Logo YouVersion
Ikona vyhledávání

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลUkázka

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

วิธีฟังเสียงพระวิญญาณบริสุทธิ์

วิลล์ วิสบี เป็นตัวแทนอสังหาริมทรัพย์หนุ่มผู้ประสบความสำเร็จ เขาสงสัยในความเชื่อคริสเตียนอย่างยิ่ง ในวันอาทิตย์หนึ่ง เพื่อนคนหนึ่งเชิญเขามาที่คริสตจักรโฮลี่ ทรินิตี้ บรอมพ์ตัน ในระหว่างการนมัสการ บางคนมีของประทานคือ ‘ถ้อยคำแห่งความรู้' ได้กล่าวว่า ‘มีชายคนหนึ่งอยู่ที่นี่ ผู้ซึ่งกำลังรอคอยรถสปอร์ตเปิดประทุนซึ่งจะส่งมาถึงในอีกสองวัน เขาทำงานหนักมาตลอดชีวิตเพื่อบรรลุความสำเร็จ รักทำงานเป็นชีวิตจิตใจ เขามีรถ มีบ้าน มีวิถีชีวิตที่ดี แต่เขาไม่มีความสุข พระเจ้าอยากให้เขารู้ว่า มีบางสิ่งสำคัญยิ่งกว่าที่เขาจะต้องหันมาสนใจ’ ต่อมาภายหลัง วิลล์ได้เขียนว่า ‘ผมแทบไม่อยากจะเชื่อ ผมเพิ่งซื้อรถคันใหม่ที่ดีที่สุด มันจะมาถึงภายในสองวัน และผมไม่ได้บอกใคร ผมหาเงินได้ปีละ 100k ปอนด์ (ประมาณ 4.4 ล้านบาท) งานคือชีวิตของผม คืนนั้น เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ผมได้อธิษฐานอย่างจริงจัง’ วิลล์สัมผัสกับพระเยซูคริสต์และเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เขาพูดว่า ‘ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าพระเยซูทรงมีอยู่จริง พระองค์ทรงรักผม และพระองค์ทรงอยู่กับผม’ พวกเราหลายคนดำเนินชีวิตในโลกที่อึกทึกและวุ่นวาย ในท่ามกลางทุกเสียงที่รบกวน และการพูดคุยสนทนาต่าง ๆ แล้วคุณจะได้ยินเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้อย่างไร?

สุภาษิต 20:15-24

จบฟังปัญญาและความรอบรู้

หนึ่งในวิธีที่คุณสามารถได้ยินเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์คือผ่านทางคำแนะนำอันมีปัญญาของผู้อื่น ผู้คนที่มีสติปัญญาและความรอบรู้นั้นล้ำค่ามาก 'มี​ทอง​คำ​และ​มี​ทับ​ทิม​มาก​มาย แต่​ปาก​ที่​มี​ความ​รู้​ก็​เป็น​ของ​ล้ำ​ค่า​ยิ่ง’ (ข้อ 15) ‘การดื่มด่ำจากจอกแห่งความรู้ที่งดงามนั้นดียิ่งกว่า การประดับประดาตนเองด้วยทองคำและอัญมณีที่หายาก’ (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

แสวงหาความช่วยเหลือเมื่อต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญ ๆ ‘แผน​งาน​ดำ​รง​อยู่​ได้​ด้วย​คำ​แนะ​นำ’ (ข้อ 18) คุณยังคงต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของคุณ ‘สร้างจุดมุ่งหมายของคุณโดยขอคำแนะนำ จากนั้นดำเนินการโดยใช้ทุกความช่วยเหลือทั้งหมดที่คุณจะหาได้’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ในพระธรรมสุภาษิตเต็มไปด้วยคำแนะนำที่ชาญฉลาด ซึ่งบอกคุณให้ระวังคนที่ชอบนินทาซึ่งทรยศความไว้วางใจและให้หลีกเลี่ยงคนที่พูดมากเกินไป ‘คนชอบนินทาเก็บความลับไว้ไม่ได้ ดังนั้นอย่าไว้ใจคนที่ปากพล่อย’ (ข้อ 19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) หนึ่งในคนชอบนินทาซึ่งรู้จักกันดี ได้ปักคติพจน์นี้ไว้บนหมอนอิงของเธอ: ‘ถ้าคุณไม่มีอะไรดี ๆ จะพูดถึงคนอื่น มานั่งนี่กับฉันซิ’

คำแนะนำอันชาญฉลาด ๆ อีกอย่างที่เป็นคำเตือนเรื่องการแก้แค้นคือ อย่าพูดเลยว่า “ฝากไว้ก่อนเถอะ!” จงรอคอยพระเจ้า พระองค์จะทรงชำระความแค้นให้’ (ข้อ 22, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

การฟังเสียงองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ หมายถึง การฟังพระวจนะของพระเจ้า ‘ย่างเท้าของมนุษย์นั้นพระยาห์เวห์ทรงกำหนดแล้วคนจะเข้า​ใจ​ทาง​ของ​เขา​เอง​ได้​อย่าง​ไร?’ (ข้อ 24) จงฟังเสียงพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามที่พระองค์ทรงตรัสกับคุณผ่านทางพระวจนะ

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสกับข้าพระองค์ผ่านทางพระวจนะ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ได้ยิน และเชื่อฟังเสียงของพระองค์

1 โครินธ์ 14:1-19

จงฟังผ่านของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์

จงยกย่องความรัก และอย่าทำอะไรเพื่อลดคุณค่าความสำคัญแห่งของประทานแห่งองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ เปาโลเน้นทั้งสองสิ่ง: ‘จง​มุ่ง​หา​ความ​รัก และขวน​ขวายของประทานจากพระวิญญาณ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​การ​เผย​พระ​วจนะ’ (ข้อ 1) บางคนกล่าวว่า เราควร ‘ปรารถนาในตัวผู้ให้ ไม่ใช่ตัวของประทาน’ แต่ผู้ให้สั่งเราให้ปรารถนาของประทาน

การเผยพระวจนะเป็นหนึ่งในของประทานแห่งองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงตรัสกับคริสตจักร เปาโลเน้นความสำคัญว่าของประทานมีไว้เพื่อคริสตจักร ซึ่งสำคัญยิ่งกว่าการพูดภาษาแปลก ๆ ‘ข้าพเจ้าต้องการให้พวกท่านทุก​คน​พูด​ภา​ษา​แปลก ๆ แต่​ยิ่ง​กว่า​นั้น ข้าพเจ้าต้องการให้พวกท่านเผยพระวจนะ’ (ข้อ 5ก)

แม้ว่าเปาโลกำลังพูดในสถานการณ์ที่ของประทานเรื่องภาษาแปลก ๆ นั้นอันตรายหากใช้ในทางที่ผิด เขายังคงคิดบวกอย่างน่าทึ่งเกี่ยวกับเรื่องของประทานชนิดนี้ อาจารย์เปาโลกล่าวว่า ผู้ที่อธิษฐานในภาษาแปลก ๆ ก็ทำให้ตัวเองเจริญขึ้น (ข้อ 4) นี่เป็นของประทานที่ดีสำหรับทุกคน (ข้อ 5) ของประทานภาษาแปลก ๆ เป็นวิธีหนึ่งในการอธิษฐานในพระวิญญาณ (ข้อ 14) และนี่เป็นการขอบพระคุณ และการสรรเสริญเป็นหลัก (ข้อ 16–17) เขาเป็นพยานเรื่องการใช้ของประทานนี้เอง ‘ข้าพเจ้าขอบ​พระ​คุณ​พระ​เจ้า ข้าพเจ้าพูด​ภา​ษา​แปลก ๆ มากกว่าท่านทั้งหลายอีก’ (ข้อ 18)

เปาโลสร้างความแตกต่างระหว่างการใช้ของประทานเป็นการส่วนตัว (ซึ่งท่านหนุนใจโดยทั่วไป) และการใช้ของประทานนี้ในที่สาธารณะในคริสตจักร ถ้าคนหนึ่งพูดภาษาแปลก ๆ ในคริสตจักร ก็จำเป็นต้องมีการแปล (ข้อ 5,18–19) เมื่อถูกใช้ร่วมกับของประทานในการแปล ก็เท่ากับเป็นการเผยพระวจนะ (ข้อ 5ข)

ของประทานในการแปลทำให้คริสตจักรเจริญขึ้นหลังจากที่ภาษาแปลก ๆ ถูกพูดในที่สาธารณะ (ข้อ 5) ทุกคนที่มีของประทานภาษาแปลก ๆ ควรอธิษฐานสำหรับของประทานนี้เช่นกัน เพื่อคริสตจักรสามารถจำเริญขึ้น

การเผยพระวจนะเป็นความสามารถในการฟังสิ่งที่พระเจ้าตรัส และส่งต่อให้กับคนอื่น ๆ นี่เป็นของประทานทางฝ่ายวิญญาณที่มีความสำคัญมากในคริสตจักร และควรขวนขวายหา (ข้อ 1) นี่ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเรื่องการพยากรณ์อนาคต แต่กลับกันนี่เป็นการบอกล่วงหน้าถึงสิ่งที่พระเจ้ากำลังตรัสในสถานการณ์ปัจจุบัน

คริสเตียนในยุคแรกมาถึงจุดที่มองเห็นพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมว่าเป็นการเผยพระวจนะ (2 เปโตร 1:20) พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมผู้เผยพระวจนะเป็นพยานเรื่องพระเยซู พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่อัครสาวกเป็นพยานถึงพระเยซู ปัจจุบันไม่มีสิ่งใดเทียบเท่าในแง่ของสิทธิอำนาจ

ถ้อยคำเรื่องการเผยพระวจนะในปัจจุบันไม่ได้มีสิทธิอำนาจเทียบเท่ากับผู้เผยพระวจนะและอัครทูต พระคริสตธรรมคัมภีร์สำหรับคริสเตียนทุกคนในทุกที่ทุกเวลา ถ้อยคำเผยพระวจนะนั้นเป็นถ้อยคำเฉพาะเจาะจง ที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้า ให้กับบางคนหรือหลายคนอย่างเฉพาะเจาะจง ในช่วงเวลาที่เจาะจง เพื่อวัตถุประสงค์ที่เจาะจง นี่คือการเผยพระวจนะโดยมนุษย์ถึงบางสิ่งซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ดลความคิดและจิตใจและบางครั้งก็กระทำผิดพลาดไปบ้าง

แต่ถึงอย่างไรเปาโลให้คุณค่าสูงกับของประทานในการเผยพระวจนะ (1 โครินธ์ 14:1) เพราะว่านี่เป็นของประทานซึ่งเสริมสร้างคริสตจักร (ข้อ 4) และยังสามารถส่งผลกระทบต่อ ‘คนที่ไม่เชื่อ' ‘แต่ถ้าทุกคนเผยพระวจนะ คน​ที่​ไม่​เชื่อ​หรือ​คน​ที่​ไม่​รู้​เข้า​มา...ความลับในใจของเขาจะถูกทำให้ปรากฎ เขา​ก็​จะ​ทรุด​ตัว​ลง​ซบ​หน้า​นมัส​การพระเจ้ากล่าวว่า “พระเจ้าสถิต​อยู่​ท่าม​กลาง​พวก​ท่าน​อย่าง​แน่​นอน!”’ (ข้อ 24–25) นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับวิลล์ วิสบี

การเผยพระวจนะจำเป็นต้องถูกวินิจฉัย: 'ให้​พวก​ผู้​เผย​พระ​วจนะ​พูด​ได้สอง​หรือ​สาม​คน และให้คนอื่น ๆ วินิจฉัยสิ่งที่พูด’ (ข้อ 29)

1. นี่ตรงกับพระคัมภีร์ไหม?
พระเจ้าจะไม่ทำสิ่งที่ขัดแย้งกับพระองค์เอง

2. อะไรคือลักษณะนิสัยของผู้ที่เผยพระวจนะ?
พวกเขาเป็นผู้คนที่เต็มไปด้วยความรักไหม? (ข้อ 1)

3. ผลกระทบของการเผยพระวจนะคืออะไร?
เปาโลเขียนว่า '… แต่ผู้ที่เผยพระวจนะนั้น พูดกับมนุษย์เพื่อให้เจริญขึ้น ให้มีการชูใจและการปลอบใจ’ (ข้อ 3) ถ้อยคำเผยพระวจนะที่แท้จริงจะเป็นบวกเสมอในแง่ของการทำให้จำเริญขึ้น ชูใจ และปลอบใจคนอื่น ๆ

โดยรวม ถ้อยคำเผยพระวจนะนั้นยืนยันสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ใส่ไว้ในหัวใจเราเรียบร้อยแล้ว หากคุณไม่แน่ใจเรื่องถ้อยคำการเผยพระวจนะ อย่าเร่งรีบ แต่จงทำในสิ่งที่มารีย์มารดาของพระเยซูทรงทำ คือรอคอยและไตร่ตรองถึงสิ่งเหล่านั้นในใจของคุณ (ลูกา 2:19)

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ในฐานะคริสตจักรที่จะสร้างบรรยากาศแห่งการคาดหวังที่จะได้ยินเสียงขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะตรัสกับพวกเรา และเมื่อเราได้ฟัง ขอที่พวกเราจะติดตามวิถีแห่งความรักของพระองค์และขวนขวายของประทานของพระวิญญาณบริสุทธิ์

2 พงศาวดาร 10:1-12:16

จงฟังคำแนะนำที่ดีและถ้อยคำเผยพระวจนะ

เรโหโบอัมทำพลาดครั้งใหญ่ พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสกับเขาผ่านทางผู้อาวุโส พวกเขากล่าวว่า 'ถ้า​ฝ่า​พระ​บาท​ทรงรับใช้​ต่อ​ประ​ชา​ชน​นี้ และทรงพิจารณาถึงความต้องการของพวกเขา และตอบสนองด้วยความเมตตา แก้ปัญหากับพวกเขา เขา​ทั้ง​หลาย​จะ​ทำทุกสิ่งเพื่อของ​ฝ่า​พระ​บาท​เป็น​นิตย์’ (10:7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เรโหโบอัมทำพลาดโดยปฏิเสธคำแนะนำของผู้อาวุโส (ข้อ 8) แต่กลับไปฟังคำแนะนำอันเลวร้ายของคนหนุ่มที่เติบโตมาด้วยกันแทน (ข้อ 10–11) เรโหโบอัมบอกกับประชาชนว่า ‘พระ​ราช​บิดา​ของ​เรา​ฟาด​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ด้วย​แส้ แต่​เรา​จะ​เฆี่ยนท่าน​ด้วย​โซ่!’ (ข้อ 11ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เรโหโบอัม ‘ไม่​ทรง​ฟัง​ประ​ชา​ชน’ (ข้อ 15) เมื่ออิสราเอลทั้งหมดเห็นว่า ‘พระ​ราชา​ไม่​ทรง​ฟัง​เขา​ทั้ง​หลาย’ (ข้อ 16) พวกเขาจึงกบฏ

แต่พระเจ้าไม่ได้ล้มเลิกที่จะตรัสกับเรโหโบอัม ‘พระ​วจนะ​ของ​พระ​ยาห์​เวห์​มา​ยัง​เช​ไม​อาห์ คน​ของ​พระ​เจ้า​‘ และเขาถูกบอกให้ไปและ​ทูล​เร​โห​โบ​อัม​ 'พระ​ยาห์​เวห์​ตรัส​ดัง​นี้​ว่า...’ (11:2–4ก)

นี่เป็นช่วงเวลาที่พระราชาและประชาชนไม่เป็นหนึ่งเดียวกันในการฟังเสียงพระเจ้า ‘แล้ว​พวก​เขา​จึง​เชื่อ​ฟัง​พระ​วจนะ​ของ​พระ​ยาห์​เวห์ และ​กลับ​ไป​โดย​ไม่​ได้​สู้​รบ​กับ​เย​โร​โบ​อัม’ (ข้อ 4ข)

ภายหลัง พระเจ้าตรัสอีกครั้งผ่านทางผู้เผยพระวจนะ เชไมอาห์ ‘พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “พวก​เจ้า​ได้​ละ​ทิ้ง​เรา เรา​จึง​ละ​ทิ้ง​พวก​เจ้า​”’ (12:5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) อีกครั้งที่พวกเขาฟัง พวกเขา ‘ถ่อม​ตัวลง​และ​กล่าว​ว่า “พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​ชอบ​ธรรม​แล้ว”’ (ข้อ 6) ผลก็คือ ‘เมื่อ​พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​เห็น​ว่า เขา​ทั้ง​หลาย​ถ่อม​ตัว​ลง พระ​วจนะ​ของ​พระ​เจ้า​ได้​มา​ถึง​เช​ไม​อาห์​ว่า “เขา​ทั้ง​หลาย​ได้​ถ่อม​ตัว​ลง​แล้ว เรา​จะ​ไม่​ทำ​ลาย​เขา แต่​เรา​จะ​ให้​การ​ช่วย​กู้​แก่​พวก​เขา​บ้าง…”’ (ข้อ 7)

ข้าแต่พระเจ้า ขอประทานสติปัญญาแก่ข้าพระองค์ในการได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้เรียนรู้ที่จะฟังเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์

Pippa Adds

1 โครินธ์ 14:4

‘คน​ที่​พูด​ภา​ษา​แปลก ๆ นั้น​ก็​ทำ​ให้​ตัว​เอง​เจริญ​ขึ้น’

เมื่อเพื่อนคนหนึ่งของฉันถูกถามเมื่อหลายปีก่อนว่า เธออยากจะมีของประทานภาษาแปลก ๆ ไหม เธอตอบว่า ‘ถ้ามันช่วยนะ’ ฉันต้องการทุกความช่วยเหลือเท่าที่ฉันจะหาได้ ฉันขอบพระคุณพระเจ้าอย่างยิ่งสำหรับของประทานนี้ในหลายต่อหลายครั้ง เมื่อฉันไม่สามารถออกเสียงสิ่งที่ฉันรู้สึกได้ ฉันใช้ของประทานนี้เพื่อเทสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

O tomto plánu

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More