พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลUkázka

ค่ำคืนแห่งยุง
ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องราวที่มีอิทธิพลในหลายด้าน การเป็นผู้นำเป็นเรื่องของการที่มีอิทธิพล ทุกคนมีอิทธิพลต่อคนอื่น ๆ รอบข้าง ดังนั้น ในแง่หนึ่ง ทุกคนเป็นผู้นำ นักสังคมวิทยาบอกเราว่า แม้กระทั่งคนที่เก็บตัวที่สุดก็ยังมีอิทธิพลเหนือคนอื่น ๆ 10,000 คน ตลอดชั่วชีวิตของเขาหรือเธอ เราทุกคนล้วนมีอิทธิพลต่อกันและกันในทุกด้าน ไม่ว่าจะมาจากสิ่งที่เราเลือกทานในมื้อกลางวัน และหนังที่เราเลือกดู ไปจนถึงสิ่งที่สำคัญกว่าในเรื่องความจริงและศีลธรรม ชีวิตของผมได้รับอิทธิพลจากคนมากมาย ทั้งพ่อแม่ ครู เพื่อนฝูง และครอบครัวของผม เหมือนกับที่ผมมีอิทธิพลต่อคนอื่น ๆ สิ่งที่ผมทำหรือพูดจะส่งผลต่อคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะดีหรือร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังที่สุภาษิตแอฟริกันว่าไว้ ‘ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเล็กน้อยเกินกว่าจะสร้างความแตกต่างใด ๆ นั่นแปลว่าคุณยังไม่เคยนอนให้ยุงหามมาก่อน’ ยุงสามารถสร้างความแตกต่างในแบบที่น่ารำคาญได้ แต่หลักการยังคงเหมือนเดิม คน ๆ หนึ่งสามารถหยุดความอยุติธรรมที่ยิ่งใหญ่ได้ คน ๆ หนึ่งสามารถเป็นเสียงแห่งความจริงได้ ความใจดีของคน ๆ หนึ่งสามารถช่วยชีวิตได้ แต่ละคนมีความสำคัญ คุณจะสามารถขยายอิทธิพลของคุณไปจนถึงขีดสุด และใช้อิทธิพลนั้นในทางที่ดีได้อย่างไร?สดุดี 96:1-13
เพื่อผลดีแก่ทุกคน
พระเจ้าทรงเลือกอิสราเอล พระองค์ทรงอวยพรชนชาติอิสราเอลในแบบที่พิเศษ พระประสงค์ของพระองค์ ไม่ใช่เพื่อให้พวกเขารู้สึกหยิ่งผยองและเหนือกว่าคนอื่น ๆ แต่เพื่อให้พวกเขาเป็นพรต่อทั้งโลกนี้ (ปฐมกาล 12:3) พวกเขาได้รับพรเพื่อเป็นพร พวกเขาถูกเรียกเพื่อใช้อิทธิพลของพวกเขาเพื่อเป็นผลดีสำหรับทุกชนชาติ
ตอนนี้พระเจ้าทรงเลือกเรา คริสตจักร เพื่อเป็นพรแก่คนทุกคน คุณถูกเรียกให้ได้รับพระพรเพื่อเป็นพร
สดุดีบทนี้เน้นที่หลายชนชาติ ประกาศถึงความอัศจรรย์และพระพร ของพระเจ้าต่อทุกคน คุณถูกเรียกเพื่ออวยพรผ่านทาง
1. การนมัสการ
เป็นเรื่องน่าสนใจที่จะสังเกตว่า ในการส่งต่อ การนมัสการควรสร้างสรรค์และรวมเอานวัตกรรมไว้ด้วย: พวกเขาร้อง ‘เพลงบทใหม่’ (สดุดี 96:1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
2. การเป็นพยาน
'ประกาศข่าวแห่งชัยชนะของพระองค์จากทะเลถึงทะเล
นำเอาข่าวแห่งพระสิริของพระองค์ไปยังคนหลงหาย
และข่าวแห่งการอัศจรรย์ของพระองค์ไปยังทุกชนชาติ...
ประกาศออกไปว่า– พระเจ้าทรงครอบครอง!’ (ข้อ 2–3,10ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล
ขอทรงช่วยพวกเราด้วย พระองค์เจ้าข้า ที่พวกเราจะไม่โฟกัสแต่ตัวเอง หรือตามใจตัวเอง ขอให้ทุกสิ่งที่พวกเราทำในฐานะบุคคลหรือชุมชนจะขยายออกไป เพื่อนำเอาพระพรออกไปสู่โลกนี้ ประกาศ ความรอดของพระองค์วันแล้ววันเล่า
1 โครินธ์ 9:1-18
การเผยแพร่ข่าวประเสริฐ
เปาโลคำนึงถึงอิทธิพลของเขาในฐานะคริสเตียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะอัครทูต ท่านตั้งใจแน่วแน่ที่จะขยายอิทธิพลของตนเองไปให้ได้มากที่สุดเพื่อสิ่งดี และเพื่อ ‘จะไม่วางสิ่งกีดขวางใด ต่อข่าวประเสริฐของพระคริสต์’ (ข้อ 12ข)
ท่านเห็นการทรงเรียกของตัวเองต่อการเป็นโสดว่า เป็นวิธีหนึ่งที่ท่านสามารถขยายอิทธิพล เปาโลไม่ได้กล่าวว่าการแต่งงานเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง อัครสาวกคนอื่น ๆ รวมทั้ง ‘น้อง ๆ ขององค์พระผู้เป็นเจ้า และเคฟาส (เปโตร)’ ล้วนแต่งงาน (ข้อ 5)
อีกวิธีหนึ่งที่เปาโลใช้เพื่อขยายอิทธิพล คือ การมีงานที่สองหรือการทำงานหาเลี้ยงชีพ ท่านฉลาดหลักแหลมมากที่จะชี้ให้เห็นว่า ตนเองไม่จำเป็นต้องทำสิ่งนี้ ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสั่งไว้ว่า คนที่ประกาศข่าวประเสริฐควรได้รับการเลี้ยงชีพด้วยข่าวประเสริฐ’ (ข้อ 14) หรือตามที่ยูจีน ปีเตอร์สัน แปลไว้ว่า ‘… คนที่ประกาศข่าวประเสริฐควรได้รับการสนับสนุนจากคนที่เชื่อในข่าวประเสริฐนั้น’ (ข้อ 14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พูดอีกอย่างก็คือ ในฐานะคริสเตียนเราควรสนับสนุนทางการเงินให้กับผู้ที่ประกาศข่าวประเสริฐเต็มเวลา
ประเด็นของเปาโลคือ แม้ว่าจะมีสิทธิ์ แต่ท่านก็ไม่ได้ใช้สิทธิ์นี้เลย ‘การตัดสินใจของเราตลอดมาคือสู้ทนมากกว่าจะกีดขวางหรือเบี่ยงเบนไปจากข่าวประเสริฐของพระคริสต์’ (ข้อ 12ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
เปาโลร้อนรนใจแน่นอนเรื่องการเทศนาข่าวประเสริฐ ท่านไม่ได้อยากให้อะไรเป็นสิ่งกีดขวางผลกระทบสูงสุดของข่าวประเสริฐ ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงไม่ได้ใช้สิทธิ์ใด ๆ เลย พันธกิจของท่านนั้นยิ่งใหญ่มาก (ข้อ 15ก) ท่าน ‘จำเป็นต้องเทศนา’ (ข้อ 16ก) เปาโลเขียนว่า ‘ถ้าไม่ประกาศ วิบัติจะเกิดกับข้าพเจ้า!’ (ข้อ 16ข) ท่านเพียงแค่ทำตามภาระผูกพันที่ท่านรู้สึก
สิ่งที่ท่านต้องการมากกว่าสิ่งอื่นใดคือการที่ผู้คนมีโอกาสได้ยินข่าวประเสริฐ “โดยไม่คิดค่าจ้าง” (ข้อ 18) “ข้าพเจ้ายอมตายดีกว่าจะให้อาวุธใครมาทำลายความน่าเชื่อถือของข้าพเจ้า หรือกล่าวหาแรงจูงใจของพระเจ้า” (ข้อ 15 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เราตัดสินใจว่าจะไม่จ้างใครให้ทำอัลฟ่า และนี่คือเหตุผลที่เราต้องต่อต้านทุกความพยายามในการชักชวนให้เราระดมทุนจากผู้ที่เข้าร่วมทันทีที่พวกเขาจบหลักสูตรอัลฟ่าเสร็จ เราไม่ต้องการให้ผู้คนจ่ายโดยตรงหรือโดยอ้อมเพื่อรับสิทธิพิเศษในการฟังพระกิตติคุณ เปาโลกล่าวว่า “ข้าพเจ้ายอมตายดีกว่า…” (ข้อ 15ข)
ผมจำได้ว่าตอนที่บิลลี่ เกรแฮมมาประกาศพระกิตติคุณในลอนดอนในปี 1989 มีข้อเสนอแนะอยู่ช่วงหนึ่งว่าเพื่อไม่ให้เสียบัตรเข้าชมเปล่า ๆ (ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ) เราควรขายบัตรเหล่านี้ในราคาใบละ 1 ปอนด์ ข้อเสนอนี้ถูกปฏิเสธ เพราะบิลลี่ เกรแฮมตั้งใจไว้ว่าเขาจะเทศนาพระกิตติคุณโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเท่านั้น
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยเราให้ติดตามตัวอย่างของอัครทูตเปาโล และขยายอิทธิพลของเราในการเทศนาข่าวประเสริฐโดยการทำให้ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ และยอมทนกับทุกสิ่งแทนที่จะขัดขวางข่าวประเสริฐของพระคริสต์
ปัญญาจารย์ 9:13-12:14
การหว่านเมล็ดที่ดี
ซาโลมอนตระหนักดีถึงพลังแห่งอิทธิพล อิทธิพลนี้อาจเป็นสิ่งที่ดีหรือร้ายก็ได้
คนมีปัญญาคนหนึ่งสามารถช่วยเมืองให้รอดได้ (9:13–18ก) อีกด้านหนึ่ง ‘แต่คนบาปคนเดียวย่อมทำลายความดีเป็นอย่างมากได้’ (ข้อ 18ข) ฮิตเลอร์ สตาลิน และโพล พอท เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของหลักการนี้ มนุษย์คนหนึ่งสามารถใช้อิทธิพลของเขาทำสิ่งร้ายกาจและเป็นเหตุให้เกิดอันตรายใหญ่หลวงได้
แต่อิทธิพลไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่เท่าเผด็จการเหล่านี้ก็ก่อให้เกิดผลร้ายได้ ‘แมลงวันตาย ย่อมทำให้น้ำมันหอมบูดเหม็นไป ความเขลาเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำลายปัญญาได้’ (10:1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) แม้แต่แมลงวันที่ตายแล้วยังสามารถมีอิทธิพลเลวร้ายได้ มนุษย์ที่ทรงอิทธิพลน้อยที่สุดยังสามารถมีอิทธิพลได้ทั้งร้ายหรือดี เราทุกคนล้วนสามารถเป็นแมลงวันในน้ำมันหอมได้!
ผู้เขียนกล่าวต่อไปอีกมากเรื่องวิธีที่จะเป็นผู้อิทธิพลที่ดีแทนที่จะเป็นแบบเลวร้าย:
1. ระวังถ้อยคำของคุณ
ซาโลมอนเตือนเราว่า ‘ถ้อยคำจากปากของผู้มีปัญญาทำให้เขาเป็นที่โปรดปราน’ (ข้อ 12ก) จงตอบสนองต่อถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความโกรธด้วยความสงบ (ข้อ 4)
หลีกเลี่ยงการนินทาและพูดไม่ดีต่อผู้นำของคุณ จงระวังสิ่งที่คุณพูดหรือแม้กระทั่งคิด อย่าประนามผู้คน ‘แม้กระทั่งในความคิดของคุณ’ หรือแช่งด่าพวกเขา ‘แม้เจ้าอยู่ในห้องนอนของเจ้า เพราะนกในอากาศจะคาบเสียงของเจ้าไป หรือตัวที่มีปีกจะเล่าเรื่องนั้น’ (ข้อ 20)
2. ลองรับความเสี่ยง
เพื่อขยายอิทธิพลของคุณเพื่อสิ่งที่ดี คุณจำเป็นต้องรับความเสี่ยง ‘จงใจกว้าง: ลงทุนในการทำการแบ่งปัน การแบ่งปันให้ผลตอบแทนสูง อย่าสะสมสิ่งดีไว้เพื่อตัวเอง จงแจกจ่ายออกไป จงเป็นพระพรให้แก่ผู้อื่น’ (11:1–2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พูดอีกอย่างก็คือ เขากำลังพูดว่า 'ไม่เสี่ยง ก็ไม่ได้' การรัก คือการเสี่ยงที่จะไม่ได้รับความรักตอบแทนกลับมา การลองทำดูคือการเสี่ยงที่จะล้มเหลว แต่เราต้องลองเสี่ยงดู เพราะว่าอันตรายที่สุดในชีวิตคือการไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย
หากเราระมัดระวังเกินไป เราจะไม่มีวันบรรลุสิ่งใด 'ผู้ใดมัวสังเกตลมก็จะไม่หว่านพืช และผู้ใดมัวจ้องมองเมฆก็จะไม่เกี่ยวข้าว’ (ข้อ 4) เราควรประยุกต์หลักการนี้ในการบุกเบิกคริสตจักร ซึ่งจะต้องใช้ความเสี่ยงและการมุ่งมั่น เราต้องไม่หวั่นไหวกับอุปสรรคที่ดูเหมือนไม่สามารถเอาชนะได้ เราจะต้องไม่เลื่อนออกไปเนื่องจาก ‘ลม’ และ ‘เมฆ’
3. กระจายความพยายามของคุณ
เพื่อขยายอิทธิพลออกไป คุณอาจต้องสับเปลี่ยนโอกาสยาก ๆ หลายอย่างกลับไปกลับมาในชีวิตของคุณ ‘เวลาเช้าเจ้าจงหว่านพืชของเจ้า และพอเวลาเย็นก็อย่าหดมือเจ้าเลย เพราะเจ้าไม่รู้ว่าการไหนจะเจริญ การนี้หรือการนั้น หรือการทั้งสองจะเจริญดีเหมือนกัน’ (ข้อ 6)
อย่าใส่ไข่ทั้งหมดของคุณไว้ในตระกร้าใบเดียว (อย่าทุ่มความเสี่ยงไปที่เดียว - ผู้แปล) เดินหน้าต่อไปและทำทุกโอกาสให้ดีที่สุด นี่เป็นเหตุว่าทำไมในฐานะคริสตจักร เราพยายามหว่านเมล็ดในทุกทิศทาง ผ่านทางการนมัสการ การอธิษฐาน การเป็นผู้นำ การสร้างสาวก การอบรมด้านศาสนศาสตร์ การประกาศ การต่อสู้ความอยุติธรรม การทำงานในเรือนจำ และกับคนยากจน และกับคนด้อยโอกาส
คว้าโอกาสต่าง ๆ ของคุณ ชีวิตช่างแสนสั้น อย่าเปลืองเวลากับการกังวลใจ ‘…ขจัดความเศร้าหมองเสียจากใจ…’ (11:10) โอกาสต่าง ๆ ของคุณมีจำกัด ‘แม้ว่าเจ้าจะมีชีวิตยืนนาน อย่าไม่เห็นคุณค่าของวันใด จงปีติยินดีในทุกชั่วโมงที่สว่างไสว...ผู้ที่ยังเยาว์วัย ใช้วัยเยาว์ของเจ้าให้เต็มที่’ (ข้อ 8ก,9 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
พระธรรมนี้จบลงด้วยบทสรุปต่อทุกการค้นหาและตั้งคำถาม ความหมายของชีวิตที่สุดแล้วก็ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้า จงยำเกรงพระเจ้า และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ เพราะสิ่งนี้เป็นหน้าที่ของมนุษย์ทั้งปวง (12:13ข)
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ยำเกรงพระองค์ และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ใช้อิทธิพลของข้าพระองค์เพื่อสิ่งดีไม่ใช่เพื่อสิ่งที่ชั่วร้าย ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ใช้ทุกโอกาสที่พระองค์ทรงวางไว้ต่อหน้าข้าพระองค์ให้ดีที่สุด
Pippa Adds
ปัญญาจารย์ 12:12
‘ซึ่งจะทำหนังสือมากก็ไม่มีสิ้นสุดและเรียนมากก็เหนื่อยเนื้อหนัง’
ช่างเป็นถ้อยคำที่แม่นยำจริง ๆ ซาโลมอนจะรู้ไหมว่า มีหนังสือกี่เล่มที่ถูกเขียนขึ้นในทุก ๆ หัวข้อในปีนี้ มีหนังสือมากมายที่งดงาม ให้แรงบันดาลใจ แต่ก็มีหนังสือมากมายที่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อหลายปีก่อนฉันรู้สึกเห็นใจขณะช่วยลูกคนหนึ่งของเราทำการบ้านในการอ่านหนังสือ พวกเขาบ่นว่า ‘หนูไม่ชอบหนังสือ มีตัวหนังสืออยู่ในนั้นเต็มเลย’
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)O tomto plánu

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Podobné plány

Zůstávejme v Ježíši: Přinášejme trvalé ovoce (Love God Greatly/Miluj Boha nesmírně)

Zkus se modlit

Milost ve vašem příběhu

Svoboda

Ester: Pro chvíli, jako je tato

Co je mým účelem? Nauč se milovat Boha a milovat druhé lidi

Porazit sebevědomí a úzkost

Radujme se

Uvědomit si, že Bůh mě miluje
