YouVersion လိုဂို
ရွာရန္ အိုင္ကြန္

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลနမူနာ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

365 ၏ ေန႔ 94

ไม่มีพระพรใดที่ได้มาอย่างราบรื่น

*‘ไม่มีพระพรใดที่ได้มาอย่างราบรื่น’* เป็นหนึ่งในคติพจน์ของบิชอปแซนดี้ มิลลาร์ ซึ่งเขาได้หนุนใจเราทุกคน ในช่วงเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งตัวแทนของคริสตจักร โฮลี่ ทรินิตี้ บรอมพ์ตั้น ประเทศอังกฤษ เขาสอนเราว่า อย่าท้อแท้กับความยากลำบากที่เราเผชิญเพราะ ‘ไม่มีพระพรใดที่ได้มาอย่างราบรื่น’ เป็นสิ่งที่เขามักหนุนใจเราเสมอ พระเจ้าจะอวยพรคุณด้วยวิธีที่น่าอัศจรรย์และน่าทึ่ง เนื้อหาสำหรับวันนี้เราได้ใคร่ครวญเกี่ยวกับพระสัญญา ของพระเจ้า ขอบเขตและสิทธิพิเศษแห่งพระพรของพระเจ้า อย่างไรก็ตามสิ่งนี้เป็นความจริงในประชากรของพระเจ้าในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม และสาวกของพระเยซู และในชีวิตของคุณก็จะเป็นจริงเช่นกันที่ *‘ไม่มีพระพรใดที่ได้มาอย่างราบรื่น’*

สดุดี 41:1-6

พระพรที่ถูกขัดขวางโดยปัญหา ความเจ็บป่วยและการใส่ร้าย

  1. พระพรมีแด่ผู้ที่ห่วงใยผู้ขัดสน
    พระพรมีแด่ผู้ที่ ‘เอาใจใส่คนจน’ (ข้อ 1) คือผู้ที่คอยห่วงใยผู้อื่น เช่น คนยากจน ผู้หิวโหย คนป่วย คนติดยาเสพติดและคนที่อยู่ในคุก นี่ควรเป็นลักษณะของผู้ที่ติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้า หากคุณห่วงใย ผู้ที่ขัดสนพระเจ้าสัญญาว่าจะทรงช่วยคุณในยามลำบาก ปกป้อง รักษาชีวิตของคุณและอวยพรคุณ (ข้อ 2) พระองค์สัญญาว่าจะทรงเสริมกำลังและเยียวยารักษาคุณ (ข้อ 3) แต่พระพรเหล่านี้จากพระเจ้าอาจไม่ได้มาอย่างราบรื่น

  2. ถูกขัดขวางจากปัญหา ความเจ็บป่วยและการใส่ร้าย
    อาจมี ‘วันยากลำบาก’ (ข้อ 1ข) อาจมี ‘ศัตรู’ (ข้อ 2ข) อาจมีช่วงเวลาที่ ‘ล้มป่วย’ (ข้อ 3) หรืออาจมีศัตรูที่ ‘เขาก็พูดเท็จ ขณะที่ใจของเขาเก็บเรื่องร้ายเมื่อเขาออกไป เขาก็ป่าวร้องไป’ (ข้อ 6)

|การตระหนักว่ามีศัตรูอยู่รอบ ๆ ตัวนั้นจะทำให้คุณระวังตัวมากขึ้น ตัวอย่างเช่นมีบางคนรวมกลุ่มกัน ‘ใส่ร้ายคุณ’ พวกเขากำลังหาเรื่องที่จะติฉินนินทาคุณเพื่อพวกเขาจะได้ ‘ป่าวร้องไป’ แต่พระเจ้าทรงสัญญาที่จะอวยพรคุณ และพระองค์จะไม่มีวัน 'ทอดทิ้ง' คุณ (ข้อ 2ข)

สิ่งที่ทำให้หนุนใจอย่างมากเกี่ยวกับพระธรรมสดุดีคือพระพรแห่งการช่วยกู้นี้ดูเหมือนจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับความดีงามที่คุณทำเสมอไป ดาวิดตระหนักดีถึงความบาปของตนเอง จึงร้องทูลต่อพระเจ้าเพื่อขอพระเมตตา และการรักษาในสิ่งที่เขาทำพลาดไป (ข้อ 4)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์สำหรับพระพรทั้งหมดที่พระองค์ประทานให้แก่ข้าพระองค์ ขอบคุณสำหรับ พระสัญญาที่จะช่วยกู้ข้าพระองค์ในยามลำบาก เจ็บป่วย และการใส่ร้าย

ลูกา 9:57-10:24

พระพรที่ถูกขัดขวางโดยซาตานและพลังอำนาจที่ชั่วร้าย

  1. พระพรแห่งการเป็นสาวกพระเยซู
    ในฐานะสาวกพระเยซูคุณได้รับพระพรมากกว่ามนุษย์คนใดในประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตอยู่ก่อนพระเยซู พระเยซูตรัสว่า ‘ผู้ที่ได้เห็นสิ่งที่พวกท่านเห็นก็เป็นสุข เพราะเราบอกพวกท่านว่า ผู้เผยพระวจนะหลายคน และกษัตริย์หลายองค์ปรารถนาจะเห็นสิ่งที่ท่านเห็นอยู่นี้ แต่เขาทั้งหลายไม่เคยเห็น และอยากจะได้ยินสิ่ง ที่พวกท่านได้ยิน แต่เขาก็ไม่เคยได้ยิน’ (10:23–24)

|พระพรนั้นยิ่งใหญ่มากเกินกว่าสิ่งใดจะเทียบได้ บางครั้งคุณอาจต้องสละความสะดวกสบาย (9:58) การประนีประนอม (ข้อ 60) และแม้กระทั่งพวกพ้อง (ข้อ 61–62)

|เช่นเดียวกับ ‘เจ็ดสิบสองคน’ คุณมีพระพรอันยิ่งใหญ่ที่พระเยซูส่งออกไปสู่การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ (10:2) คุณมีสิทธิพิเศษในการรักษาคนป่วยและบอกผู้คนว่า ‘แผ่นดินของพระเจ้ามาอยู่ใกล้แค่เอื้อม’ (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

|ไม่ใช่แค่สิบสองคนที่ถูกส่งออกไปเพื่อรักษาคนป่วยและประกาศถึงแผ่นดินพระเจ้า มีถึงเจ็ดสิบสองคน ออกไปและทำอย่างนั้นด้วยเช่นกัน พวกเขาต่างกลับมา ‘ด้วยความยินดี’ (ข้อ 17) พระเยซูทรง ‘ทรงเปรมปรีดิ์ในพระวิญญาณบริสุทธิ์’ (ข้อ 21) ขณะที่พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นพระพรอันแสน วิเศษที่มาถึงสาวกของพระองค์

  1. การขัดขวางโดยซาตานและพลังอำนาจที่ชั่วร้าย
    พระเยซูทรงส่งเราไปเป็น ‘ลูกแกะที่อยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่า’ (ข้อ 3) แต่ศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดในพระคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาใหม่นั้นคือจิตวิญญาณ (‘เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด’, เอเฟซัส 6:12) เมื่อ ‘สาวกเจ็ดสิบสองคนนั้นกลับมาด้วยความยินดีทูลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า แม้แต่พวกผีก็อยู่ใต้บังคับของพวก ข้าพระองค์โดยพระนามของพระองค์” [พระเยซู] ตรัสกับพวกเขาว่า “เราเห็นซาตานตกจากฟ้าเหมือน ฟ้าแลบ นี่แน่ะ เราให้พวกท่านมีสิทธิอำนาจเหยียบงูร้ายและแมงป่อง และให้มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่า ฤทธานุภาพของศัตรูนั้น…”’ (ลูกา 10:17–19) ศัตรูของเราคือซาตานและลูกสมุนของมัน

|ช่างเป็นเรื่องที่น่าสนใจแม้จะเป็นเรื่องทางอ้อม เมื่อพระเยซูคริสต์ทรงตรัสว่าพระองค์เองก็ทรงอยู่ที่นั่น ในขณะนั้นเมื่อซาตานได้ร่วงหล่นจากฟ้าสวรรค์ตั้งแต่ก่อนการทรงสร้างโลก

อีกครั้งที่คุณได้รับชัยชนะตามพระสัญญา ซาตานต้องยอมจำนนต่อพระนามของพระเยซู (ข้อ 17,20) แต่พระเยซูตรัสว่ามีพระพรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นอีกและนั่นก็คือ ‘ชื่อของท่านจดไว้ในสวรรค์’ (ข้อ 20)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระองค์ที่ชื่อของข้าพระองค์ถูกจดไว้ในสวรรค์ โปรดช่วยข้าพระองค์ไม่ให้ถูกรั้งไว้ ด้วยโจมตีเพราะพระองค์ได้ทรงประทาน ‘สิทธิอำนาจ ... ให้มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าฤทธานุภาพของศัตรู’ (ข้อ 19)

เฉลยธรรมบัญญัติ 1:1-2:23

พระพรที่ถูกขัดขวางโดยปัญหา ภาระและการวิวาท

  1. พระพรในช่วงเวลาหลายปีในถิ่นทุรกันดาร คุณกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในตอนนี้หรือไม่? คุณรู้สึกว่าชีวิตเหมือนอยู่ในยุคของถิ่นทุรกันดารหรือเปล่า?

บางครั้งดูเหมือนว่าจะมีความล่าช้า ระหว่างพระสัญญาของพระเจ้าและการสำเร็จจริงตามพระสัญญานั้น เราจะทำอย่างไรในขณะที่กำลังรอคอยให้พระเจ้าทำตามพระสัญญาของพระองค์?

เป็นช่วงเวลาเหล่านี้ ความเชื่อของคุณได้รับการทดสอบ ให้เราเรียนรู้ที่จะวางใจพระเจ้า แสวงหาการทรง สถิตของพระองค์และนมัสการพระองค์เมื่อชีวิตตกอยู่ในความยากลำบาก

พระธรรมเฉลยธรรมบัญญัติเป็นหนึ่งในคำเทศนาที่ยาวที่สุดที่เคยเทศนามา ถือเป็นคำเทศนาที่ยาวที่สุด ในพระคัมภีร์และเป็นคำเทศนาครั้งสุดท้ายของโมเสส

ในหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติ เราได้เห็นโมเสสส่งต่อและมอบรายละเอียดต่าง ๆ ไปสู่ประชาชน โมเสสกล่าว ย้ำถึงกฎหมายที่พระเจ้าประทานให้กับประชาชน เป็นการส่งต่อวิถีของพระเจ้าให้คนรุ่นใหม่ ประเด็นสำคัญ อยู่ที่คำว่า ‘แผ่นดิน’ ซึ่งอาจเล็งได้ถึง พระพรจาก ‘แผ่นดินของพระเจ้า’ ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ ซึ่งได้มาจากการอยู่ในพระคริสต์และดำเนินชีวิตภายใต้การปกครองและการครอบครองของพระเจ้า

พระคัมภีร์เป็นเรื่องราวของประชากรของพระเจ้า พระพรจากพระองค์และการครอบครองของพระองค์ คุณได้รับพระพรจากพระเจ้าเมื่อชีวิตอยู่ภายใต้การปกครองของพระองค์ ในช่วงเริ่มต้นของพระธรรมเฉลยธรรมบัญญัติ เราได้รับการย้ำเตือนถึงพระพรของพระเจ้าที่มีต่อประชากรของพระองค์ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

ประการแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับอดีต โดยโมเสสกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงอุ้มชูท่าน ดังพ่ออุ้มลูกของตนตลอดทางที่พวกท่านไปนั้น ... พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ได้ทรงอวยพรเจ้าใน งานทุกอย่างที่มือของเจ้าทำ พระองค์ทรงทราบทางที่เจ้าเดินในถิ่นทุรกันดารใหญ่นี้ พระยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้าได้อยู่กับเจ้ามาสี่สิบปีแล้ว เจ้าไม่ขาดสิ่งใดเลย’ (1:31; 2:7)

ประการที่สองเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัจจุบัน โมเสสย้ำเตือนพวกเขาถึงวิธีการที่พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อต่อ พระสัญญาที่มีต่ออับราฮัม ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทรงให้พวกท่านทวีมากขึ้น และ ดูสิ ทุกวันนี้พวกท่านมีจำนวนมากดุจดวงดาวในท้องฟ้า’ (1:10) ในช่วงเริ่มต้นของพระธรรมบทนี้ถึงสี่ ครั้งที่เราพบว่าพระเจ้ากำลังประทานแผ่นดินคานาอันให้กับประชาชนของพระองค์ (ข้อ 8,20,21,25) ช่างเป็นของประทานแห่งพระคุณอันไม่ควรค่าแก่คนของพระเจ้าเสียเลย เช่นเดียวกับพระคุณอันบริสุทธิ์ที่คุณและผมสามารถมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์

ประการที่สาม เป็นเรื่องเกี่ยวกับอนาคต โมเสสพูดถึงพระพรทั้งหมดที่พระเจ้าจะประทานให้กับประชากร ของพระองค์ โมเสสได้อธิษฐานว่า ‘ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่านทั้งหลายทรงทำให้ท่าน ทวีขึ้นพันเท่า และทรงอวยพรท่านดังที่ทรงสัญญากับท่านแล้วนั้น!’ (ข้อ 11) คุณจะได้รับการทวีคูณพระพร จากพระเจ้า เมื่อชีวิตของคุณดำเนินอย่างสัตย์ซื่ออยู่ภายใต้การปกครองของพระองค์

  1. ถูกขัดขวางโดยปัญหา ภาระและการวิวาท
    นอกจากการอวยพรทั้งหมดนี้โมเสสยังเน้นถึงปัญหา ภาระและการวิวาทต่าง ๆ อีกด้วย (ข้อ 12) พระเจ้าตรัสว่า ‘เจ้าพักที่ภูเขานี้นานพอแล้ว …เราได้ตั้งแผ่นดินนั้นไว้ตรงหน้าเจ้าแล้ว จงเข้าไปยึดครอง แผ่นดิน’ (ข้อ 6–8) จริง ๆ ใช้เวลาเดินทางเพียงสิบเอ็ดวัน แต่คนอิสราเอลใช้เวลาถึงสี่สิบปี! ในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาได้พัฒนาท่าทีภายใน และยอมให้ตัวเองได้มีชัยชนะเหนือความกลัวและความท้อใจ (ข้อ 21) การบ่น (ข้อ 27) การเสียใจ (ข้อ 28) และการขัดขืน (ข้อ 26 เป็นต้นไป)

ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้อง ‘มุ่งหน้า’ (ข้อ 7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) แต่โมเสส ไม่ได้สัญญาว่าพวกเขาจะไม่มีปัญหาอะไร อันที่จริงโมเสสได้กล่าวถึง ‘ศัตรู' (ข้อ 42) พวกเขากำลังเผชิญ การสู้รบและการต่อต้านมากมายรออยู่ข้างหน้า กุญแจที่สำคัญก็คือการที่เราติดตามพระยาห์เวห์อย่างสุดใจ (ข้อ 36ข)

เรายังต้องการความเป็นผู้นำและมีวิธีการจัดการที่ดี โมเสสบอกให้พวกเขาเลือกคนที่ ‘มีปัญญา มีความรู้ และมีชื่อเสียง’ (ข้อ 13) เพื่อมอบหมายหน้าที่ให้ การเลือกคนที่เหมาะสมถือเป็นกุญแจสำคัญในการมอบหมายหน้าที่ และเพื่อหลีกเลี่ยงการแบกงานไว้คนเดียว ดังที่นายพลจอร์จ แพตตันกล่าวว่า ‘อย่าบอกคนอื่นถึงวิธีการทำสิ่งต่าง ๆ บอกพวกเขาว่าต้องทำอย่างไรและพวกเขาจะทำให้คุณประหลาดใจกับความเฉลียวฉลาดของพวกเขา’ การมอบหมายงาน คือการมอบหมายงานให้ผู้อื่นปฏิบัติหน้าที่ และรับผิดชอบสูงสุดด้วยความเต็มใจ (ข้อ 9–18)

อย่ายอมให้อีกฝ่ายทำให้คุณผิดหวัง โมเสสกล่าวว่า ‘อย่าครั่นคร้ามหรือกลัวเขาเลย พระยาห์เวห์พระเจ้า ของท่านผู้นำหน้าท่าน พระองค์จะทรงต่อสู้เพื่อท่าน’ (ข้อ 29–30)

ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ไม่ให้ท้อถอยด้วยปัญหา ภาระ และการวิวาท ความกลัว ความท้อใจ หรือการต่อต้าน แต่ขอที่ข้าพระองค์จะติดตามพระองค์อย่างสุดใจและรับพระพรของพระองค์ให้เต็มที่

Pippa Adds

ลูกา 10:19

‘นี่แน่ะ เราให้พวกท่านมีสิทธิอำนาจเหยียบงูร้ายและแมงป่อง และให้มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าฤทธานุภาพของศัตรูนั้น ไม่มีอะไรจะมาทำอันตรายพวกท่านได้เลย’

ฉันพบว่าพระธรรมตอนนี้หนุนใจมากแม้ว่าฉันจะไม่อยากทดสอบก็ตาม!

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

ဤအစီအစဥ္အေၾကာင္း

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More