พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลနမူနာ

ไม่มีพระพรใดที่ได้มาอย่างราบรื่น
*‘ไม่มีพระพรใดที่ได้มาอย่างราบรื่น’* เป็นหนึ่งในคติพจน์ของบิชอปแซนดี้ มิลลาร์ ซึ่งเขาได้หนุนใจเราทุกคน ในช่วงเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งตัวแทนของคริสตจักร โฮลี่ ทรินิตี้ บรอมพ์ตั้น ประเทศอังกฤษ เขาสอนเราว่า อย่าท้อแท้กับความยากลำบากที่เราเผชิญเพราะ ‘ไม่มีพระพรใดที่ได้มาอย่างราบรื่น’ เป็นสิ่งที่เขามักหนุนใจเราเสมอ พระเจ้าจะอวยพรคุณด้วยวิธีที่น่าอัศจรรย์และน่าทึ่ง เนื้อหาสำหรับวันนี้เราได้ใคร่ครวญเกี่ยวกับพระสัญญา ของพระเจ้า ขอบเขตและสิทธิพิเศษแห่งพระพรของพระเจ้า อย่างไรก็ตามสิ่งนี้เป็นความจริงในประชากรของพระเจ้าในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม และสาวกของพระเยซู และในชีวิตของคุณก็จะเป็นจริงเช่นกันที่ *‘ไม่มีพระพรใดที่ได้มาอย่างราบรื่น’*สดุดี 41:1-6
พระพรที่ถูกขัดขวางโดยปัญหา ความเจ็บป่วยและการใส่ร้าย
-
พระพรมีแด่ผู้ที่ห่วงใยผู้ขัดสน
พระพรมีแด่ผู้ที่ ‘เอาใจใส่คนจน’ (ข้อ 1) คือผู้ที่คอยห่วงใยผู้อื่น เช่น คนยากจน ผู้หิวโหย คนป่วย คนติดยาเสพติดและคนที่อยู่ในคุก นี่ควรเป็นลักษณะของผู้ที่ติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้า หากคุณห่วงใย ผู้ที่ขัดสนพระเจ้าสัญญาว่าจะทรงช่วยคุณในยามลำบาก ปกป้อง รักษาชีวิตของคุณและอวยพรคุณ (ข้อ 2) พระองค์สัญญาว่าจะทรงเสริมกำลังและเยียวยารักษาคุณ (ข้อ 3) แต่พระพรเหล่านี้จากพระเจ้าอาจไม่ได้มาอย่างราบรื่น -
ถูกขัดขวางจากปัญหา ความเจ็บป่วยและการใส่ร้าย
อาจมี ‘วันยากลำบาก’ (ข้อ 1ข) อาจมี ‘ศัตรู’ (ข้อ 2ข) อาจมีช่วงเวลาที่ ‘ล้มป่วย’ (ข้อ 3) หรืออาจมีศัตรูที่ ‘เขาก็พูดเท็จ ขณะที่ใจของเขาเก็บเรื่องร้ายเมื่อเขาออกไป เขาก็ป่าวร้องไป’ (ข้อ 6)
|การตระหนักว่ามีศัตรูอยู่รอบ ๆ ตัวนั้นจะทำให้คุณระวังตัวมากขึ้น ตัวอย่างเช่นมีบางคนรวมกลุ่มกัน ‘ใส่ร้ายคุณ’ พวกเขากำลังหาเรื่องที่จะติฉินนินทาคุณเพื่อพวกเขาจะได้ ‘ป่าวร้องไป’ แต่พระเจ้าทรงสัญญาที่จะอวยพรคุณ และพระองค์จะไม่มีวัน 'ทอดทิ้ง' คุณ (ข้อ 2ข)
สิ่งที่ทำให้หนุนใจอย่างมากเกี่ยวกับพระธรรมสดุดีคือพระพรแห่งการช่วยกู้นี้ดูเหมือนจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับความดีงามที่คุณทำเสมอไป ดาวิดตระหนักดีถึงความบาปของตนเอง จึงร้องทูลต่อพระเจ้าเพื่อขอพระเมตตา และการรักษาในสิ่งที่เขาทำพลาดไป (ข้อ 4)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์สำหรับพระพรทั้งหมดที่พระองค์ประทานให้แก่ข้าพระองค์ ขอบคุณสำหรับ พระสัญญาที่จะช่วยกู้ข้าพระองค์ในยามลำบาก เจ็บป่วย และการใส่ร้าย
ลูกา 9:57-10:24
พระพรที่ถูกขัดขวางโดยซาตานและพลังอำนาจที่ชั่วร้าย
- พระพรแห่งการเป็นสาวกพระเยซู
ในฐานะสาวกพระเยซูคุณได้รับพระพรมากกว่ามนุษย์คนใดในประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตอยู่ก่อนพระเยซู พระเยซูตรัสว่า ‘ผู้ที่ได้เห็นสิ่งที่พวกท่านเห็นก็เป็นสุข เพราะเราบอกพวกท่านว่า ผู้เผยพระวจนะหลายคน และกษัตริย์หลายองค์ปรารถนาจะเห็นสิ่งที่ท่านเห็นอยู่นี้ แต่เขาทั้งหลายไม่เคยเห็น และอยากจะได้ยินสิ่ง ที่พวกท่านได้ยิน แต่เขาก็ไม่เคยได้ยิน’ (10:23–24)
|พระพรนั้นยิ่งใหญ่มากเกินกว่าสิ่งใดจะเทียบได้ บางครั้งคุณอาจต้องสละความสะดวกสบาย (9:58) การประนีประนอม (ข้อ 60) และแม้กระทั่งพวกพ้อง (ข้อ 61–62)
|เช่นเดียวกับ ‘เจ็ดสิบสองคน’ คุณมีพระพรอันยิ่งใหญ่ที่พระเยซูส่งออกไปสู่การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ (10:2) คุณมีสิทธิพิเศษในการรักษาคนป่วยและบอกผู้คนว่า ‘แผ่นดินของพระเจ้ามาอยู่ใกล้แค่เอื้อม’ (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
|ไม่ใช่แค่สิบสองคนที่ถูกส่งออกไปเพื่อรักษาคนป่วยและประกาศถึงแผ่นดินพระเจ้า มีถึงเจ็ดสิบสองคน ออกไปและทำอย่างนั้นด้วยเช่นกัน พวกเขาต่างกลับมา ‘ด้วยความยินดี’ (ข้อ 17) พระเยซูทรง ‘ทรงเปรมปรีดิ์ในพระวิญญาณบริสุทธิ์’ (ข้อ 21) ขณะที่พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นพระพรอันแสน วิเศษที่มาถึงสาวกของพระองค์
- การขัดขวางโดยซาตานและพลังอำนาจที่ชั่วร้าย
พระเยซูทรงส่งเราไปเป็น ‘ลูกแกะที่อยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่า’ (ข้อ 3) แต่ศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดในพระคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาใหม่นั้นคือจิตวิญญาณ (‘เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด’, เอเฟซัส 6:12) เมื่อ ‘สาวกเจ็ดสิบสองคนนั้นกลับมาด้วยความยินดีทูลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า แม้แต่พวกผีก็อยู่ใต้บังคับของพวก ข้าพระองค์โดยพระนามของพระองค์” [พระเยซู] ตรัสกับพวกเขาว่า “เราเห็นซาตานตกจากฟ้าเหมือน ฟ้าแลบ นี่แน่ะ เราให้พวกท่านมีสิทธิอำนาจเหยียบงูร้ายและแมงป่อง และให้มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่า ฤทธานุภาพของศัตรูนั้น…”’ (ลูกา 10:17–19) ศัตรูของเราคือซาตานและลูกสมุนของมัน
|ช่างเป็นเรื่องที่น่าสนใจแม้จะเป็นเรื่องทางอ้อม เมื่อพระเยซูคริสต์ทรงตรัสว่าพระองค์เองก็ทรงอยู่ที่นั่น ในขณะนั้นเมื่อซาตานได้ร่วงหล่นจากฟ้าสวรรค์ตั้งแต่ก่อนการทรงสร้างโลก
อีกครั้งที่คุณได้รับชัยชนะตามพระสัญญา ซาตานต้องยอมจำนนต่อพระนามของพระเยซู (ข้อ 17,20) แต่พระเยซูตรัสว่ามีพระพรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นอีกและนั่นก็คือ ‘ชื่อของท่านจดไว้ในสวรรค์’ (ข้อ 20)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ชื่อของข้าพระองค์ถูกจดไว้ในสวรรค์ โปรดช่วยข้าพระองค์ไม่ให้ถูกรั้งไว้ ด้วยโจมตีเพราะพระองค์ได้ทรงประทาน ‘สิทธิอำนาจ ... ให้มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าฤทธานุภาพของศัตรู’ (ข้อ 19)
เฉลยธรรมบัญญัติ 1:1-2:23
พระพรที่ถูกขัดขวางโดยปัญหา ภาระและการวิวาท
- พระพรในช่วงเวลาหลายปีในถิ่นทุรกันดาร คุณกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในตอนนี้หรือไม่? คุณรู้สึกว่าชีวิตเหมือนอยู่ในยุคของถิ่นทุรกันดารหรือเปล่า?
บางครั้งดูเหมือนว่าจะมีความล่าช้า ระหว่างพระสัญญาของพระเจ้าและการสำเร็จจริงตามพระสัญญานั้น เราจะทำอย่างไรในขณะที่กำลังรอคอยให้พระเจ้าทำตามพระสัญญาของพระองค์?
เป็นช่วงเวลาเหล่านี้ ความเชื่อของคุณได้รับการทดสอบ ให้เราเรียนรู้ที่จะวางใจพระเจ้า แสวงหาการทรง สถิตของพระองค์และนมัสการพระองค์เมื่อชีวิตตกอยู่ในความยากลำบาก
พระธรรมเฉลยธรรมบัญญัติเป็นหนึ่งในคำเทศนาที่ยาวที่สุดที่เคยเทศนามา ถือเป็นคำเทศนาที่ยาวที่สุด ในพระคัมภีร์และเป็นคำเทศนาครั้งสุดท้ายของโมเสส
ในหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ เราได้เห็นโมเสสส่งต่อและมอบรายละเอียดต่าง ๆ ไปสู่ประชาชน โมเสสกล่าว ย้ำถึงกฎหมายที่พระเจ้าประทานให้กับประชาชน เป็นการส่งต่อวิถีของพระเจ้าให้คนรุ่นใหม่ ประเด็นสำคัญ อยู่ที่คำว่า ‘แผ่นดิน’ ซึ่งอาจเล็งได้ถึง พระพรจาก ‘แผ่นดินของพระเจ้า’ ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ ซึ่งได้มาจากการอยู่ในพระคริสต์และดำเนินชีวิตภายใต้การปกครองและการครอบครองของพระเจ้า
พระคัมภีร์เป็นเรื่องราวของประชากรของพระเจ้า พระพรจากพระองค์และการครอบครองของพระองค์ คุณได้รับพระพรจากพระเจ้าเมื่อชีวิตอยู่ภายใต้การปกครองของพระองค์ ในช่วงเริ่มต้นของพระธรรมเฉลยธรรมบัญญัติ เราได้รับการย้ำเตือนถึงพระพรของพระเจ้าที่มีต่อประชากรของพระองค์ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ประการแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับอดีต โดยโมเสสกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงอุ้มชูท่าน ดังพ่ออุ้มลูกของตนตลอดทางที่พวกท่านไปนั้น ... พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ได้ทรงอวยพรเจ้าใน งานทุกอย่างที่มือของเจ้าทำ พระองค์ทรงทราบทางที่เจ้าเดินในถิ่นทุรกันดารใหญ่นี้ พระยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้าได้อยู่กับเจ้ามาสี่สิบปีแล้ว เจ้าไม่ขาดสิ่งใดเลย’ (1:31; 2:7)
ประการที่สองเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัจจุบัน โมเสสย้ำเตือนพวกเขาถึงวิธีการที่พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อต่อ พระสัญญาที่มีต่ออับราฮัม ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทรงให้พวกท่านทวีมากขึ้น และ ดูสิ ทุกวันนี้พวกท่านมีจำนวนมากดุจดวงดาวในท้องฟ้า’ (1:10) ในช่วงเริ่มต้นของพระธรรมบทนี้ถึงสี่ ครั้งที่เราพบว่าพระเจ้ากำลังประทานแผ่นดินคานาอันให้กับประชาชนของพระองค์ (ข้อ 8,20,21,25) ช่างเป็นของประทานแห่งพระคุณอันไม่ควรค่าแก่คนของพระเจ้าเสียเลย เช่นเดียวกับพระคุณอันบริสุทธิ์ที่คุณและผมสามารถมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์
ประการที่สาม เป็นเรื่องเกี่ยวกับอนาคต โมเสสพูดถึงพระพรทั้งหมดที่พระเจ้าจะประทานให้กับประชากร ของพระองค์ โมเสสได้อธิษฐานว่า ‘ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่านทั้งหลายทรงทำให้ท่าน ทวีขึ้นพันเท่า และทรงอวยพรท่านดังที่ทรงสัญญากับท่านแล้วนั้น!’ (ข้อ 11) คุณจะได้รับการทวีคูณพระพร จากพระเจ้า เมื่อชีวิตของคุณดำเนินอย่างสัตย์ซื่ออยู่ภายใต้การปกครองของพระองค์
- ถูกขัดขวางโดยปัญหา ภาระและการวิวาท
นอกจากการอวยพรทั้งหมดนี้โมเสสยังเน้นถึงปัญหา ภาระและการวิวาทต่าง ๆ อีกด้วย (ข้อ 12) พระเจ้าตรัสว่า ‘เจ้าพักที่ภูเขานี้นานพอแล้ว …เราได้ตั้งแผ่นดินนั้นไว้ตรงหน้าเจ้าแล้ว จงเข้าไปยึดครอง แผ่นดิน’ (ข้อ 6–8) จริง ๆ ใช้เวลาเดินทางเพียงสิบเอ็ดวัน แต่คนอิสราเอลใช้เวลาถึงสี่สิบปี! ในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาได้พัฒนาท่าทีภายใน และยอมให้ตัวเองได้มีชัยชนะเหนือความกลัวและความท้อใจ (ข้อ 21) การบ่น (ข้อ 27) การเสียใจ (ข้อ 28) และการขัดขืน (ข้อ 26 เป็นต้นไป)
ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้อง ‘มุ่งหน้า’ (ข้อ 7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) แต่โมเสส ไม่ได้สัญญาว่าพวกเขาจะไม่มีปัญหาอะไร อันที่จริงโมเสสได้กล่าวถึง ‘ศัตรู' (ข้อ 42) พวกเขากำลังเผชิญ การสู้รบและการต่อต้านมากมายรออยู่ข้างหน้า กุญแจที่สำคัญก็คือการที่เราติดตามพระยาห์เวห์อย่างสุดใจ (ข้อ 36ข)
เรายังต้องการความเป็นผู้นำและมีวิธีการจัดการที่ดี โมเสสบอกให้พวกเขาเลือกคนที่ ‘มีปัญญา มีความรู้ และมีชื่อเสียง’ (ข้อ 13) เพื่อมอบหมายหน้าที่ให้ การเลือกคนที่เหมาะสมถือเป็นกุญแจสำคัญในการมอบหมายหน้าที่ และเพื่อหลีกเลี่ยงการแบกงานไว้คนเดียว ดังที่นายพลจอร์จ แพตตันกล่าวว่า ‘อย่าบอกคนอื่นถึงวิธีการทำสิ่งต่าง ๆ บอกพวกเขาว่าต้องทำอย่างไรและพวกเขาจะทำให้คุณประหลาดใจกับความเฉลียวฉลาดของพวกเขา’ การมอบหมายงาน คือการมอบหมายงานให้ผู้อื่นปฏิบัติหน้าที่ และรับผิดชอบสูงสุดด้วยความเต็มใจ (ข้อ 9–18)
อย่ายอมให้อีกฝ่ายทำให้คุณผิดหวัง โมเสสกล่าวว่า ‘อย่าครั่นคร้ามหรือกลัวเขาเลย พระยาห์เวห์พระเจ้า ของท่านผู้นำหน้าท่าน พระองค์จะทรงต่อสู้เพื่อท่าน’ (ข้อ 29–30)
ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ไม่ให้ท้อถอยด้วยปัญหา ภาระ และการวิวาท ความกลัว ความท้อใจ หรือการต่อต้าน แต่ขอที่ข้าพระองค์จะติดตามพระองค์อย่างสุดใจและรับพระพรของพระองค์ให้เต็มที่
Pippa Adds
ลูกา 10:19
‘นี่แน่ะ เราให้พวกท่านมีสิทธิอำนาจเหยียบงูร้ายและแมงป่อง และให้มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าฤทธานุภาพของศัตรูนั้น ไม่มีอะไรจะมาทำอันตรายพวกท่านได้เลย’
ฉันพบว่าพระธรรมตอนนี้หนุนใจมากแม้ว่าฉันจะไม่อยากทดสอบก็ตาม!
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)ဤအစီအစဥ္အေၾကာင္း

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
စပ္ဆိုင္ေသာ အစီအစဥ္မ်ား

BibleProject | တမန်တော်ပေါလုအကြောင်းလေ့လာချက်

ဉာဏ်အရာ၌ အသက်ကြီးသောသူ ဖြစ်ကြလော့

ဆာလံကျမ်း ၁၁၉ အရ၊ နှုတ်ကပတ်တော်တရား

ဖတ်သောအရာကို နားလည်ပါသလား

ယေရှု၏ ဘုရားဇာတိတော်ကို အတည်ပြုသောအကြောင်း (၅) ရပ်

BibleProject | ယေရှုနှင့် လူသားမျိုးနွယ်သစ်

ဝိညာဥ်ကြီးထွားခြင်းကို တည်ဆောက်ပေးသော အလေ့အကျင့် (၇)ခု

BibleProject | ကားစင်တင်ခြင်းခံဘုရင်

BibleProject | ဘုရားသခင်၏ထာဝရမေတ္တာ
