Logo YouVersion
Ikona vyhledávání

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลUkázka

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

ฟังพระเจ้า

ในทุก ๆ ความสัมพันธ์ของเรา การฟังเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในฐานะนักปรัชญาและนักศาสนศาสตร์ พอล ทิลลิช ได้กล่าวไว้ว่า ‘หน้าที่แรกของความรักคือการฟัง’ คนบางคนก็ฟังผู้อื่นได้ดีมาก พลทหารจอร์จ มาร์แชล กล่าวว่า ‘สูตรสำหรับการจัดการและดูแลคนคือ * ฟังเรื่องราวของผู้อื่น * ฟังเรื่องราว*ทั้งหมด*ของผู้อื่น * ฟังเรื่องราวทั้งหมดของผู้อื่น*ก่อน*’ การฟังพระเจ้าเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญในความสัมพันธ์ของคุณกับพระองค์ ‘ฟัง’ หมายถึง ได้ยินอย่างตั้งใจ ‘ให้ความสนใจ’ การอธิษฐานหมายถึง *การให้ความสนใจอย่างเต็มที่*กับพระเจ้า*ก่อน*

สดุดี 81:8-16

ฟังพระเจ้าตรัสกับคุณผ่านทางพระธรรมสดุดี

พวกเราทุกคนต่างเคยมีประสบการณ์ในความหิวโหยทางฝ่ายร่างกาย ซึ่งสามารถเติมเต็มได้ด้วยอาหารเท่านั้น นอกจากนี้ คุณยังมีความหิวกระหายฝ่ายจิตวิญญาณ ซึ่งสามารถสนองได้โดยการฟังพระเจ้าเท่านั้น พระเจ้าตรัสว่า ‘ถ้าเพียงแต่เจ้าจะฟังเรา…’ ( ข้อ 8ข)

พระวจนะของพระเจ้าจะตอบสนองความหิวกระหายฝ่ายจิตวิญญาณของคุณ พระเจ้าสัญญาว่า ‘จงอ้าปากของเจ้าให้กว้าง แล้วเราจะป้อนเจ้าให้อิ่ม’ (ข้อ 10) ถ้าคุณฟังพระองค์ พระองค์ตรัสว่า ‘พระองค์จะทรงเลี้ยงเขาด้วยข้าวสาลีอย่างดีที่สุด เราจะให้เจ้าพอใจด้วยน้ำผึ้งที่มาจากหิน’ (ข้อ 16)

ในอีกแง่หนึ่ง พระองค์ตรัสว่า ‘ฟังเถิด ท่านทั้งหลายผู้เป็นที่รัก’ (ข้อ 8ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระเจ้าปรารถนาให้คุณได้รับสิ่งที่ดีที่สุดและได้เตือนถึงอันตรายของการเพิกเฉยต่อพระองค์ พระองค์ตรัสต่อไปว่า ‘แต่ประชากรของเราไม่ฟังเสียงของเรา อิสราเอลไม่เชื่อฟังเรา เราจึงมอบเขาไว้แก่จิตใจดื้อด้านของเขาเอง ให้ทำตามคำปรึกษาของเขาเอง’ (ข้อ 11–12) ผลของการไม่ฟังพระเจ้า คือการที่พระองค์ประทานผลลัพธ์ที่เกิดจากการกระทำของเราเอง (ดู โรม 1:24,26 เพิ่มเติม)

ในทางกลับกัน พระองค์สัญญาว่า หากคุณฟังพระองค์ พระองค์ก็จะกระทำสิ่งต่าง ๆ แทนคุณ ‘เออ ประชากรของเรา น่าจะฟังเราและอิสราเอล น่าจะเดินในทางของเรา แล้วไม่ช้า เราก็จะปราบศัตรูของเขา’ (สดุดี 81: 13–14ก)

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ขอขอบพระคุณที่ในแต่ละวัน ข้าพระองค์สามารถฟังพระองค์และอิ่มเอมใจด้วย ‘ข้าวสาลีที่ดีที่สุด’ โปรดช่วยข้าพระองค์ในแต่ละวันให้เอาใจใส่ในสิ่งที่พระองค์ตรัส และจากนั้นให้ข้าพระองค์ไว้วางใจให้พระองค์ทำสิ่งต่าง ๆ แทนข้าพระองค์

กิจการอัครทูต 26:24-27:12

ฟังพระเจ้าตรัสกับคุณผ่านเหล่าอัครสาวก

อัครสาวกเปาโลเป็นผู้ส่งสารของพระเจ้า พระเจ้าตรัสผ่านเขา บรรดาผู้ที่กำลังฟังเปาโลในข้อความตอนนี้ได้มีโอกาสฟังพระเจ้า

เมื่อเปาโลกำลังแล่นเรือไปยังกรุงโรม นายร้อย ‘เชื่อกัปตันและเจ้าของเรือมากกว่าเชื่อคำที่เปาโลกล่าว’ (27:11) การที่เขาไม่ยอมฟังเปาโลนั่นเกือบจะกลายเป็นหายนะ

ในส่วนแรกของข้อความตอนนี้ เราเห็นเปาโลถูกล่ามโซ่ต่อหน้าเฟสตัส และอากริปปา เขากำลังบอกข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซู การสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ เฟสตัสกล่าวว่า 'เปาโล เจ้าคลั่งไปเสียแล้ว เจ้าเรียนรู้วิชามากจนทำให้เจ้าคลั่งไป’ (26:24) เขาพูดว่า ‘เปาโล เจ้าเป็นบ้าไปเสียแล้ว!’ ( ข้อ 24 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) บางคนเคยคิดและยังคงคิดอยู่ว่า พวกคริสเตียนนั้นดู ‘บ้าไปหน่อย’

คำตอบของเปาโล คือ ‘...ข้าพเจ้าไม่ได้คลั่งเลย แต่พูดคำสัตย์จริงและพูดอย่างคนปกติ’ ( ข้อ 25) เขาไม่ได้ตอบว่า 'ใช่ มันค่อนข้างจะบ้าไปหน่อย แต่เราเชื่อแบบนั้น' เขาปฏิเสธที่จะยอมรับข้อเสนอแนะว่าความเชื่อของเขาไม่มีเหตุผล

เปาโลโต้แย้งว่าความเชื่อมีเหตุมีผล มีเหตุผลที่ดีที่จะเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงฟื้นจากความตาย ความเชื่อของเราคือ 'คำสัตย์จริงและพูดอย่างคนปกติ' (ข้อ25) เราไม่ควรกลัวที่จะเสนอข้อโต้แย้งที่มีเหตุผลและสมเหตุสมผล เราจำเป็นต้องใช้การนำเสนอพระกิตติคุณอย่างชาญฉลาด

อย่างไรก็ตาม เหตุผลเพียงอย่างเดียวนั้นก็ยังไม่เพียงพอ ก่อนที่ผมจะเป็นคริสเตียน ผมเคยได้ฟังข้อโต้แย้งและเหตุผลต่าง ๆ สำหรับเรื่องความเชื่อ แต่คำถามของผมก็ไม่ได้รับคำตอบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ผมก้าวไปในความเชื่อโดยอาศัยสิ่งที่ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับพระเยซู ในช่วงเวลาที่ผมก้าวในความเชื่อ ทำให้ดวงตาของผมถูกเปิดออกและผมได้เข้าใจสิ่งที่ผมเองไม่เคยเห็นมาก่อน

เหตุผลจะพาเราไปได้ไกลระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อเราพยายามเชิญชวนผู้คน เหมือนกับที่เปาโลเคยทำ เพื่อให้พวกเขามาติดตามพระเยซู ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องอธิบายว่าข้อความเกี่ยวกับพระเยซูนั้น ‘สัตย์จริงและมีเหตุผล’

การตอบสนองของอากริปปาที่มีต่อเปาโลคือ “'เจ้าจะชวนเราเป็นคริสเตียน ในช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ หรือ?”’ เปาโลจึงทูลว่า “ไม่ว่าจะเป็นช่วงสั้นหรือยาว ข้าพระบาทก็อธิษฐานต่อพระเจ้าว่า ไม่เพียงแต่ฝ่าพระบาทเท่านั้น แต่ทุกคนที่ฟังข้าพระบาทในวันนี้ จะเป็นเหมือนอย่างข้าพระบาท เว้นแต่เครื่องจำจองนี้”’ (ข้อ 28–29)

เปาโลไม่ได้สนใจว่าผู้คนจะเป็นคริสเตียนผ่านวิกฤติ ( ‘คือ ช่วงเวลาสั้น ๆ’) หรือผ่านกระบวนการ (‘คือ ช่วงเวลาที่ยาวนาน’) แต่เขาพยายามทำทุกทางเพื่อเชิญชวนให้บรรดาคนเหล่านั้นมาเป็นคริสเตียนเช่นเดียวกับตน เปาโลไม่ละอายที่จะอธิษฐานขอให้ผู้คนเป็นเหมือนกับตัวเขาเลย (กาลาเทีย 4:12)

เปาโลไม่ได้ทำสิ่งใดซึ่งสมควรกับโทษประหารหรือถูกคุมขังเลย (กิจการ 26:31) แต่เจ้าหน้าที่ก็แก้ต่างอย่างไร้เหตุโดยไม่ยอมปล่อยเขาให้เป็นอิสระ (ข้อ 32) สิ่งนี้ไม่ยุติธรรมและไม่สมเหตุสมผลเลย นั่นคงดูน่าผิดหวังอย่างมากสำหรับเปาโล

กระนั้น 2,000 ปีต่อมา เราอยู่ที่นี่ กำลังฟังข้อความที่เปาโลพูดในขณะนั้น และมีโอกาสฟังพระเจ้าผ่านข้อความเหล่านั้น

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้เราเป็นเหมือนเปาโลในเรื่องความเชื่อ และจิตใจอันร้อนรนของเขา เมื่อเราออกไปบอกข่าวดีเรื่องพระเยซู ขอให้ผู้คนสัมผัสได้ว่าเมื่อพวกเขาฟังเรา พวกเขากำลังฟังพระองค์อยู่

2 พงศ์กษัตริย์ 16:1-17:41

ฟังพระเจ้าพูดกับคุณผ่านทางผู้เผยพระวจนะ

พระเจ้าอนุญาตให้อิสราเอลถูกจับไปเป็นเชลย และถูกเนรเทศออกจากประเทศ เพราะพวกเขาปฏิเสธที่จะฟังพระองค์

ประวัติศาสตร์ของช่วงเวลานี้ในพระธรรม 2 พงศ์กษัตริย์ สามารถสรุปได้เป็นคำว่า ‘ไม่ฟัง’ ‘พวกเขาไม่ฟัง... พวกเขาไม่ได้ฟัง’ (17:14,40) ดังที่เราเห็นจากเมื่อวานนี้ ปัญหาทั้งหมดที่กษัตริย์และประชากรของพระเจ้าเผชิญเป็นผลมาจากการไม่ฟังพระเจ้า

พระเจ้าตรัสกับคนของพระองค์ผ่านทางผู้เผยพระวจนะ ซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ‘พระเจ้าได้ยืนขึ้นต่อสู้กับอิสราเอลและยูดาห์ โดยตรัสอย่างชัดเจนผ่านผู้เผยพระวจนะและผู้ทำนายมากมายนับไม่ถ้วน ครั้งแล้วครั้งเล่า... แต่พวกเขาก็ไม่ฟัง’ (ข้อ 13–14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

นี่คือเหตุผลที่พวกเขาตกไปเป็นเชลย ‘การตกเป็นเชลยเกิดขึ้นเพราะความบาป ลูกหลานของอิสราเอลทำบาปต่อพระเจ้า... พวกเขาทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความฉ้อฉล เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจต่อพระเจ้าของพวกเขา’ (ข้อ 7–9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

‘และเขาทำตามประชาชาติที่อยู่รอบ ๆ ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงห้ามเขาทำตาม’ (ข้อ 15) ผลของการไม่ฟังคือคนอิสราเอลสูญเสียการทรงสถิตของพระเจ้าและถูกกวาดต้อนเป็นเชลยในอัสซีเรีย ‘ทรงเหวี่ยงเขาไปพ้นพระพักตร์ของพระองค์...พระยาห์เวห์ทรงให้อิสราเอลออกไปพ้นพระพักตร์ของพระองค์’ (ข้อ 20,23)

เช่นเดียวกันกับเรา ในบ่อยครั้ง พวกเขาไม่เอาจริงเอาจังพอในเรื่องความบาปในชีวิตของพวกเขา ‘พวกเขาให้เกียรติและนมัสการพระเจ้า แต่ไม่ได้ให้พระองค์เพียงผู้เดียว... พวกเขาไม่ได้นมัสการพระเจ้าจริง ๆ พวกเขาได้ไม่จริงจังในสิ่งที่พระองค์ตรัสสั่งถึงวิธีที่พวกเขาควรปฏิบัติและสิ่งที่พวกเขาควรเชื่อ’ (ข้อ 32,34, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘พวกเขาไม่ได้เอาใจใส่ พวกเขายังคงทำสิ่งที่พวกเขาเคยทำอยู่เสมอ’ ( ข้อ 40, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

คุณเคยหรือไม่ที่บางครั้งตัวเองพบว่าจิตใจของคุณถูกแบ่งแยกระหว่างการติดตามพระเจ้าและการทำตามความปรารถนาของคุณเอง เราควรปกป้องตัวเองจากความนิ่งเฉยหรือความประมาทเลินเล่อซึ่งจะนำให้ความบาปคืบคลานเข้ามา อย่าปล่อยให้ศัตรูนำคุณไปสู่การไม่เชื่อฟังพระเจ้า

ความจริงก็คือ ความปรารถนาของพระเจ้าเป็นพรแก่เราเสมอ พระบัญชาและคำสั่งสอนของพระองค์มีไว้เพื่อให้คุณเจริญรุ่งเรือง (ดูเฉลยธรรมบัญญัติ 6:1–3)

เราเห็นสิ่งนี้ในชีวิตของกษัตริย์แต่ละพระองค์ของอิสราเอลและยูดาห์ ผู้เขียนพระธรรม 1 และ 2 พงศ์กษัตริย์ ให้ภาพย่อ ๆ ว่าแต่ละท่านทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรของพระเจ้าหรือไม่ มีการพรรณนาถึงกษัตริย์ทุกพระองค์ของอิสราเอลว่าทำ ‘สิ่งชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์’ (2 พงศ์กษัตริย์ 17:2) และนำไปสู่การล่มสลายของอาณาจักรในตอนต้น (ข้อ 8)

ในทางตรงกันข้าม ประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนกษัตริย์ในยูดาห์มีคำอธิบายในแง่บวกอย่างกว้าง ๆ และประมาณอีกครึ่งหนึ่งเป็นในแง่ลบอย่างกว้าง ๆ เช่นกัน ภายใต้กษัตริย์ที่ ‘ดี’ อาณาจักรยูดาห์ก็เจริญรุ่งเรือง และประวัติศาสตร์ของอาณาจักรนั้นยาวนานกว่าและมีสิ่งที่ดีมากกว่าของอิสราเอล การปกครองของกษัตริย์ที่ ‘ดี’ โดยทั่วไปนั้นยาวนานกว่ากษัตริย์ที่ ‘ชั่วร้าย’ กษัตริย์ชั่วร้ายทั้งสิบสองพระองค์ครองราชย์รวมกันเป็นเวลา 130 ปี ในขณะที่กษัตริย์ที่ดีสิบพระองค์ครองราชย์รวมทั้งสิ้น 343 ปี กษัตริย์ที่ ‘ดี’ ยังคงเผชิญกับความยากลำบากและการท้าทายทุกรูปแบบ และการติดตามพระเจ้าก็ไม่รับประกันว่าชีวิตจะเรียบง่าย ทว่าแบบอย่างของพวกเขาเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงพลังถึง พระพรและปัญญาของการฟัง และการติดตามพระเจ้า

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ให้เอาใจใส่และตั้งใจฟังสิ่งที่พระองค์ตรัส โปรดช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากความบาปที่ซ่อนอยู่ ให้ข้าพระองค์ขอความช่วยเหลือโดยเร็ว เพื่อข้าพระองค์จะไม่ปล่อยให้ความบาปคืบคลานเข้ามาในชีวิต โปรดช่วยข้าพระองค์ไม่ให้ทำในสิ่งที่คนรอบข้างทำแต่โปรดช่วยให้ข้าพระองค์ได้ยินเสียงพระองค์ ติดตามพระองค์และยินดีในการสถิตของพระองค์

Pippa Adds

2 พงศ์กษัตริย์ 17:41

‘ดังนั้นประชาชาติเหล่านี้จึงยำเกรงพระยาห์เวห์ และปรนนิบัติรูปเคารพสลักของพวกเขาด้วย’

บางครั้งเมื่อฉันไปนมัสการที่คริสตจักร ฉันกลับเริ่มสนใจในสิ่งอื่น ๆ เช่น รองเท้าสวย ๆ ของใครสักคน หรือคิดว่าใช้ปลาหรือไก่ปรุงเป็นอาหารกลางวัน ! หัวใจของฉันก็ถูกแยกไปเช่นกัน

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

O tomto plánu

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More