Лого на YouVersion
Икона за пребарување

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลПримерок

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

131 ДЕН ОД 365

พลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด กำลังอันเข้มแข็งที่ไร้ขีดจำกัด

เรามักจะเล่าเรื่องเมื่อ จอห์น วิมเบอร์ มาที่คริสตจักรของเราครั้งแรก เราเห็นการเทของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และการเยียวยารักษาหลายต่อหลายครั้ง มีหนึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในคืนที่สอง ที่ตราตรึงในความทรงจำของผมอย่างไม่มีวันลืมเลือน เพื่อนสนิทคนหนึ่งของเรากำลังตั้งครรภ์ได้แปดเดือนในขณะนั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาประทับเหนือเธอด้วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ เธอเริ่มหมุนตัวไปรอบ ๆ อย่างเร็วมาก ในขณะที่เธอทำเช่นนั้น เธอได้อุทานซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ‘ฉันรู้สึก*แข็งแกร่ง*มาก’ ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เธอให้กำเนิดบุตรชายซึ่งไม่เพียงแต่สำแดงความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณและอารมณ์เท่านั้น แต่ยังสำแดงความแข็งแกร่งทางร่างกายที่ไม่ธรรมดาอีกด้วย เขาได้กลายเป็นนักรักบี้ที่โดดเด่น เป็นนักกีฬาที่ยอดเยี่ยม และตอนนี้เขาก็กลายเป็นนายแบบที่ประสบความสำเร็จ สำหรับบางคน (เช่น แซมซัน ผู้ที่เราจะได้ใคร่ครวญร่วมกันในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมในวันนี้) พระวิญญาณบริสุทธิ์ประทานความแข็งแกร่งทางร่างกายเป็นพิเศษให้แก่เขา แต่สำหรับเราทุกคน พระวิญญาณบริสุทธิ์ประทานกำลังฝ่ายวิญญาณให้กับเรา อัครสาวกเปาโลพรรณนาว่า ‘และรู้ว่าฤทธานุภาพของพระองค์ยิ่งใหญ่มากมายเพียงไรสำหรับเราที่เชื่อนั้น เป็นฤทธิ์เดชเดียวกับการทำกิจอัน*ทรงอานุภาพและทรงพลัง*ของพระองค์ ซึ่งทรงทำในพระคริสต์เมื่อทรงทำให้พระคริสต์เป็นขึ้นจากตาย’ (เอเฟซัส 1:19–20) นั้นเป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ให้พระเยซูฟื้นจากความตาย (โรม 8:11ก) พระวิญญาณบริสุทธิ์คือ ‘ฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์’ เป็นกำลังอันเข้มแข็งแบบเดียวกันที่อยู่ใน*ตัวคุณ*และ ‘จะทรงทำให้กายซึ่งต้องตายของพวกท่านเป็นขึ้นมาใหม่ โดยพระวิญญาณของพระองค์*ซึ่งสถิตอยู่ในท่าน*’ (ข้อ 11ข) ผมชอบผลงานแปลของ ยูจีน ปีเตอร์สัน (ในข้อพระคัมภีร์เอเฟซัส) ซึ่งเขาพูดถึงพระเจ้าผู้ทรงประทาน ‘พลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด *กำลังอันเข้มแข็งที่ไร้ขีดจำกัด*’!

สดุดี 59:9-17

ข้าแต่พระกำลังของข้าพระองค์

คุณกำลังดิ้นรนในโลกที่เผชิญกับการระบาดของไวรัสโคโรน่านี้อยู่หรือไม่? คุณรู้สึกทุกทรมานมากไหม?

เฉกเช่นเดียวกับดาวิดที่ต้องเผชิญปัญหาอย่างหนักหน่วง ให้เราร้องทูลกับพระเจ้าในวันนี้ว่า ‘ข้าแต่พระกำลังของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะเฝ้าดูพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นป้อมปราการของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพเจ้าจะพบข้าพเจ้าด้วยความรักมั่นคงของพระองค์’ (ข้อ 9–10ก)

พระธรรมสดุดีจบลงด้วยชัยชนะ: ‘แต่ข้าพระองค์จะร้องเพลงถึงพระกำลังของพระองค์ ข้าพระองค์จะโห่ร้องด้วยความยินดีเรื่องความรักมั่นคงของพระองค์ในเวลาเช้า เพราะพระองค์ทรงเป็นป้อมปราการของข้าพระองค์ เป็นที่ลี้ภัยในยามที่ข้าพระองค์ทุกข์ยาก ข้าแต่พระกำลังของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะร้องเพลงสดุดีพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า เพราะพระองค์ทรงเป็นป้อมปราการของข้าพระองค์ พระเจ้าผู้ทรงสำแดงความรักมั่นคงแก่ข้าพระองค์’ (ข้อ 16–17)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่พระองค์ทรงเป็น *‘กำลังที่เข้มแข็ง’* ของข้าพระองค์ พระเจ้าผู้ทรงสำแดงความรักมั่นคงแก่ข้าพระองค์ โปรดประทานพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด กำลังอันเข้มแข็งที่ไร้ขีดจำกัดของพระองค์ให้แก่ข้าพระองค์

ยอห์น 6:60-7:13

การทรงเรียกที่ยากลำบาก

คุณเคยพบว่าคำสอนของพระเยซูเป็นเรื่องยากที่จะทำตามหรือไม่? บางครั้งคุณพบว่าการเป็นคริสเตียนเป็นเรื่องยากไหม เช่น ในที่ทำงาน? บางครั้งคุณพบว่ามีคนไม่ชอบคุณโดยไม่มีเหตุผลหรือไม่? คุณเคยรู้สึกอยากเลิกติดตามพระเยซูบ้างไหม?

หากคุณต้องการชีวิตที่เรียบง่าย ผมไม่แนะนำให้ติดตามพระเยซู เพราะต่อไปมันจะไม่ง่ายเลย และตอนนี้ก็ไม่ง่ายเช่นกัน อลิซ คูเปอร์ นักร้องชาวร็อก กล่าวว่า ‘การดื่มเบียร์เป็นเรื่องง่าย ทิ้งขยะห้องพักในโรงแรมเป็นเรื่องง่าย แต่การเป็นคริสเตียนนั้นเป็นเรื่องยาก นั่นคือการกบฏที่แท้จริง’

การติดตามพระเยซูถือเป็นการทรงเรียกที่ยากลำบาก และในขณะเดียวกันก็เป็นหนทางสู่ชีวิตที่ครบบริบูรณ์ด้วยเช่นกัน พระเยซูทรงอธิบายว่า ความบริบูรณ์ของชีวิตเช่นนี้มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

คำสอนของพระเยซูไม่ใช่เรื่องง่าย เหล่าสาวกกล่าวว่า ‘นี่เป็นคำสอนที่หนักและยากและแปลกประหลาดมาก... ใครจะทนฟังได้บ้าง’ (6:60, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Amplified Bible โดยผู้แปล) อันที่จริง คำสอนบางอย่างของพระเยซูนั้นหนักมาก ‘ตั้งแต่นั้นมาสาวกของพระองค์หลายคนถดถอยไม่ติดตามพระองค์ต่อไปอีก’ (ข้อ 66) พระธรรมตอนนี้เริ่มต้นด้วยผู้คนมากมายที่ติดตามพระเยซู แต่จบลงด้วยหลายคนหันหลังให้พระองค์

ไม่บ่อยนักที่ผู้ฟังพบว่าคำสอนของพระเยซูนั้นยากที่จะเข้าใจ แต่พวกเขาแค่ไม่ชอบเนื้อหามากกว่า พวกเขาพบว่าคำสอนของพระองค์ทำให้พวกเขาสะดุด (ข้อ 61) ดูเหมือนว่าพวกเขาจะขุ่นเคืองใจเป็นพิเศษกับการอ้างตนของพระเยซู ที่ทรงตรัสว่าทรงเป็น ‘อาหารแห่งชีวิต’ ทรงเรียกพวกเขาให้เชื่อในพระองค์และเสนอชีวิตนิรันดร์ให้

คำสอนนี้ไม่เพียงแต่ ‘ยาก’ เท่านั้น แต่ยังได้รับ ‘ความเกลียดชัง’ พระเยซูตรัสว่า ‘...โลกเกลียดชังเรา เพราะเราเป็นพยานว่าการงานของโลกนี้ชั่วร้าย’ (7:7) พระองค์ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนหลอกลวง (ข้อ 12) ต้องจ่ายราคาสูงมากทีเดียวในการติดตามคนที่ถูกเกลียดชังขนาดนี้

เห็นได้ชัดว่าเมื่อมีหลายคนหันหลังกลับและไม่ติดตามพระองค์อีกต่อไป พระองค์ทรงเจ็บปวดมาก พระเยซูตรัสถามสาวกสิบสองคนว่า ‘พวกท่านก็จะจากเราไปด้วยหรือ?’ ซีโมนเปโตรทูลผู้เป็นดั่งโฆษกของกลุ่ม ตอบพระองค์ว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้า พวกข้าพระองค์จะจากไปหาใครได้? พระองค์ทรงมีถ้อยคำแห่งชีวิตนิรันดร์ และพวกข้าพระองค์ก็เชื่อและทราบแล้วว่าพระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า’ (6:67–69)

นี่เป็นความจริงที่ทรงพลังมาก พระเยซูมีพระวจนะแห่งชีวิตนิรันดร์ พระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า ทรงเป็นผู้เดียวที่เราควรเสาะหา

ในข้อนี้ เราจะได้เห็นตรีเอกานุภาพ เปโตรยอมรับว่าพระเยซูเป็น ‘องค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า’ (ข้อ 69) พระเยซูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับความบริสุทธิ์ของพระเจ้า ทรงเป็นพระเจ้า พระองค์ได้ตรัสถึงพระบิดา (ข้อ 65) และยังตรัสถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ข้อ 63)

พระเยซูตรัสว่า ‘พระวิญญาณเป็นผู้ให้ชีวิต’ (ข้อ 63ก) เนื้อหนังให้ชีวิตฝ่ายเนื้อหนังฉันใด พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ทรงให้ชีวิตฝ่ายวิญญาณฉันนั้น พระองค์ตรัสว่า ‘ถ้อยคำที่เรากล่าวกับพวกท่านมาจากพระวิญญาณและเป็นชีวิต’ (ข้อ 63ข)

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก่อน ‘เทศกาลอยู่เพิง’ (7:2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The International Standard Version โดยผู้แปล) ทุกครอบครัวจะออกจากบ้านและอาศัยอยู่ในเต็นท์เป็นเวลาแปดวันเพื่อเฉลิมฉลองอย่างเปรมปรีดิ์ (ค่อนข้างคล้ายกับวันหยุดฤดูร้อนของคริสตจักร!) พวกเขาจะขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับน้ำที่ให้ชีวิต นี่คือเหตุการณ์ที่พระเยซูคริสต์ทรงเลือกยกตัวอย่างเพื่อสอนพวกเขาเกี่ยวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ให้ชีวิต

เมื่อพระเยซูตรัสถึงชีวิตนิรันดร์ พระองค์กำลังตรัสถึงคุณภาพชีวิตที่เริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้และดำเนินต่อไปเป็นนิตย์ ‘ได้ชีวิตและจะได้อย่างครบบริบูรณ์’ (10:10) นี่คือชีวิตในแบบที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ประทานมาให้ นั่นคือเหตุผลที่ถึงแม้ต้องจ่ายราคามากเพียงใดในการติดตามพระเยซู แต่ผลดีที่ได้รับนั้นมีมากกว่าราคาที่จ่ายไป อันที่จริงไม่มีทางเลือกอื่นที่เป็นจริงแท้แน่นอนเลยด้วยซ้ำ พระเยซูเท่านั้นที่สามารถให้พระวิญญาณบริสุทธิ์แก่คุณได้ พระเยซูเท่านั้นที่สามารถให้ชีวิตที่ครบบริบูรณ์ได้

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ปรารถนาพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์เพื่อประทานชีวิตแก่ฉัน โปรดเจิมข้าพระองค์ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ เพื่อว่าถ้อยคำที่ข้าพระองค์พูดในวันนี้จะเป็น ‘วิญญาณ’ และ ‘ชีวิต’ แก่ผู้ที่ได้ยิน (6:63)

ผู้วินิจฉัย 12:1-13:25

ฤทธานุภาพของพระองค์

คุณเคยกระวนกระวายกับระยะเวลาที่พระเจ้าทรงใช้เพื่อตอบคำอธิษฐานของคุณหรือไม่? พระเจ้าไม่ทรงรีบร้อน แต่พระองค์ทรงทันเวลาเสมอ

เราจะเห็นการจัดเตรียมแผนการของพระเจ้าอย่างละเอียดซับซ้อนต่อการกำเนิดของแซมสันได้จากข้อพระคำตอนนี้ ผู้ที่มีพลังที่พิเศษในการช่วยเหลือผู้คนในยุคของเขา แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ภาพจำลองของบางสิ่งที่ต้องใช้เวลานานกว่านั้นอีก เมื่อหลายร้อยปีหลังจากนั้น ยอห์นผู้ให้รับบัพติศมา ผู้มีความคล้ายคลึงกับแซมสันในหลาย ๆ ด้าน ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อจัดเตรียมทางให้สำหรับ ผู้ช่วยกู้ให้รอดผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก

บ่อยครั้งที่พระเจ้า ทรงประทานลูกให้กับผู้คนที่รอคอยการมีบุตรมาเป็นเวลานานแสนนาน และพวกเขาเคยคิดว่านั่นคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ซะแล้ว ยกตัวอย่างเช่น นางซารายผู้ให้กำเนิดอิสอัค เอลีซาเบธผู้ให้กำเนิดยอห์นผู้ให้รับบัพติศมา

แซมสันมีความคล้ายคลึงกับยอห์นผู้ให้รับบัพติศมาในหลายด้าน:

  1. ในทั้งสองกรณี เป็นเรื่องที่ทำให้เราคิดว่าฝ่ายผู้เป็นแม่นั้นไม่สามารถที่จะมีลูกได้ และเป็นอะไรที่ต้องพึงการอัศจรรรย์เท่านั้น (ผู้วินิจฉัย 13:3, ลูกา 1:7)

  2. ในทั้งสองกรณี ทูตสวรรค์ของพระเจ้าทรงพูดกับบรรดาพ่อและแม่อย่างชัดเจน (ผู้วินิจฉัย 13:7, ลูกา 1:13)

  3. เด็กทั้งสองคนถูกแยกออกเพื่อถวายแด่พระเจ้า ตั้งแต่พวกเขาเกิด (ผู้วินิจฉัย 13:7, ลูกา 1:14–17)

  4. พวกเขาทั้งคู่ต่างไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ยุ่งเกี่ยวกับสุราเลย (ผู้วินิจฉัย 13:7, ลูกา 1:15)

  5. พระวิญญาณของพระเจ้าทรงเสด็จมาอยู่เหนือทั้งคู่ตั้งแต่วันแรกในชีวิตของพวกเขา (ผู้วินิจฉัย 13:25, ลูกา 1:15)

และอีกครั้งที่เราได้เห็นคำบอกใบ้เกี่ยวกับเรื่องตรีเอกานุภาพในพระคำตอนนี้ เราได้ใคร่ครวญถึง ‘พระยาห์เวห์’ (ผู้วินิจฉัย 13:1) แต่ก็เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมอีกเช่นกันเมื่อเราได้ยินว่า ‘ทูตของพระยาห์เวห์’ ทรงปรากฏต่อหน้าทั้งพ่อและแม่ของแซมสัน (ข้อ 3,6) และหลังจากนั้นก็ขึ้นสู่สวรรค์ไปในเปลวไฟ (ข้อ 19)

จากที่ได้เห็นว่า มาโนอาห์และภรรยาของเขาก็ต่างซบหน้าลงถึงดินมาโนอาห์นั้นตระหนักดีว่านั่นคือทูตของพระยาห์เวห์: ‘มาโนอาห์พูดกับภรรยาของตนว่า “เราคงจะตายแน่ๆ เพราะเราได้เห็นพระเจ้า!”’ (ข้อ19-22) (ขอบคุณพระเจ้าที่เขาได้ ‘ภรรยาที่ควบคุมสติได้ดี!’, ข้อ 23, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Amplified Bible โดยผู้แปล)

หรือ ‘ทูตของพระยาห์เวห์’ จะหมายถึงบุคคลที่สองในตรีเอกานุภาพ? พระเยซูทรงใช้คำว่า บุตรมนุษย์ทรงเสด็จขึ้นไป (ยอห์6:62) ก่อนหน้านี้เราก็ได้อ่านพบคำว่า ‘พวกทูตสวรรค์ของพระเจ้าขึ้นลงอยู่เหนือบุตรมนุษย์’ (ยอห์น1:51)

เป็นที่แน่ชัดว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์ ผู้เป็นบุคคลที่สามของตรีเอกานุภาพ ทรงทำงานอยู่ในช่วงการกำเนิดของแซมสัน ‘หญิงนั้นก็คลอดบุตรชายและเรียกชื่อเขาว่าแซมสัน เด็กนั้นก็เติบโตขึ้น และพระยาห์เวห์ทรงอวยพรเขา และพระวิญญาณของพระยาห์เวห์ก็ทรงเริ่มเร้าใจเขา...’ (ผู้วินิจฉัย 13:24-25) พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทานพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด กำลังอันเข้มแข็งที่ไร้ขีดจำกัดแก่แซมสัน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณสำหรับกำลังอันพิเศษนี้ที่พระองค์ทรงประทานให้กับแซมสัน ขอทรงโปรดเติมเต็มข้าพระองค์ในวันนี้ ด้วยพระวิญญาณของพระองค์ ขอประทานความเข้มแข็งฝ่ายวิญญาณและฤทธิ์เดชที่จะต่อสู้กับศัตรู และกำลังในการดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์

Pippa Adds

ผู้วินิจฉัย 12:8–9ก

‘อิบซานแห่งเบธเลเฮมได้วินิจฉัยอิสราเอลต่อจากเยฟธาห์ ท่านมีบุตรชาย 30 คน และบุตรหญิง 30 คน’

ว้าว! เขาต้องยุ่งมากแน่ ๆ

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

Опис за овој план

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More