Logo YouVersion
Ikona vyhledávání

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลUkázka

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

สามหนทางในการเปลี่ยนแปลงโลกของคุณ

มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ (1929–1968) มีชีวิตและตายเพื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ในปี ค.ศ. 1964 เขากลายเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่เคยมีมาที่ได้รับรางวัลโนเบล ในสาขาสันติภาพ สำหรับการงานของเขาที่ทำให้การแบ่งแยกและการเลือกปฏิบัติทางสังคมหมดสิ้นไป เขากล่าวถึงความฝันของเขาอย่างทรงพลังและน่าจดจำว่า วันหนึ่ง เขาจะดำเนินชีวิตในประเทศซึ่งลูกหลานของเขาจะ ‘ไม่ถูกตัดสินจากสีผิว แต่เป็นคุณลักษณะนิสัยของพวกเขา' เขาฝันถึงโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ที่ซึ่งทุกคนสามารถจับมือกัน และพูดว่า ‘เป็นไทแล้วในที่สุด! ขอบคุณพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ เราเป็นไทแล้วในที่สุด!’ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ เป็นผู้ติดตามพระเยซู วาระของเขาคือเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า แผ่นดินของพระเจ้าไม่ใช่แค่เรื่องของการกลับใจส่วนบุคคล แม้ว่าเรื่องนั้นจะสำคัญเพียงใด แต่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสังคมด้วย

สุภาษิต 11:9-18

1. เป็นพระพรให้กับประเทศชาติของคุณ

ชีวิตของคุณสามารถส่งผลกระทบได้ ไม่เพียงแค่กับครอบครัว และชุมชนท้องถิ่นของคุณ แต่ยังเป็นบ้านเมืองและแม้กระทั่งประเทศของคุณ

ผู้เขียนสุภาษิตชี้ประเด็นว่า วิธีที่เราดำเนินชีวิตในฐานะบุคคลส่งผลไม่เพียงแค่ตัวเราเอง แต่ยังส่งผลถึงโลกรอบตัวเรา ไม่ว่าจะดีหรือร้าย

ในทางกลับกัน ‘เมื่อคนชอบธรรมอยู่เย็นเป็นสุข บ้านเมืองก็เปรมปรีดิ์
’ (ข้อ 10) และ ‘โดยได้รับพรจากอิทธิพลของคนเที่ยงธรรมและความโปรดปรานจากพระเจ้า บ้านเมืองก็เป็นที่ยกย่อง’ (ข้อ 11ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) ในทางตรงกันข้าม ‘แต่โดยปากของคนอธรรม บ้านเมืองก็ล่มจม’ (ข้อ 11ข) และ 'เมื่อไม่มีการชี้แนะ ประชาชนก็ล้มลง’ (ข้อ 14)

ถ้าอย่างนั้น คุณควรดำเนินชีวิตอย่างไร? อย่าดู​หมิ่นเพื่อน​บ้าน​ของ​คุณ แต่ให้ฝึกที่จะนิ่งเงียบไว้ (ข้อ 12) อย่าเที่ยว​ซุบ​ซิบนินทา แต่​คน​ที่​ไว้​วาง​ใจ​ได้​ย่อม​รักษาความลับไว้​ได้ (ข้อ 13)

เราล้วนต้องการคนมีปัญญาที่รักพระเจ้ารอบตัวเรา เพื่อให้คำแนะนำที่ดี ‘เมื่อไม่มีการชี้แนะ ประชาชนก็ล้มลง แต่โดยมีที่ปรึกษามาก ก็มีความปลอดภัย’ (ข้อ 14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) เมื่อคุณมีที่ปรึกษาที่มีปัญญา ให้รับคำปรึกษาจากพวกเขาบ่อย ๆ ถ้ายังไม่มี ทูลขอพระเจ้าให้จัดเตรียมที่ปรึกษาเช่นนั้นให้กับคุณ

จงมีใจเมตตา (ข้อ 16) และหว่านความชอบธรรม (ข้อ 18) หากคุณดำเนินชีวิตเช่นนี้ ทั้งโลกรอบตัวคุณก็จะได้รับการเปลี่ยนแปลง

ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้มีอิทธิพลในทางที่ดีต่อบ้านเมืองของข้าพระองค์ และในประเทศชาติของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะได้เห็นโลกรอบ ๆ ตัวข้าพระองค์ได้รับการเปลี่ยนแปลง

ยอห์น 4:1-26

2. ทำให้การแบ่งแยกทุกอย่างพังทลายไป

คริสตจักรทุกแห่งควรเป็นคริสตจักรที่มีส่วนร่วมเพราะความรักของพระเจ้านั้นกว้างใหญ่ไพศาล คริสตจักรควรมีชื่อเสียงในเรื่องความรัก เราควรต้อนรับทุกคนโดยไม่คำนึงว่าจะเป็นเพศใด เชื้อชาติใด หรือมีวิถีชีวิตแบบใดก็ตาม พระเยซูทรงทลายทุกสิ่งกีดขวางในสังคมเราลงแล้ว

ชื่อเสียงของพระเยซูโด่งดังยิ่งขึ้น ‘พวก​ฟา​ริสีคอยนับจำนวนคนรับบัพติศมาที่พระองค์และยอห์นได้ให้...พวกเขานับว่าพระเยซูทรงให้มากกว่า จึงนับว่าพระองค์และยอห์นเป็นคู่แข่ง’ (ข้อ 1–2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

พระเยซูทรงไม่ได้สนพระทัยในการชิงดี ชื่อเสียง หรือการแข่งขันกัน ‘เมื่อพระองค์ทรงทราบ พระองค์จึงเสด็จออกจากแคว้นยูเดียกลับไปที่แคว้นกาลิลีอีก’ (ข้อ 3) พระองค์ทรงสนพระทัยมากในการช่วยเหลือชาวสะมาเรียคนหนึ่ง พระองค์ทรงใช้เวลาทำพันธกิจกับเธอ แม่ชีเทเรซ่ากล่าวว่า ‘อย่ากังวลเรื่องจำนวน ช่วยคนทีละคน และเริ่มจากคนที่อยู่ใกล้ตัวคุณที่สุด’

ในการเผชิญหน้ากันครั้งนี้ พระเยซูทรงสำแดงให้เห็นถึงหนึ่งในวิธีที่สังคมจะถูกเปลี่ยนแปลงไปนั่นคือการทำลายล้างซึ่งการแบ่งแยก

ยุติสงครามระหว่างเพศ พระเยซูทรงสนทนาอย่างยาวนานกับสตรีในที่สาธารณะ นี่ขัดขืนต่อธรรมเนียมในเวลานั้น บรรดารับบีที่เคร่งครัดในเวลานั้นห้ามรับบีแม้กระทั่งทักทายสตรีในที่สาธารณะ ไม่ต้องนึกถึงการนั่งสนทนากันยาว ๆ เลย เมื่อพวกสาวกกลับมา พวกเขา ‘ประหลาดใจที่พระองค์ทรงสนทนากับผู้หญิง’ (ข้อ 27)

ตามที่จอห์น สต็อทท์เขียนไว้ว่า “โดยปราศจากการเอะอะหรือการทำประชาสัมพันธ์ใด ๆ พระเยซูทรงทำลายคำสาปแช่งของการล้มลงในบาป ลงทุนชีวิตกับเธอใหม่ด้วยเกียรติยศบางส่วนที่เธอสูญเสียไป และทวงคืนพระพรแห่งการทรงสร้างดั้งเดิมในเรื่องความเท่าเทียมกันทางเพศ เพื่อชุมชนแห่งอาณาจักรใหม่ของพระองค์’

ทั้งสองเพศไม่ควรต่อสู้กัน ตามที่พระสันตะปาปาเบเนดิคที่สิบสี่ ตรัสไว้ว่า ‘ในพระคริสต์ การแข่งขัน ความเป็นปฏิปักษ์ และความรุนแรง ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงผิดเพี้ยนไป สามารถเอาชนะได้และถูกเอาชนะเรียบร้อยแล้ว’

ยุติการเหยียดเชื้อชาติ การเลือกปฏิบัติ และการแบ่งแยกสีผิว การแบ่งแยกระหว่างคนยิวและคนสะมาเรียย้อนกลับไปไกล คนสะมาเรียถูกดูหมิ่นและเป็นชนกลุ่มน้อยที่ไร้อำนาจ ถูกกด และไร้คุณค่า ยอห์นอธิบายว่า ‘เพราะพวกยิวในยุคนั้นไม่พูดจากับพวกสะมาเรียเลย’ (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

พระเยซูไม่ได้ประนีประนอมบนพื้นฐานแห่งความจริง ‘ความรอดมาจากพวกยิว’ (ข้อ 22) แต่ถึงกระนั้น พระองค์ทรงเอื้อมไปหาหญิงชาวสะมาเรียคนนี้ ในการทำเช่นนี้ พระองค์ทรงทำลายคำสาปแช่งของการเลือกปฏิบัติเรื่องชนชาติ และการแบ่งแยกสีผิว การเปลี่ยนแปลงทางสังคมต้องมีการทำลายกำแพงแห่งการแบ่งแยกด้านเชื้อชาติ และชาติพันธุ์

ยุติสงครามชนชั้น และการแบ่งแยกทางสังคม
พระเจ้าทรงรักคุณโดยไม่คำนึงถึงวิถีชีวิตของคุณก่อนหน้านี้ หรือในปัจจุบันนี้ ขอบคุณพระเจ้า พระองค์ทรงรักคนที่ไม่สมบูรณ์แบบ

ในการขอน้ำดื่มจากเธอ พระเยซูทรงแสดงให้เราเห็นถึงวิธีที่เข้าหาผู้คนที่แตกสลายและมีบาดแผล ไม่ได้เกื้อกูลดั่งคนที่เหนือกว่า แต่ทรงถ่อมตนเหมือนขอทาน

ผู้หญิงคนนี้เคยเป็นคนที่ถูกสังคมกีดกัน ด้วยประวัติของความสัมพันธ์ที่แตกหัก การถูกปฏิเสธและเยาะเย้ยโดยคนร่วมชาติของเธอเอง เธอมาตักน้ำตามลำพังในยามเที่ยงวัน

ไม่เพียงแค่พระเยซูทรงตรัสกับหญิงที่เป็นชาวสะมาเรีย พระองค์ตรัสกับ ‘คนบาป’ ผู้หญิงคนนี้ถูกนำไปสู่ชีวิตที่ผิดศีลธรรม 'เพราะเธอมีสามีถึงห้าคนแล้ว และคนที่มีอยู่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช่สามีของเธอ’ (ข้อ 18) เธอเคยหย่าร้างหลายครั้งและบัดนี้ก็อยู่กับชายที่เธอไม่ได้แต่งงานด้วย พระเยซูทรงไม่ประนีประนอมเรื่องความจริง แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตัดสิน ประนาม หรือปฏิเสธหญิงชาวสะมาเรีย เพราะวิถีชีวิตของเธอ หรือฐานะทางสังคม (อ้างอิง มาระโก 2:17, ยอห์น 8:10–11)

ความเชื่อไม่ได้ผสมผสานกับ ‘พวกคนบาป’ แต่โดยการปฏิสัมพันธ์ของพระองค์กับหญิงสำส่อนทางเพศคนนี้ พระเยซูทรงทำลายสิ่งกีดขวางอีกอันลงไป ความรักของพระองค์เอื้อมไปยังทุกส่วนในสังคม ข้ามสิ่งกีดขวางเรื่องชนชั้น วิถีชีวิต และฐานะทางสังคม

สุดท้ายแล้ว มีเพียงพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ทรงสามารถนำเอาการเปลี่ยนแปลงทางสังคม คือองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่นำเอาความเป็นหนึ่งเดียว ทำลายการแบ่งแยกทางเพศ เชื้อชาติ และฐานะทางสังคม ผู้ที่พระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่ควรอยู่ในแนวหน้าของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมทางเพศ เชื้อชาติและสังคม

บทสนทนาของพระเยซูกับหญิงคนนี้ ล้วนเกี่ยวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ เธอไม่ได้ต้องการคำสั่งสอน เธอต้องการน้ำธำรงชีวิต พระองค์ตรัสกับเธอว่า ‘ทุกคนที่ดื่มน้ำนี้จะกระหายอีก แต่คนที่ดื่มน้ำที่เราจะให้กับเขานั้น จะไม่มีวันกระหายอีกเลย น้ำที่เราจะให้เขานั้นจะกลายเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์”’ (ข้อ 13–14)

พระเยซูเสด็จมาเพื่อดับกระหายของเราในการได้รับการยอมรับ ความสัมพันธ์ และความหมาย ชีวิตที่เราได้รับเป็นชีวิตที่เราให้ออกไป เรากลายเป็นแหล่งแห่งชีวิตสำหรับคนอื่นๆ

การเปลี่ยนแปลงทางสังคมเริ่มต้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา เริ่มจากการดื่มน้ำแห่งชีวิตที่พระเยซูประทานแก่ทุกคนที่เชื่อในพระองค์ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาประทับอยู่ภายในคุณ พระองค์ทรงกลายเป็นน้ำพุถาวรซึ่งพลุ่งขึ้นล้นออกจากชีวิตของคุณจนถึงชีวิตนิรันดร์

คุณถูกเปลี่ยนแปลงโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และโดยความสัมพันธ์ส่วนตัวของคุณกับพระเจ้า คำที่ใช้ว่า ‘นมัสการ’ ในที่นี้หมายถึง ‘การคุกเข่าลง การถูกถึงเข้าใกล้ในความสัมพันธ์แห่งความรักที่ใกล้ชิดสนิทสนม’ เรา ‘ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง’ (ข้อ 24)

ข้าแต่พระเจ้า วันนี้ข้าพระองค์ขอเข้ามาหาพระองค์ และดื่มน้ำธำรงชีวิตของพระองค์ ขอให้น้ำนี้หลั่งไหลออกจากหัวใจของข้าพระองค์ และเปลี่ยนแปลงทุกความสัมพันธ์ของข้าพระองค์

ผู้วินิจฉัย 1:1-2:5

  1. คร่ำครวญกับพระเจ้าเพื่อการนำที่ดี

เราดำเนินชีวิตในโลกที่ไร้ระเบียบ และโกลาหล ในบางด้านก็ไม่ได้แตกต่างเท่าไหร่จากโลกที่ถูกบรรยายไว้ในพระธรรมผู้วินิจฉัย

การเข้าสู่พระธรรมผู้วินิจฉัยนั้นค่อนข้างน่าตกใจ เราพบการผสมผสานของความรุนแรง การข่มขืน การสังหารหมู่ ความโหดเหี้ยม การหลอกลวง และการทำร้ายร่างกาย เราได้เห็นถึงวิธีที่ผู้คนล้มเหลวในการยึดถือรูปเคารพและการทำบาป เมื่อพวกเขาตั้งรกรากในแผ่นดินแห่งพันธสัญญา แม้จะมีคำเตือนของพระเจ้า พวกเขาก็ประนีประนอมกับให้กับความเชื่อ และหลักศีลธรรมของผู้คนรอบตัว (2:1–2) ผู้ซึ่งกลายเป็น ‘หอก​ข้าง​แคร่​ของ​(พวก​เขา) และ​บรรดา​พระ​ของ​พวก​เขา​จะ​เป็น​บ่วง​ดัก​(พวกเขา)ทั้ง​หลาย’ (ข้อ 3)

พระเจ้าทรงเรียกคุณให้ไม่ประนีประนอมกับสิ่งเลวร้าย พระองค์ไม่ได้อยากให้คุณแค่ตัดด้านต่าง ๆ ของชีวิตคุณที่คุณรู้ว่าผิดออกไป แต่ให้ตัดออกไปอย่างหมดจด และไร้ความปรานี

ประชาชนพบว่าตัวเองอยู่ในวังวนของความไม่เชื่อฟัง ถูกกดขี่จากศัตรูของพวกเขา จากนั้นก็ร้องหาพระเจ้าเพื่อขอความช่วยเหลือ

พระเจ้าทรงตอบด้วยการส่งผู้วินิจฉัย (ผู้นำ) ให้กับพวกเขา พระองค์ทรงใช้คนทุกประเภทที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ให้มาเป็นผู้นำ ซึ่งหนุนใจเราทุกคนอย่างใหญ่หลวง โดยการเสริมกำลังขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ ผู้นำเหล่านี้สามารถนำพวกเขา และเปลี่ยนแปลงโลกของพวกเขา

ข้าแต่พระเจ้า ขอโปรดทรงโปรดเจิมผู้นำที่ดีในบ้านเมืองของเรา และในวัฒนธรรมของเรา เพื่อจะเปลี่ยนแปลงโลกของเรา และถวายเกียรติแด่พระนามของพระเยซู

Pippa Adds

ยอห์น 4:1–26

จากคนทั้งหมดที่พระเยซูทรงอาจใช้เวลาด้วย พระองค์ทรงเลือกคนที่ต่ำที่สุดในหมู่คนที่ชั้นต่ำ นั่นคือหญิงชาวสะมาเรีย ในอาณาจักรที่กลับด้านของพระเยซู พระเยซูประทานศักดิ์ศรีให้แก่ผู้ที่ไร้ศักดิ์ศรีใด ๆ

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

O tomto plánu

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More