พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลUkázka

พลังของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
คนจำนวน 56,000 คน ในค่ายกักกันบูเชนวัลด์ถูกสังหารโดยระบอบเผด็จการที่มองว่าความเชื่อของคริสเตียนเป็นภัยคุกคามต่ออุดมการณ์ ห้องขังหนึ่งช่วงในค่าย สงวนไว้สำหรับนักโทษที่ถือว่าอันตราย หรือบุคคลสำคัญ พอล ชไนเดอร์ ศิษยาภิบาลนิกายลูเธอแรนที่ถูกเรียกว่า ‘นักเทศน์แห่งบูเชนวัลด์’ ถูกขังในห้องนี้ เพราะแม้แต่หน้าต่างเล็ก ๆ ในห้องขังของเขา เขาก็ประกาศพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ด้วยเสียงดัง เพื่อต่อต้านคำสั่งของกลุ่มตำรวจลับเกสตาโป อ็อตโต นอยเรอร์ นักบวชคาทอลิกที่ทำงานในนามของชาวยิวและคนอื่น ๆ ที่เรียกว่า ‘สิ่งที่ไม่พึงปรารถนา’ ทำให้เขากลายเป็นภัยคุกคามต่อผู้นำนาซีก็ถูกขังอยู่ในกลุ่มนี้เช่นกัน เขาได้ปรนนิบัติในพระนามของพระเยซูแก่เพื่อนร่วมห้องขังในค่ายกักกันจนกระทั่งเขาถูกตรึงกลับหัว ในความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทำให้ชายสองคนนี้ซึ่งคนหนึ่งเป็นคาทอลิกและอีกคนหนึ่งเป็นโปรเตสแตนต์ เป็นพยานร่วมกันถึงพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมีพลังมากสดุดี 68:7-14
ผู้คนและดินแดน
ดาวิดนึกถึงการอพยพ ภูเขาซีนาย และการพิชิตคานาอัน สิ่งเหล่านี้เป็นจุดสูงในประวัติศาสตร์ของผู้คนของพระเจ้าเมื่อพวกเขาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างแท้จริง
พระคัมภีร์ข้อนี้เกี่ยวกับการตระหนักว่าพระพรและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมาจากพระเจ้า เป็นบทเพลงสดุดีขอบพระคุณและสรรเสริญพระเจ้าสำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ทำ เป็นการเฉลิมฉลองความเป็นผู้นำ (ข้อ 7) ฤทธิ์อำนาจและการจัดเตรียมของพระองค์ (ข้อ 8–9) ทรงมีพระทัยกว้างขวางและความยุติธรรม (ข้อ 10) และชัยชนะของพระองค์ (ข้อ 11–14)
พระเจ้าทรงนำประชากรไปยังดินแดนที่ทรงสัญญาไว้ ทว่าในวันนี้ ในพื้นที่เดียวกันนี้ ความท้าทายของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนั้นยิ่งใหญ่ การค้นหาสันติภาพในตะวันออกกลางยังคงเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่โลกของเราเผชิญอยู่
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับความรักที่มีให้ทุกคน ข้าพระองค์อธิษฐานเพื่อสันติภาพและความสามัคคีในประเทศที่มีสงครามในตะวันออกกลาง ขอขอบพระคุณที่พระองค์เป็นที่มาและรากฐานของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ยอห์น 17:6-26
คริสตจักรและโลก
ในพระกิตติคุณ เรามักอ่านเกี่ยวกับชีวิตการอธิษฐานของพระเยซู แต่เฉพาะบางครั้งเท่านั้นที่เราจะได้รับรู้ถึงสิ่งที่พระองค์อธิษฐาน ในคำอธิษฐานอันยิ่งใหญ่ของพระเยซู ก่อนที่พระองค์จะเสด็จออกไปเผชิญหน้าไม้กางเขน เราเห็นความสำคัญของพระองค์
พระเยซูไม่เพียงอธิษฐานเพื่อสาวกของพระองค์เท่านั้น แต่สำหรับผู้ที่จะเชื่อในอนาคตด้วย กล่าวคือ พระองค์อธิษฐานเพื่อทั้งคริสตจักร ซึ่งรวมถึงคุณและผมด้วย (ข้อ 20)
คำอธิษฐานนี้เป็นหัวข้อของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พระเยซูไม่เพียงอธิษฐานเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในหมู่สาวกของพระองค์ (ข้อ 11) แต่สำหรับคริสตจักรด้วย (ข้อ 20) พระองค์ทรงอธิษฐานขอความเป็นหนึ่งเดียวเช่นเดียวกับที่รวมเข้าไว้ซึ่งตรีเอกานุภาพ: ‘เพื่อพวกเขาจะเป็นหนึ่งเดียว ดังที่เราเป็นหนึ่งเดียว’ (ข้อ 1,’ พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)
- แรงจูงใจเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คือภารกิจอันยิ่งใหญ่ของพระเยซู
พระเยซูทรงอธิษฐานขอความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสมบูรณ์เพื่อโลกจะได้เชื่อ (ข้อ 23) และรู้จักความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระเจ้า (ข้อ 21, 24) อุปสรรคสำคัญที่สุดประการหนึ่งของความเชื่อคือการแตกแยกในคริสตจักร ในด้านการเมือง ทันทีที่พรรคการเมืองแตกแยก พรรคนั้นก็สูญเสียความนิยม มันเกิดขึ้นในโลกและเกิดมากยิ่งขึ้นในคริสตจักร พระเยซูตรัสว่าพระองค์ทรงปกป้องเหล่าสาวกและรักษาพวกเขาให้ปลอดภัย ‘เพื่อพวกเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียว’ (ข้อ 12) ตอนนี้เขาอธิษฐาน ‘แต่ขอให้ปกป้องเขาไว้ให้พ้นจากมารร้าย’ (ข้อ 15) ที่จะหาทางแยกพวกเขา
เมื่อคริสตจักรทะเลาะกัน ผู้คนก็หมดความสนใจ ตรงกันข้าม เมื่อคริสตจักรรวมกันเป็นหนึ่งเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจมาก เป็นแหล่งแห่งความสุข สาวกของพระเยซูไม่ควรมีความขมขื่น พระเยซูทรงอธิษฐาน ‘เพื่อให้เขาได้รับความชื่นชมยินดีของข้าพระองค์อย่างเต็มเปี่ยม’ (ข้อ 13) ความสุขมาจากความเป็นหนึ่งเดียว ความแตกแยกเป็นผู้ขโมยความสุข ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวนั้นมีพลัง
- หนทางแห่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเยซู
พระเยซูอธิษฐานเพื่อความบริสุทธิ์ของคุณ พระเยซูทรงอธิษฐานว่า ‘ขอทรงแยกพวกเขาให้บริสุทธิ์ด้วยความจริง พระวจนะของพระองค์เป็นความจริง’ (ข้อ 17) ความบริสุทธิ์มาจากความจริง ความจริงมีอยู่ในพระวจนะของพระเจ้า นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการซึมซับพระวจนะของพระเจ้าจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
ความบริสุทธิ์มาเมื่อคุณต้อนรับองค์บริสุทธิ์ คือรับพระวิญญาณแห่งความจริง ผู้ทรงสถิตอยู่ภายในคุณ
พระเยซูทรงอธิษฐานว่า ‘ข้าพระองค์นั้นจะอยู่ในเขา’ (ข้อ 26) นี่คือความจริงที่วิเศษที่สุดของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ ว่าพระเยซูเสด็จมาอยู่ในคุณโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระวิญญาณบริสุทธิ์องค์เดียวกันทรงสถิตอยู่ในคริสเตียนทุกคน ไม่ว่าคริสตจักรใดหรือนิกายใดก็ตาม พระวิญญาณบริสุทธิ์รวมเราเข้าด้วยกัน
-
เครื่องหมายแห่งความเป็นหนึ่งเดียวคือความรักของพระเยซู พระเยซูทรงอธิษฐานว่า ‘เพื่อความรักที่พระองค์ทรงรักข้าพระองค์นั้นจะอยู่ในเขา’ (ข้อ 26) คุณมีความรักใดที่สูงกว่าความรักที่พระเจ้าพระบิดามีต่อพระเยซูพระบุตรของพระองค์หรือไม่? คำอธิษฐานของพระเยซูเพื่อคุณคือให้คุณมีความรักเช่นเดียวกับพระเจ้าเหมือนพระบิดามีต่อพระเยซูในหัวใจของคุณ เพื่อให้คุณมีความรักแบบนี้ต่อคริสเตียนคนอื่น ๆ และคนอื่น ๆในพระกายของพระคริสต์
-
การวัดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันคือการมองเห็นพระเยซู
บางครั้งผู้คนพูดถึง ‘ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวที่มองไม่เห็น’ แต่พระเยซูไม่ได้อธิษฐานขอความเป็นหนึ่งเดียวที่มองไม่เห็น พระองค์ไม่ได้อธิษฐานขอให้เรา ‘เกือบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน’ พระองค์ทรงอธิษฐานขอให้พวกเขา ‘เพื่อพวกเขาจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสมบูรณ์ เพื่อโลกจะได้รู้ว่าพระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มา’ (ข้อ 23) พระองค์ต้องการให้คริสตจักรเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์และมองเห็นชัดเจน
สักวันหนึ่งมันจะเป็นเช่นนั้น (เอเฟซัส 1:9–11) ในระหว่างนี้ เมื่อเราสร้างสะพาน ทำงานร่วมกันและร่วมกับคริสเตียนคนอื่น ๆ จากส่วนต่าง ๆ ของคริสตจักร เมื่อจิตใจและความคิดเชื่อมสัมพันธ์กับพระเยซู เราจะเห็นสัญญาณที่มองเห็นได้ของความเป็นหนึ่งเดียวที่มองไม่เห็นของเรา เช่นเดียวกับในค่ายกักกันบูเชนวัลด์
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับวิธีที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำเรามาอยู่ร่วมกัน ขอให้เราเห็นสัญญาณของความเป็นหนึ่งเดียวเพิ่มขึ้นเพื่อให้โลกได้เชื่อ
1 ซามูเอล 19:1-20:42
เพื่อนและคู่แข่ง
ในด้านการเมือง ธุรกิจ หรือแม้แต่ชีวิตในคริสตจักร คนสองคนที่เป็นเพื่อนที่ดีสามารถลงเอยด้วยการแข่งขันเพื่องานเดียวกันได้ เราควรจัดการกับความตึงเครียดระหว่างความทะเยอทะยานและมิตรภาพของเราอย่างไร?
มิตรภาพระหว่างดาวิดกับโยนาธานช่างน่าประทับใจ พวกเขาเป็นคู่แข่งกันเพื่อบัลลังก์ พวกเขามีเหตุผลทุกประการที่จะอิจฉากันและเกลียดชังกัน แต่โยนาธานรักดาวิด ‘รักชีวิตของพระองค์’ (20:17) ความรักประเภทนี้ที่พระเยซูทรงบัญชาคือความรักสูงสุดที่คนหนึ่งสามารถมีต่ออีกคนหนึ่งได้ (มัทธิว 22:39)
ในทางกลับกัน ซาอูลก็เต็มไปด้วยความริษยา ความริษยาเริ่มต้นจากการเปรียบเทียบตัวเรากับผู้อื่น คือเปรียบเทียบความสำเร็จของเรากับคนรอบข้าง ความริษยามีอำนาจขัดขวางความรู้สึกของตนเองชั่วคราว เมื่อโยนาธานชี้ไปที่ซาอูล บิดาของเขาว่า ดาวิดไม่ได้ทำผิดต่อเขา และทำประโยชน์แก่โยนาธานอย่างมากมาย และเป็นการผิดมากที่จะฆ่าผู้บริสุทธิ์ ซาอูลกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ดาวิดจะไม่ถูกฆ่า’ (1 ซามูเอล 19:6)
การโต้เถียงที่มีเหตุผลและเหตุผลอาจโน้มน้าวคนที่เต็มไปด้วยความริษยาในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม ความริษยามีอานุภาพมากเมื่อคนถูกครอบงำ เช่นเดียวกับซาอูลที่ไม่มีใครหยุดได้ อย่างที่เช็คสเปียร์พูดใน โอเทลโล (Othello) ว่า ‘มันเป็นสัตว์ประหลาดที่มีตาสีเขียวที่ล้อเลียนเนื้อที่มันกิน’
ดาวิดและโยนาธานรักกัน โยนาธาน ‘รักดาวิด’ (ข้อ 1) และโยนาธาน ‘กล่าวชมดาวิด’ (ข้อ 4) โยนาธานตรัสกับดาวิดว่า ‘ใจท่านว่าอย่างไร ฉันจะทำตามเพื่อท่าน’ (ข้อ 20:4) ช่างเป็นความมุ่งมั่นที่ดีที่มีต่อเพื่อน! คำมั่นสัญญาที่พวกเขามีต่อกันอยู่ในรูปของ ‘พันธสัญญา’ (ข้อ 16) ซึ่งรวมถึงลูกหลานของพวกเขาด้วย (ข้อ 42) ‘และโยนาธานทรงให้ดาวิดปฏิญาณอีกครั้งหนึ่งโดยความรักของท่านที่มีต่อเขา เพราะท่านทรงรักเขาอย่างกับรักชีวิตของท่านเอง’ (ข้อ 16–17)
ผลของความริษยาของซาอูล ‘แล้วความกริ้วของซาอูลก็พลุ่งขึ้นต่อโยนาธาน’ (ข้อ 30) โยนาธานรู้ว่าพระบิดาของท่านตั้งใจจะฆ่าดาวิด (ข้อ 33) และ ‘โยนาธานจึงทรงลุกขึ้นจากโต๊ะด้วยความโกรธยิ่งนัก’ (ข้อ 34)
ความแตกต่างระหว่างความโกรธของซาอูลกับความโกรธของโยนาธานก็คือ ความโกรธของซาอูลนั้นไม่มีมูลความจริงและเกิดจากความริษยา ความโกรธของโยนาธานเป็นความโกรธที่ชอบธรรม ‘เพราะเศร้าใจด้วยเรื่องดาวิด เพราะว่าพระราชบิดาของท่านทรงเหยียดหยามดาวิด’ (ข้อ 34) ความโกรธไม่ได้ผิดเสมอไป แต่ให้พิจารณาแรงจูงใจของคุณอย่างรอบคอบ
ดาวิดและโยนาธานไม่ละอายที่จะแสดงความรักต่อกัน ‘… แล้วทั้งสองก็จูบกัน และร้องไห้กัน’ (ข้อ 41) บางคนมองว่าการร้องไห้เป็นการแสดงความอ่อนแอ แต่พวกเขาไม่มีความละอายในการร้องไห้อย่างเปิดเผยและแสดงความรักต่อกัน นี่คือต้นแบบอันทรงพลังของมิตรภาพ ความรัก และความเป็นหนึ่งเดียว การแต่งงานเป็นหนึ่งในคำตอบของพระเจ้าต่อความเหงา มิตรภาพที่ใกล้ชิดเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ความรักและมิตรภาพนี้เองที่ทำให้โยนาธานสามารถภักดี สนับสนุน และปกป้องได้อย่างเต็มที่ แม้ว่าเขาจะเป็นคู่แข่งกันในราชบัลลังก์ก็ตาม
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยให้เราเต็มใจและสามารถรักเพื่อนของเราและเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง ขอให้ผู้คนพบคำตอบของความเหงาในความรัก ความเสน่หา และความเป็นหนึ่งเดียวของชุมชนคริสตจักร
Pippa Adds
1 ซามูเอล 19:1–2
‘ซาอูลตรัสกับโยนาธานราชบุตรและกับบรรดาข้าราชการทั้งหมดของพระองค์ ให้ฆ่าดาวิดเสีย แต่โยนาธานราชบุตรของซาอูลพอพระทัยในดาวิดมาก และโยนาธานตรัสกับดาวิดว่า...’ (1 ซามูเอล 19:1)
ดาวิดกำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างที่พวกเราหลายคนเคยประสบมาในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา ดาวิดรับใช้พระเจ้าและซาอูลกษัตริย์ของเขาอย่างซื่อสัตย์ ทว่าสิ่งที่เขาทำไป ก็ทำให้เจ้านาย(ซาอูล)พอใจไม่ได้ สิ่งเดียวที่ดาวิดทำได้คือทำในสิ่งที่ถูกต้องต่อไป เขาไม่ได้แสวงหาการแก้แค้นหรือความยุติธรรม ในที่สุด พระเจ้าก็แก้ต่างให้ดาวิดและพระองค์จะทรงแก้ต่างให้เราด้วย
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)O tomto plánu

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Podobné plány

Zkus se modlit

Sedmidenní vánoční rozjímání

Milost ve vašem příběhu

Radujme se

Porazit sebevědomí a úzkost

Uvědomit si, že Bůh mě miluje

Co je mým účelem? Nauč se milovat Boha a milovat druhé lidi

Svoboda

Zůstávejme v Ježíši: Přinášejme trvalé ovoce (Love God Greatly/Miluj Boha nesmírně)
