พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลMuestra

ห้าวิธีที่พระเจ้าทรงนำคุณ
พระเจ้าทรงออกแบบคุณโดยมีพระประสงค์ในใจ พระเจ้าทรงรักคุณ พระองค์ทรงกำหนดทางแห่งชีวิตที่เฉพาะเจาะจง ไม่เหมือนใคร และรุ่งโรจน์สำหรับคุณ พระองค์ทรงสัญญาว่าจะทรงนำคุณ พระประสงค์ของพระเจ้าที่มีสำหรับคุณนั้นยิ่งใหญ่กว่าความผิดพลาดของคุณ ผมทำสิ่งผิดพลาดมากมายในชีวิต แต่พระเจ้าทรงไม่หยุดที่จะนำผม เมื่อเราเดินทางโดยรถยนต์เราใช้จีพีเอส เมื่อเราเลี้ยวไปผิดทาง มันจะหาเส้นทางใหม่ให้เรา แต่มันไม่เคยยอมแพ้จนกว่าเราจะไปถึงจุดหมายปลายทาง คุณสามารถที่จะไม่สนใจหรือปิดมันก็ได้ แต่ถ้าคุณทำตาม จะทำให้การเดินทางของคุณสนุกสนานและมีสันติสุขมากยิ่งขึ้น ในที่สุดมันจะบอกว่า ‘คุณได้มาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว’ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การเปรียบเทียบที่สมบูรณ์แบบ พระเจ้าไม่ใช่เครื่องจักรแต่เป็นบุคคลผู้ซึ่งอยู่กับเราตลอดการเดินทาง พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะสื่อสารกับคุณและทรงสัญญาว่าจะทรงนำคุณ มี 5 วิธีหลักที่พระเจ้าทรงนำเรา CS ทั้งห้า (The five CSs): * ผ่านคำสั่งในพระคัมภีร์ (**C**ommanding **S**cripture) * ผ่านการทรงนำของพระวิญญาณ (**C**ompelling **S**pirit) * ผ่านคำปรึกษาของธรรมิกชน (**C**ounsel of the **S**aints) * ผ่านสามัญสำนึก (**C**ommon **S**ense) * ผ่านหมายสำคัญ (**C**ircumstantial **S**igns) ข้อพระคัมภีร์สำหรับวันนี้ในแต่ละข้อ อย่างแรกเราจะได้เห็นสิ่งต่าง ๆ ทั่วไปเกี่ยวกับวิธีที่พระเจ้าทรงนำเรา และจากนั้นเราจะได้เห็นตัวอย่างเฉพาะสำหรับแต่ละอันเหล่านี้ของ ‘CS ทั้งห้า’สดุดี 48:9-14
พระสัญญาแห่งการทรงนำ
พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะทรงนำทางเราไปตลอดชีวิตของเรา: ‘พระองค์จะทรงนำเราจนถึงที่สุด’ (ข้อ 14) แต่คุณจะได้รับการทรงนำนี้ได้อย่างไร?
เคล็ดลับก็คือการมีสัมพันธภาพอันใกล้ชิดกับพระเจ้า สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการใช้เวลาเฉพาะพระพักตร์พระองค์ในการใคร่ครวญถึง ‘ความรักมั่นคงของพระองค์’ (ข้อ 9)
- คำปรึกษาของธรรมิกชน การให้คำแนะนำไม่ใช่กิจกรรมของแต่ละบุคคล เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เขียนพระธรรมสดุดีได้กล่าวว่า ‘ข้าพระองค์ทั้งหลายไตร่ตรองถึงความรักมั่นคงของพระองค์ เมื่ออยู่กลางพระวิหารของพระองค์’ (ข้อ 9) พระวิหารคือสถานที่ที่ประชาชนของพระเจ้ามารวมกันเพื่อนมัสการพระเจ้า เราได้รับคำแนะนำในบริบทของชุมนุมชนด้วยตัวของเราเอง บางครั้งเราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ผิดพลาดได้ (สุภาษิต 12:15) พระเจ้าสามารถตรัสกับคนอื่น ๆ และตรัสกับเราด้วย และเป็นเรื่องชาญฉลาดที่จะแสวงหาการทรงนำในการตัดสินใจครั้งสำคัญเสมอ
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระสัญญาของพระองค์ว่าจะทรงนำข้าพระองค์ และที่พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ในบริบทของชุมนุมชนของประชาชนของพระองค์
ลูกา 19:45-20:26
แบบอย่างของการทรงนำ
เช่นเดียวกันกับด้านอื่น ๆ ของชีวิต พระเยซูทรงเป็นแบบอย่างของเราว่าจะได้รับการทรงนำจากพระเจ้าอย่างไร
การดำเนินชีวิตภายใต้การทรงนำของพระเจ้าไม่ได้นำไปสู่ชีวิตที่ไร้ซึ่งปัญหา พระเยซูถูกโจมตีจาก ‘ธรรมาจารย์’ ตลอดเวลาในช่วงยุคสมัยของพระองค์ พระองค์ทรงไม่หลีกหนีจากการโต้เถียงและเผชิญหน้า
อันที่จริงในอุปมาเรื่องคนเช่า พระเยซูทรงแสดงให้เห็นว่าผู้รับใช้ของพระเจ้าสามารถจะพบกับปัญหาได้ คนรับใช้ถูกเฆี่ยนตี ถูกไล่กลับไปมือเปล่า ถูกทำให้อัปยศ ถูกทำให้บาดเจ็บ และถูกขับไล่ (20:9-12) เมื่อเขาส่งบุตรชายไป พวกเขาก็ ‘ฆ่าเขาเสีย’ (ข้อ 15)
การทรงนำของพระเจ้านำพระเยซูไปสู่ไม้กางเขน อย่างไรก็ตามก็ทรงนำไปสู่การฟื้นคืนพระชนม์ด้วย เบื้องหลังสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นล้วนเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าและชัยชนะของพระองค์ สิ่งที่พระเยซูทรงกระทำดูเหมือนเป็นลักษณะของความล้มเหลว แต่พระเยซูทรงประสบความสำเร็จในชีวิต ในการสิ้นพระชนม์ และในการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์มากกว่าบุคคลอื่นใดในประวัติศาสตร์
แน่นอนว่ามีการกล่าวถึงหลายครั้งในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่เกี่ยวกับวิธีที่พระเจ้าทรงนำพระเยซู ในข้อพระคัมภีร์สำหรับวันนี้เราจะได้เห็น:
- คำสั่งในพระคัมภีร์ จงระมัดระวังอย่างมากที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ใด ๆ ที่ทำให้งานรับใช้ถูกใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
พระเยซูทรงเห็นประชาชนที่พยายามหารายได้จากกิจกรรมทางจิตวิญญาณ พระองค์ทรงเผชิญหน้ากับกิจกรรมเหล่านั้นด้วยพระวจนะของพระเจ้าพระองค์ตรัสว่า ‘มีพระวจนะเขียนไว้ว่า นิเวศของเราเป็นนิเวศอธิษฐาน แต่พวกท่านเปลี่ยนให้เป็นตลาดทางความเชื่อ’ (19:46, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ความเข้าใจของพระเยซูที่มีต่อพระประสงค์ของพระเจ้ามาจากการศึกษาพระวจนะอย่างละเอียดรอบคอบ นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่พระเจ้าทรงนำเราทุกคน
- การทรงนำของพระวิญญาณ เมื่อพระเยซูถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับสิทธิอำนาจของพระองค์ พระองค์ทรงท้าทาย ‘ธรรมาจารย์’ ด้วยคำถามเกี่ยวกับสิทธิอำนาจของยอห์น พระเยซูทรงบอกว่ายอห์นได้รับสิทธิอำนาจมา ‘จากสวรรค์’ ซึ่งก็คือจากพระเจ้า ดังนั้นความหมายที่ชัดเจนก็คือสิทธิอำนาจของพระเยซูเองก็มา ‘จากสวรรค์’ เช่นกัน มาจากสัมพันธภาพอันใกล้ชิดกับพระเจ้า
แม้แต่ฝ่ายตรงกันข้ามของพระองค์ก็ยอมรับ ‘ความจริง’ (20:21) ในคำสอนของพระเยซู พระเยซูทรงไม่ประสงค์ที่จะประจบสอพลอหรือแสดงความลำเอียง พระองค์ได้รับการทรงนำจากสิ่งที่พระองค์รู้ว่าเป็นความจริง พระองค์ตรัสความจริงอย่างไม่เกรงกลัว
พระเยซูทรงท้าทายสมมติฐานที่อยู่เบื้องหลังคำถามของพวกเขา อำนาจใดบนโลกนี้ที่เราควรให้ความภักดีเป็นอันดับแรก? พระองค์ทรงอธิบายว่า ประเด็นสำคัญก็คือเราได้ให้ความภักดีกับพระเจ้าเป็นอันดับแรกต่อสิ่งที่เราเป็นหนี้พระองค์หรือไม่ เราได้นับตัวเราเองว่าเป็นประชากรของอาณาจักรของพระองค์ก่อนคนอื่น ๆ บนโลกนี้หรือไม่ ของของซีซาร์จงถวายแก่ซีซาร์ และของของพระเจ้าจงถวายแด่พระเจ้า (ข้อ 25) พวกเขาก็ประหลาดใจในคำตอบของพระเยซูและเงียบไป (ข้อ 26)
ในพระธรรมลูกาได้บอกกับเราว่าพระเยซูได้รับการ ‘ทรงนำโดยพระวิญญาณ’ (ลูกา 4:1) สันนิษฐานได้ว่าเป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงให้คำตอบกับพระเยซู ในขณะที่พระเยซูทรงเดินในความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระเจ้า ทรงศึกษาพระวจนะและทรงสอนความจริง พระวิญญาณบริสุทธิ์ (‘พระวิญญาณแห่งความจริง’, ยอห์น 15:26) ทรงกระตุ้นเตือนพระองค์ด้วยถ้อยคำพิเศษแห่งปัญญา
ข้าแต่พระบิดาเจ้า ขอโปรดทรงช่วยข้าพระองค์ให้ปฏิบัติตามแบบอย่างของพระเยซู เพื่อที่จะอยู่ใกล้ชิดพระองค์ และได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ขณะที่ข้าพระองค์อ่านพระคัมภีร์ และแสวงหาที่จะได้รับการทรงนำโดยพระวิญญาณ
เฉลยธรรมบัญญัติ 31:30-32:52
ตัวอย่างของการทรงนำ
เมื่อกว่าหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา เรือลำหนึ่งได้ถูกพายุซัดเข้ากับโขดหินในคอร์นวอลล์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ กะลาสีเรือวัย 15 ปี คนหนึ่งว่ายน้ำไปยังก้อนหินนอกชายฝั่งอย่างปลอดภัย เขาปีนขึ้นไปและรอคอยอยู่ทั้งคืนจนกระทั่งเขาได้รับการช่วยเหลือในเช้าวันต่อมา นักข่าวได้สัมภาษณ์เขาและแสดงความคิดเห็นว่า ‘คุณต้องตัวสั่นตลอดทั้งคืนที่คุณเกาะอยู่ที่หินนั้นแน่นอน’ กะลาสีหนุ่มตอบว่า 'ใช่ ผมตัวสั่นตลอดทั้งคืนด้วยความกลัวและความหนาว’ จากนั้นเขาพูดเสริมขึ้นอีกว่า ‘แต่หินนั้นไม่เคยสั่นไหวเลยสักครั้ง’
เมื่อโมเสสได้มาถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต เขาสะท้อนถึงวิธีที่พระเจ้าทรงนำประชาชนของพระองค์ผ่านทางชีวิตของเขา และทรงเป็นพระศิลาของพวกเขา (32:14ก, 15, 18, 30, 37) พระองค์ทรงเป็นพระศิลาของคุณ พระองค์ทรงแข็งแกร่ง มั่นคง พึ่งพาได้ คงเดิมเสมอ และเชื่อถือได้โดยสมบูรณ์ พระองค์ไม่ทรง ‘ขึ้น’ และ ‘ลง’ เหมือนอย่างเรา คุณสามารถไว้วางใจในความซื่อสัตย์มั่นคงของพระองค์ได้ พระองค์จะทรงอยู่ด้วยกับคุณเสมอ
พระเจ้าไม่ได้ทรงเป็นเพียง ‘พระศิลา’ แต่พระองค์ทรงเป็น ‘พระบิดา’ ของคุณด้วย (ข้อ 6ข)
โมเสสได้อธิบายว่าพระเจ้าทรงนำประชาชนของพระองค์ (อิสราเอล) ด้วยความรักของบิดาอย่างไร ‘พระองค์ทรงพบเขาในแผ่นดินถิ่นทุรกันดาร ในที่ร้างเปล่าวังเวง พระองค์ทรงโอบล้อมเขา และทรงดูแลเขา ทรงรักษาเขาไว้ดังแก้วพระเนตรของพระองค์ เหมือนนกอินทรีที่กวนรังของมันกระพือปีกเหนือลูกนก กางปีกออกรองรับลูกไว้ให้เกาะอยู่บนปีก พระยาห์เวห์องค์เดียวทรงนำเขา’ (ข้อ 10-12ก)
- หมายสำคัญ เขาอธิบายต่อไปว่าในหมายสำคัญของพระเจ้า พระองค์ทรงดูแลประชาชนของพระองค์อย่างไร พระองค์ทรง ‘เลี้ยงดูเขา... บำรุงเขาด้วยน้ำผึ้ง... น้ำมัน... นมข้นและน้ำนม... ลูกแกะและแพะ... ข้าวสาลีอย่างดีที่สุด... เลือดขององุ่น’ (ข้อ 13-14) สิ่งเหล่านี้เป็นหมายสำคัญของการที่พระองค์ทรงอยู่กับพวกเขาตลอดทาง
อย่างไรก็ตาม ประชาชนของพระเจ้าซึ่งในที่นี้คือ ‘เยชูรูน’ (หมายถึง ‘ผู้เที่ยงธรรม’ นั่นคืออิสราเอล) ‘ทอดทิ้งพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขามา (เยชูรูน) และดูหมิ่นพระศิลาแห่งความรอดของเขา’ (ข้อ 15ค) เป็นการดูหมิ่นที่ทำให้พระเจ้าตรัสว่า ‘เราจะซ่อนหน้าของเราจากพวกเขา’ (ข้อ 20)
บางครั้งความบาปก็เป็นสิ่งกีดขวางเราจากการได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า ความบาปสามารถนำไปสู่หายนะ (ข้อ 23-27) บัดนี้เรามีวิธีทำให้ถูกต้องในการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู ‘พระโลหิตของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์ ก็ชำระเราให้ปราศจากบาปทั้งสิ้น... ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น’ (1 ยอห์น 1:7, 9)
- สามัญสำนึก เมื่อเราล้มลงซึ่งเราทุกคนเป็นเช่นนั้น สิ่งที่ดูสมเหตุสมผลที่สุดก็คือการลุกขึ้นโดยเร็ว โดยทั่วไปส่วนหนึ่งของการทรงนำก็คือการทำสิ่งที่สมเหตุสมผล นี่คือการบ่นของโมเสส ‘เพราะเขาทั้งหลายเป็นประชาชาติที่ขาดคำปรึกษา ในพวกเขาไม่มีความเข้าใจ โอ ถ้าเขาฉลาดแล้วเขาจะเข้าใจเรื่องนี้ และพิจารณาถึงวาระสุดท้ายของตน’ (เฉลยธรรมบัญญัติ 32:28-29) พระเจ้าทรงสร้างเราให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความคิด พระองค์ทรงนำจิตใจของคุณเมื่อคุณเดินในความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระองค์ จงหลีกเลี่ยงการเป็นผู้มีจิตวิญญาณสูงส่งที่คาดหวังว่าเสียงจากภายในให้นำทุกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตของคุณ
ในตอนท้ายของบทเพลง โมเสสกลับมากล่าวถึงถ้อยคำของพระเจ้า ‘จงใส่ใจในถ้อยคำซึ่งข้าพเจ้าเป็นพยานแก่ท่านในวันนี้ และบัญชาลูกหลานของท่านให้เขาระวังที่จะทำตามถ้อยคำทั้งหมดของธรรมบัญญัติ แน่นอน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยสำหรับพวกท่าน แต่เป็นเรื่องชีวิตของท่านทั้งหลาย’ (ข้อ 46-47, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์สำหรับวิธีที่พระองค์ทรงนำข้าพระองค์ผ่านวิธีต่าง ๆ เหล่านี้ในช่วงเวลาต่าง ๆ ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ทรงเมตตาข้าพระองค์ ขอโปรดทรงช่วยข้าพระองค์ให้ใส่ใจในทุกถ้อยคำที่พระองค์ตรัสและระมัดระวังที่จะเชื่อฟังถ้อยคำเหล่านั้น ขอโปรดทรงช่วยข้าพระองค์ให้ได้ไปถึงจุดหมายปลายทางของข้าพระองค์
Pippa Adds
ลูกา 20:20-26
บางครั้งฉันได้รับข้อเสนอในการลดราคา ถ้าฉันจ่ายเป็นเงินสดเมื่อซื้อของบางอย่างหรือนำบางอย่างไปซ่อม อาจจะมีเหตุผลที่ถูกต้องสำหรับเรื่องนี้ แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาไม่ต้องการเปิดเผยจำนวนเงินเพื่อเสียภาษี ถ้าพระเยซูตรัสว่าเราควรจะจ่ายภาษีของเรา ดังนั้นเราก็ควรจ่าย ถึงแม้เราอาจจะรู้สึกเจ็บปวดก็ตาม
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)Acerca de este Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Planes relacionados

La Adoración Como Un Estilo De Vida

El Arte Perdido Del Servicio

Esperanza Que No Desespera

Vivir Una Vida Que Importe

Un Matrimonio Que Da Fruto

¡Hola Rival! Un Plan De Juego Bíblico Para Deportistas Cristianos.

“Cuando EL ALMA DESPIERTA”

Seis Pasos Para Una Vida De Oración Más Comprometida

Agotamiento Pastoral
