Logo YouVersion
Ikona vyhledávání

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลUkázka

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

ถวายพระเกียรติในความพ่ายแพ้

ผมจะไม่ลืมบทสนทนากับคุณพ่อรานีโร แคนตาลาเมซซ่า นักบวชคณะฟรานซิสกัน และนักเทศน์ประจำครัวเรือนองค์สมเด็จพระสันตะปาปา ท่านกำลังจะเข้าร่วมการอภิปรายสาธารณะกับหนึ่งใน ‘ผู้ต่อต้านพระเจ้ายุคใหม่’ ในอิตาลี ผมถามท่านว่า ท่านคิดว่า ท่านจะชนะการอภิปรายไหม ท่านตอบว่าท่านก็ไม่ทราบ ท่านอาจจะแพ้ ‘แต่’ ท่านเสริมว่า ‘*องค์พระผู้เป็นเจ้าสามารถได้รับพระเกียรติในความพ่ายแพ้นั้น*’ พระเยซูทรงคว่ำโลก พระองค์ทรงกลับด้านค่านิยมของโลกนี้ที่สำคัญที่สุดอยู่บนไม้กางเขน พระเยซูทรงคว่ำโลกนี้แล้ว และในการกระทำที่อัปยศอดสูและความพ่ายแพ้ที่*เห็นได้ชัด* พระองค์ได้ทรงนำชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จักมา กล่าวกันว่า สาวกของพระองค์เป็นพวก ‘คว่ำโลก’ (กิจการอัครทูต 17:6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก New Revised Standard Version โดยผู้แปล) ในแต่ละตอนของพระธรรมในวันนี้ เราจะได้เห็นว่าควรทำอย่างไร และองค์พระผู้เป็นเจ้าสามารถได้รับเกียรติอย่างไรในความพ่ายแพ้

สดุดี 118:17-29

พระเจ้าทรงสามารถนำความสำเร็จออกจากความล้มเหลวที่เห็นได้ชัด

เมื่อผมมองย้อนไปในชีวิตตัวเอง พระเจ้าดูเหมือนได้ทรงใช้ความยากลำบาก และความพ่ายแพ้มากกว่าความสำเร็จที่มองเห็นได้ชัด

ชัดเจนว่าผู้เขียนสดุดีได้ผ่านช่วงเวลายากลำบาก เขาเขียนว่า ‘พระเจ้าทรงทดสอบข้าพเจ้า พระองค์ทรงกดดันข้าพเจ้าอย่างหนัก’ (ข้อ 18ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) กระนั้นเขาก็ยังเต็มไปด้วยการขอบพระคุณ สรรเสริญ และเปรมปรีดิ์: ‘ข้าพเจ้า​จะ​… ขอบพระคุณ พระเจ้า’ (ข้อ 19) ‘วันนี้เป็นวันที่พระเจ้า ได้ทรงสร้างให้เราเปรมปรีดิ์และยินดี ในวันนั้น’ (ข้อ 24)

ผู้เขียนเต็มไปด้วยการขอบพระคุณเพราะว่าเขาได้เห็นว่าพระเจ้าทรงสามารถนำความสำเร็จออกมาจากความพ่ายแพ้ได้อย่างชัดเจน เขาเขียนว่า ‘ศิลาซึ่งช่างก่อได้ทิ้งเสีย ได้กลายมาเป็นศิลามุมเอกแล้ว’ (ข้อ 22, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

พระเยซูทรงเป็นตัวอย่างที่เยี่ยมยอดที่สุดของการที่พระเจ้าทรงนำเอาความสำเร็จออกมาจากความพ่ายแพ้อย่างเห็นได้ชัด พระองค์ทรงเป็นศิลาที่ช่างก่อทอดทิ้ง ซึ่งบัดนี้กลายเป็นศิลามุมเอกแห่งคริสตจักร พระเยซูทรงยกข้อพระคำนี้ในสดุดี 118 เพื่ออ้างถึงพระองค์เอง (มาระโก 12:10) เปโตรก็ยกมาประยุกต์ใช้ด้วยเช่นกัน (1 เปโตร 2) ชี้ให้เห็นว่า พระเยซูนั้นทรงเป็น ‘พระ​ศิลา​ที่​มีชีวิต ที่แม้ถูกมนุษย์​ปฏิเสธ​แล้ว แต่กลับ​​เป็น​ศิลา​ที่​ทรง​เลือก​สรร’ (ข้อ 4) บัดนี้พระเยซูทรงเป็นศิลามุมเอกซึ่งทั้งคริสตจักรได้พึ่งพิง

จงตอบสนองเหมือนกับผู้เขียนสดุดี: ‘จงขอบพระคุณพระเจ้าเพราะพระองค์ประเสริฐ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์’ (สดุดี 118:29)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณอย่างยิ่งสำหรับวิธีซึ่งพระองค์ทรงนำเอาความสำเร็จออกจากความพ่ายแพ้ที่เห็นได้ชัดเจน ‘พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ และข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะยกย่องพระองค์’ (ข้อ 28)

โคโลสี 4:2-18

พระเจ้าสามารถใช้คุณแม้เป็นสถานการณ์ของคุณเอง

บ่อยครั้ง ที่เราวอกแวกไปด้วยคำว่า ‘ถ้าเพียง’ หลายครั้ง ถ้าเพียงเราได้แต่งงาน ถ้าเพียงเราไม่แต่งงานผิดคน ถ้าเพียงเราได้งานที่เหมาะสม ถ้าเพียงเราไม่จำเป็นต้องไปทำงานนั้น ถ้าเพียงเรามีลูก ถ้าเพียงเราไม่ได้มีลูกมากขนาดนี้ ถ้าเพียงเราได้อยู่ในที่ที่เหมาะสม… แต่พระเจ้าทรงใช้เปาโลแม้อยู่ในสถานการณ์ของท่าน และทรงใช้แม้กระทั่งอยู่ในสถานการณ์เหล่านั้น!

เปาโลเขียนว่า ‘จงใช้ทุกโอกาสให้เกิดประโยชน์สูงสุด’ (ข้อ 5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เราทุกคนไม่สามารถ ‘ประสบความสำเร็จ’ ได้ แต่เราทุกคนสามารถทำดีที่สุดในทุกสถานการณ์ที่เราพบว่าตัวเองเผชิญอยู่ได้ เปาโลเขียนว่า พวกเขากำลังจะบอก​อารคิปปัสว่า ‘ทำให้ดีที่สุดในงาน​ซึ่ง​ท่าน​ได้รับ​จากองค์พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​นั้น จง​ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้’ (ข้อ 17, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เปาโลนั้นได้รับของประทานพิเศษ ท่านมีข้อความสำคัญยิ่งที่จะประกาศแก่ชาวโลก ท่านอาจคาดหวังว่าพระเจ้าจะวางท่านไว้ในตำแหน่งแห่งสิทธิอำนาจและทรงอำนาจ เพื่อท่านจะใช้ของประทานของท่านอย่างดีที่สุดในการประกาศข่าวประเสริฐ

อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงอนุญาตให้ท่านจบลงที่ในเรือนจำ ท่านทิ้งท้ายในจดหมายว่า ‘ขอ​ท่าน​จง​ระลึก​ว่าข้าพเจ้ายังอยู่ใน เรือนจำ และอยู่ใน โซ่​ตรวน​’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) กระนั้น พระเจ้าทรงได้รับเกียรติในความพ่ายแพ้ที่เห็นได้ชัดของท่าน พระเจ้าทรงพลิกสถานการณ์ของเปาโลให้กลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ เกือบ 2,000 ปีให้หลัง คุณยังคงอ่านถ้อยคำที่เปาโลเขียนในขณะที่ท่านอยู่ในเรือนจำ พระเจ้าทรงใช้ถ้อยคำของท่านเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกนี้ได้

ถ้อยคำของคุณนั้นทรงพลัง เปาโลเขียนว่า ‘จง​ให้​วาจา​ของ​ท่าน​ประกอบด้วย​เมตตา​คุณ​เสมอ (รื่นรมย์และมีเสน่ห์) [เสมือนว่า] ปรุง​ด้วย​เกลือ​ให้​มี​รส [เพื่อท่านจะได้ไม่สูญเสีย] เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​รู้จัก​ตอบ​ให้​จุ​ใจ​แก่​ทุก​คน [ผู้ตั้งคำถามกับท่าน]’ (ข้อ 6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นเจ้าภาพในอัลฟ่า ให้อธิษฐานขอสติปัญญาเพื่อจะทราบว่าเมื่อไหร่ควรจะพูด พูดอะไร และพูดออกไปอย่างไร

พระเจ้ายังทรงใช้คำอธิษฐานของเปาโลเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก นี่เป็นความท้าทายอีกอย่างต่อสิทธิอำนาจของเรา ท่านเขียนว่า ‘จงขะมักเขม้นอธิษฐาน’ (ข้อ 2) โลกพิจารณาว่าการอธิษฐานเป็นเรื่องเสียเวลาไปเปล่า ๆ แต่เปาโลมองว่าการอธิษฐานเป็นความสำคัญสูงสุดในชีวิตของเรา ท่านยกย่องเอปาฟรัส เพราะว่าเขา ‘เพียรพยายามอธิษฐานเผื่อท่านอยู่เสมอ เพื่อว่าพวก​ท่านจะมั่นคง เป็น​ผู้ใหญ่ และ​มีความมั่นใจในพระประสงค์ของพระเจ้าทั้งหมด’ (ข้อ 12)

ท่านอยากให้ผู้อ่านของท่านอธิษฐาน ว่า ‘อธิษฐานเผื่อเราเพื่อว่าพระเจ้าจะทรงเปิดประตูให้เราสำหรับพระวจนะนั้น คือให้กล่าวความล้ำลึกของพระคริสต์ (ข้าพเจ้าถูกล่ามโซ่ก็เพราะเหตุนี้) เพื่อว่าข้าพเจ้าจะได้ชี้แจงเรื่องนี้ตามที่ข้าพเจ้าควรจะกล่าวนั้น’ (ข้อ 3–4)

นี่เป็นอีกความท้าทายหนึ่งต่อลำดับความสำคัญของเรา เปาโลไม่ได้อยากให้พวกเขาอธิษฐานเผื่อคนกลุ่มใหญ่ที่จะมาและฟังเขา เขากลับอธิษฐานว่า ขอให้ตนเองประกาศข่าวประเสริฐได้อย่างชัดเจน

เปาโลไม่ได้อยากให้พวกเขาอธิษฐานเพื่อเปิดประตูเรือนจำให้ แต่เปิดประตูแก่ข่าวประเสริฐที่จะถูกประกาศออกไป แทนที่จะมองไปในอนาคตว่า คุณอาจอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่านี้เพื่อรับใช้พระเจ้า จงจดจ่อว่าคุณจะรับใช้พระเจ้าได้อย่างไรในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้จัดลำดับความสำคัญให้ถูกต้อง เพื่อขะมักเขม้นอธิษฐาน และประกาศข่าวประเสริฐไม่ว่าสถานการณ์ของข้าพระองค์จะเป็นอย่างไรก็ตาม ขอทรงประทานสติปัญญาแก่ข้าพระองค์ในวันนี้ ให้ทราบว่าเมื่อไหร่ควรจะพูด พูดอะไร และพูดออกไปอย่างไร

เยเรมีย์ 16:1-17:27

พระเจ้าทรงสามารถทำ ‘ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด’ ให้เป็น ‘ช่วงเวลาที่ดีที่สุด’

‘เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด’ นี่เป็นถ้อยคำเปิดตัวของ นิยายแห่งสองนคร - A Tale of Two Cities (1859) ของชาร์ลส ดิคเก้นส์ ซึ่งเกิดขึ้นในกรุงลอนดอน และกรุงปารีส ก่อนและระหว่างการปฎิ-วัติในฝรั่งเศส

อีกครั้งเราได้เห็นว่าพระเจ้าทรงสามารถได้รับเกียรติผ่านทางความพ่ายแพ้ที่เห็นได้ชัด ‘ปีที่แห้งแล้ง’ สามารถกลายเป็น ‘ปีที่เกิดผล’ (17:8) ช่วงเวลาเลวร้ายสามารถเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับคริสตจักร ข่าวดีสามารถฉายแสงได้กระจ่างจ้ายิ่งกว่าเดิมเมื่อสังคมมืดมนลงกว่าเดิม

ดังเช่นที่พระเจ้าทรงใช้เหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โลก การตรึงพระบุตรของพระเจ้า และทรงใช้เพื่อความรอดของโลก พระเจ้าทรงสามารถใช้โรคระบาดร้ายแรงเหมือนกับ โควิด – 19 และใช้สิ่งนี้เพื่อการดี แม้ว่าประตูของคริสตจักรอาจต้องถูกปิดลง แต่คริสตจักรยังคงเปิดอยู่ และได้เบ่งบานเติบโตในทั้งการเข้าร่วมแบบออนไลน์และการได้อยู่ในชุมชน รวมถึงการเหยียดออกไปหาผู้ที่ขัดสน นี่เป็นเวลาสำหรับเราที่จะขยายอาณาจักรและก้าวออกไป ไม่ใช่การถอยทัพ ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดสามารถกลายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดได้

บางสิ่งเช่นนี้อยู่ในพระธรรมตอนนี้ เยเรมีย์ยังคงเตือนต่อไปเรื่องการพิพากษาที่จะมาถึง เพราะว่าประชาชนได้ติดตาม​เจตนา​ชั่ว​ร้าย​ดื้อ​ดึง​ของ​ตนเอง ปฏิเสธไม่ยอมฟังพระเจ้า (16:12) ท่านเตือนเราต่ออันตรายของการล่อลวงตนเอง: ‘จิตใจ​ก็​เป็น​ตัว​ล่อลวง​เหนือกว่า​สิ่ง​ใด​ทั้งหมด’ (17:9)

เราสามารถล่อลวงตนเองได้อย่างง่ายดาย หากเราอยากได้อะไรบางอย่าง ความคิดของเราสามารถนำเสนอเหตุผลร้อยแปดว่าทำไมเราควรต้องมีมัน เราสามารถทำให้ตัวเองชอบธรรมได้อย่างง่ายดายแม้เมื่อเราทำผิดอยู่ก็ตาม

นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ท่านจำเป็นต้องติดสนิทอยู่กับพระเจ้า (ข้อ 7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) สำรวจตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วยพระวจนะของพระเจ้า และสติปัญญาแห่งชุมชนคริสเตียน หรือคุณอาจวางใจในสิ่งอื่น ๆ และจบลงด้วยการอยู่ผิดที่ พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ‘คน​ที่​วางใจ​ใน​มนุษย์ และ​ให้​เนื้อ​หนัง​เป็น​กำลังของเขา และ​ใจของเขาหัน​ออก​จากพระเจ้า คน​นั้น​ก็​เป็น​ที่​แช่ง​สาป’ (ข้อ 5)

ในทางกลับกัน ท่านกล่าวว่า ‘คน​ที่​ วางใจ​ในพระเจ้าย่อม​ได้รับ​พระ​พร คือ​ผู้​ที่​ความ​วางใจ​ของ​เขา​อยู่​ในพระเจ้า เขา​เป็น​เหมือน​ต้นไม้​ที่​ปลูก​ไว้​ริมน้ำ ซึ่ง​หยั่ง​ราก​ของ​มัน​ออกไป​ข้าง​ลำ​น้ำ เมื่อ แดด​ส่อง​มาถึง​ก็​ไม่​กลัว เพราะ​ใบ​ของ​มัน​คง​เขียว​อยู่​เสมอ และ​ไม่​ กระวน​กระวาย ​ใน​ปี​ที่​แห้ง​แล้ง เพราะ​มัน​ไม่​หยุด​ที่​จะ​เกิด​ผล’ (ข้อ 7–8)

อีกครั้ง ที่พระเจ้าทรงกลับด้านสิ่งต่าง ๆ ‘เมื่อแดดส่องมาถึง’ เราคงคาดว่าใบไม้จะแห้งเหี่ยว และกลายเป็นสีน้ำตาล กระนั้นเนื่องจากต้นไม้ปลูกไว้ข้างลำน้ำ มันจึงส่งรากไปถึงธารน้ำ และทำให้ใบเขียวสดอยู่เสมอ ผู้เขียนสดุดีเชื่อมโยงสิ่งนี้เข้ากับผู้ที่วางใจในพระเจ้า ผู้ซึ่งเชื่อมั่นในพระองค์ คนที่ไม่เคยกลัว หรือกระวนกระวายเมื่อแดดส่องมาถึง

มีหลายช่วงเวลาในชีวิตคุณที่เมื่อ ‘ความร้อน (แดด)’ แรงกล้าขึ้น คุณถูกทดสอบโดยสถานการณ์ยากลำบากและความท้าทาย หากคุณอยู่ใกล้ชิดกับพระเจ้า วางใจในพระองค์ พระเจ้าทรงสามารถกลับด้านสิ่งต่าง ๆ ได้ ‘คนที่วางใจในพระเจ้าย่อมได้รับพระพร คือผู้ที่ความวางใจของเขาอยู่ในพระเจ้า’ (ข้อ 7)

ข้าแต่พระเยซูคริสต์เจ้า พระองค์ทรงนำเอาความสำเร็จออกมาจากความพ่ายแพ้ที่เห็นได้ชัด ขอบพระคุณที่ข้าพระองค์สามารถวางใจในพระองค์แม้เมื่อสถานการณ์ดูเหมือนจะยากลำบาก ในวันนี้ข้าพระองค์ขอเชื่อมั่นและไว้วางใจในพระองค์

Pippa Adds

เยเรมีย์ 17:7

‘… คนที่วางใจในพระเจ้าย่อมได้รับพระพร คือผู้ที่ความวางใจของเขาอยู่ในพระเจ้า’

ความวางใจ คือ การสามารถที่จะวางมือ และมอบตัวเราเอง หรือสถานการณ์ ไว้กับพระเจ้าโดยไม่ยึดไว้ เป็นเหมือนลูกน้อยในอ้อมแขนของพ่อแม่ ไม่สงสัยแม้แต่น้อยว่าพวกเขาปลอดภัยแล้ว

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

O tomto plánu

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More