำว่าอับราฮัมถูกทำให้ชอบธรรมโดยความเชื่อ
แต่ความชอบธรรมโดยความเชื่อนั้นไม่ได้มีเพื่ออับราฮัมเพียงคนเดียว ‘แต่สำหรับเราด้วย ที่ทรงถือว่าเราเป็นคนชอบธรรม คือเราที่เชื่อในพระองค์ผู้ทรงทำให้พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า ของเราเป็นขึ้นจากความตาย’ (ข้อ 24) คุณเองก็ถูกทำให้ชอบธรรมโดยความเชื่อ ‘การสละพระชนม์ของพระเยซูทำให้เราสามารถเข้าหาพระเจ้าและเป็นผู้ชอบธรรมโดยพระองค์’ (ข้อ 25, พระคัมภีร์ฉบับ The Message โดยผู้แปล)
อาจารย์เปาโลยังคงพูดต่อเกี่ยวกับผลลัพธ์ของความจริงนี้ เพราะคุณถูกทำให้ ‘ชอบธรรมโดยความเชื่อ’ คุณจึงสามารถสงบสุขเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า คุณ ‘ได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อหน้าพระองค์’ (ข้อ 5:1-2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) คุณสามารถเข้าใกล้พระองค์ และพูดคุยกับพระองค์ทุกวัน รู้ไว้ว่าไม่มีสิ่งใดขวางกั้นระหว่างคุณกับพระองค์
‘ยิ่งกว่านั้นคือ เราจะโห่ร้องด้วยเสียงสรรเสริญต่อไปแม้ในเวลาที่ประสบกับความทุกข์ยาก’ (ข้อ 3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘ยิ่งกว่านั้นเราก็ชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากด้วย เพราะเรารู้ว่าความทุกข์ยากนั้น ทำให้เกิดความทรหดอดทน และความทรหดอดทนทำให้เห็นว่า เราเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้ได้ และการที่เป็นเช่นนั้นทำให้มีความหวัง และความหวังจะไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเหตุว่าความรักของพระเจ้าได้หลั่งเข้าสู่จิตใจของเรา โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เราแล้ว’ (ข้อ 3-5)
ความรักของพระเจ้าได้เติมเต็มจนล้นจากส่วนลึกของหัวใจของคุณ ประสบการณ์ในความรักของพระเจ้านั้นล้ำลึกและท่วมท้น พันธกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์คือการช่วยให้คุณสัมผัสความรักของพระเจ้า ถ้าคุณยังไม่เคยมีประสบการณ์กับการเติมเต็มหัวใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผมอยากหนุนใจให้คุณเพียงแค่ทูลขอพระเจ้าให้เติมเต็มคุณในเวลานี้
อาจารย์เปาโลยังมีอีกหลายอย่างที่จะบอกเกี่ยวกับความรักของพระเจ้า เขาพูดว่าถึงแม้ในเวลาที่คุณต่อต้านพระองค์ พระเจ้าได้ส่งพระเยซูมาตายแทนคุณ ‘แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เรา คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา’ (ข้อ 8)
แก่นแท้ของความรักคือการให้ ยิ่งของประทานมีค่ามากเท่าใด ผู้รับก็ไม่สมควรจะได้รับมากเท่าใด โดยความรักก็ยิ่งใหญ่มากเท่านั้นแหละ
นี่คือวิธีที่จะรู้ว่าพระเจ้าทรงรักคุณ พระบิดาทรงอนุญาตให้พระบุตรองค์เดียวถูกพรากไปจากอ้อมอกและไปยังกางเขน แม้ว่าเราไม่คู่ควรจะได้รับเพราะเราเป็นคนบาปที่ขาดจากพระเจ้า และพระคริสต์ทรงตายเพื่อเรา พระเจ้าไม่หวงพระบุตรของพระองค์ พระองค์ทรงรักคุณมากเท่านั้น
ถ้าพระเจ้าทรงรักคุณอย่างมาก คุณสามารถมั่นใจได้ว่าอนาคตของคุณจะมั่นคง ‘เมื่อเราเคยย่ำแย่ที่สุด เราได้มาอยู่ในสัมพันธภาพกับพระเจ้าโดยการสละพระชนม์โดยพระบุตรของพระองค์ ตอนนี้เราอยู่ในจุดที่ดีที่สุด ลองคิดดูว่าชีวิตของเราจะขยายออกและลงลึก นั่นเป็นเพราะการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์อย่างไร!’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ทรงรักข้าพระองค์อย่างมากจนได้สิ้นพระชนม์เพื่อข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทูลขออีกครั้งว่าโปรดเทความรักของพระองค์ลงมาในหัวใจของข้าพระองค์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และโปรดช่วยให้ข้าพระองค์สัมผัสความรักที่ลึกซึ้งของพระองค์ที่มีต่อข้าพระองค์
อาโมส 6:1-7:11
ความรักและความโศกเศร้าของพระเจ้า
รู้หรือไม่ว่าความกริ้วของพระเจ้าก็คือความรัก เราได้เห็นตัวอย่างในข้อนี้ เมื่อพระเจ้าทรงกริ้วผู้นำที่ ‘อยู่อย่างสบาย’ (ข้อ 6:1)
‘วิบัติแก่คนที่อาศัยอยู่อย่างสบาย
|และคาดหวังให้คนที่เหลือรับใช้ตน
วิบัติแก่คนที่ใช้ชีวิตอยู่เพื่อวันนี้เท่านั้น
|ไม่แยแสต่อชะตากรรมของผู้อื่น
วิบัติแก่ชายหญิงที่เจ้าชู้หลายใจ
|คนที่คิดว่าชีวิตคืองานรื่นเริงที่จัดไว้เพียงเพื่อพวกเขา
วิบัติแก่คนที่เสพติดการรู้สึกดี คือชีวิตที่ไร้ความเจ็บปวด!
|คนที่หมกมุ่นกับการดูดี คือชีวิตที่ไร้ซึ่งริ้วรอย!
พวกเขาไม่สนใจสักนิดว่า
|ประเทศของตนกำลังไปสู่ความพินาศ’ ( ข้อ 4-6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ไม่ผิดอะไรมากนักในการที่พวกเขามีความสุขกับสิ่งดี ๆ ในชีวิต เพราะนั่นไม่ใช่บาปโดยตัวมันเอง แต่เพราะว่าพวกเขาไม่สนใจสภาพคนของพระเจ้า พระเจ้าทรงเกลียดความเย่อหยิ่งและความจองหอง (ข้อ 6-8) ซึ่งทำให้เราพลาดที่จะยอมรับว่าเราต้องการพระองค์ และขัดขวางเราจากการ มีประสบการณ์กับความรักของพระองค์ รวมทั้งรักคนอื่นอย่างที่พระองค์ทรงรักพวกเขา
ถ้าผู้นำรักคนของพระเจ้าเหมือนอย่างที่พระองค์ทรงรักพวกเขา ผู้นำเหล่านั้นคงจะคร่ำครวญเพราะประเทศชาติที่กำลังไปสู่ความพินาศ
อาโมสเป็นแบบอย่างของคนที่ใส่ใจ และทำบางอย่าง เขาอธิษฐานวิงวอนเพื่อประชาชน (7:1–6)
อาโมสเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ‘ข้าพเจ้าไม่เคยตั้งใจจะเป็นนักเทศน์ ไม่เคยวางแผนจะเป็นผู้ประกาศ ข้าพเจ้าเลี้ยงฝูงสัตว์และลิดต้นไม้ จากนั้นพระเจ้าทรงพาข้าพเจ้าออกจากทุ่งนาและตรัสว่า “จงไปประกาศกับอิสราเอล ประชากรของเรา”’ (ข้อ 7:14-15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระเจ้าไม่พอพระทัยกับการมองดูความอยุติธรรมเฟื่องฟู พระองค์ทรงรักประชากรของพระองค์มากเกินกว่าจะยอมได้ พระองค์ทรงให้อาโมสลุกขึ้นไปบอกประชาชนถึงผลลัพธ์ของสิ่งที่พวกเขากำลังทำและเรียกให้พวกเขาหันกลับ มายังทางของพระองค์
ให้เราอธิษฐานและวิงวอนเพื่อชนชาติของเราเหมือนอย่างอาโมส:
'ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย ขอทรงให้อภัย!’ (ข้อ 2) โดยความรักยิ่งใหญ่ของพระองค์ โปรดทรงเมตตาพวกเรา ขอบคุณที่พระองค์ทรงรักคริสตจักรของพระองค์ และพระองค์ทรงฤทธิ์ สามารถทำให้คนที่ตายแล้วเป็นขึ้นมา (โรม 4:24) ข้าแต่พระเจ้า เราอธิษฐานขอให้พระองค์นำให้คนจำนวนมากขึ้นมาได้ยินถ้อยคำของพระองค์ และพูดออกไปด้วยความกล้าหาญ ด้วยฤทธิ์เดช และด้วยความรัก
Pippa Adds
อาโมส 6:4ก
‘ผู้ที่นอนบนเตียงงาช้าง และผู้ซึ่งเหยียดกายอยู่บนเก้าอี้นอน’
ถ้าฉันมีโอกาสที่จะทำแบบนั้นได้คงจะดีสิ!
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)Опис за овој план

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Слични Планови

Пет молитви на понизност

Твојата најдобра инвестиција!

Ти имаш молитва!

божиќ о, дојдете да го прославиме!

Живеј живот со цел!

доверба - да веруваш на тоа што бог го кажува во неговото слово и да живееш во согласност со тоа божјо слово

Живеј со сила и храброст!

Отстапи го на Бога првото место

Што е вистинска љубов?
