Logo de YouVersion
Icono de búsqueda

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลMuestra

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DÍA 47 DE 365

ให้สิ่งที่สำคัญที่สุดมาก่อน

ไม่นานหลังจากที่เราแต่งงานกัน พิพพากับผมได้ไปสัมมนาเกี่ยวกับคู่สมรส หนึ่งในเนื้อหาที่ผมจะไม่มีวันลืมเลย คือเรื่องการจัดลำดับความสำคัญ เราได้รับการ์ดมาห้าใบ โดยแต่ละใบจะมีคำว่า “การงาน” “พระเจ้า” “งานรับใช้” “สามี / ภรรยา” และ “ลูก ๆ” เราถูกขอให้*จัดลำดับสิ่งเหล่านั้นตามลำดับความสำคัญ* เมื่อได้ใคร่ครวญแล้วผมกลับพบว่าผมจัดลำดับผิดมาโดยตลอด ผมให้ความสำคัญกับ “พระเจ้า” เป็นอันดับแรก (อย่างน้อยลำดับนั้นก็ถูกต้อง แต่นั้นเป็นอะไรที่ชัดเจนอยู่แล้ว!) ตามมาด้วยงานรับใช้ ภรรยา การงาน และลูก ๆ ในท้ายที่สุด (เนื่องจากเรายังไม่มีลูกในตอนนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงดูเหมือนไม่สำคัญมากเท่าไหร่!) เมื่อผู้นำสัมมนาพาเราจัดลำดับความสำคัญเหล่านี้ ผมได้เห็นชัดเลยว่าลำดับความสำคัญของผมควรเป็นดังนี้ อันดับแรกคือพระเจ้า จากนั้นภรรยาของผม (การทรงเรียกหลักของผม) ตามด้วยลูก ๆ ของเรา และการงาน (ซึ่งเป็นพันธกิจหลักของผม) และท้ายที่สุดคืองานรับใช้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าสำคัญมากทีเดียว แต่ไม่ควรได้รับอนุญาตให้แทนที่ความรับผิดชอบหลักในชีวิตของผม ดังที่นักปรัชญาเกอเธ่กล่าวไว้ว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดต้องไม่อยู่ในความเมตตาของสิ่งที่สำคัญน้อยที่สุด” *ให้สิ่งที่สำคัญที่สุดมาก่อน* สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพระเจ้าควรเกิดขึ้นเป็นอันดับแรกในชีวิตของเรา

สดุดี 22:12-21

ความสำคัญของการติดสนิท

ความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้าควรเป็นสิ่งสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ในพระธรรมสดุดีนี้เราจะเห็นว่าความสำคัญอันดับแรกของผู้เขียนบทเพลงสดุดีนั้นคือความสัมพันธ์ของเขากับพระเจ้า (และพยากรณ์เกี่ยวกับความสำคัญอันดับแรกของพระเยซูด้วยเช่นกัน)

ประตูที่นำเราผ่านไปสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพระเจ้าคือไม้กางเขน เช่นเดียวกับส่วนแรกของพระธรรมสดุดี เราจะเห็นความต่อเนื่องของคำพยากรณ์เกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูที่สำเร็จเป็นจริงในพันธสัญญาใหม่

ราวกับว่าบทเพลงสดุดีนี้ถูกเขียนออกมาจากบุคคลหนึ่งโดยมีคนแขวนเขาไว้บนไม้กางเขน หลายร้อยปีก่อนที่ชาวโรมันจะคิดค้นการตรึงกางเขนด้วยซ้ำ เป็นคำพยากรณ์ที่แม่นยำเป็นพิเศษเกี่ยวกับความทุกข์ทรมานของพระเยซูซึ่งอธิบายถึงความโหดร้ายของการตรึงกางเขน

  1. “กระดูกทั้งสิ้นของข้าพระองค์เคลื่อนหลุดจากที่…ลิ้นของข้าพระองค์ก็เกาะติดที่ขากรรไกร” (ข้อ 14ก, 15ข, ยอห์น 19:28)
  2. “พวกเขาแทงมือแทงเท้าข้าพระองค์” (สดุดี 22:16ค, ยอห์น 19:37)
  3. “คนทำชั่วกลุ่มหนึ่งโอบล้อมข้าพระองค์ ข้าพระองค์นับกระดูกของข้าพระองค์ได้ทุกชิ้น พวกเขาจ้องมองและยิ้มเยาะข้าพระองค์” (สดุดี 22:16ข–17ข, ลูกา 23:17,35)
  4. “พวกเขาเอาเสื้อผ้าของข้าพระองค์มาแบ่งกันส่วนเครื่องนุ่งห่มของข้าพระองค์นั้นเขาก็จับฉลากกัน” (สดุดี 22:18, ยอห์น 19:23–24)

อย่างที่เราเห็นเมื่อวานนี้ ความทุกข์ทรมานของพระเยซูบนไม้กางเขนนั้นยิ่งใหญ่กว่าความน่ากลัวของการตรึงกางเขนเสียอีก พระองค์ทรงยอมรับเอาความผิดบาปของเราและยอมถูกพระเจ้าทอดทิ้งแทนเรา (สดุดี 22:1) พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์เพื่อที่คุณจะได้กลับคืนสู่ความสัมพันธ์กับพระเจ้าอีกครั้ง

ขอบคุณพระเยซูคริสต์เจ้า ที่พระองค์ทรงเผชิญความทุกข์ทรมานจากการตรึงกางเขนเพื่อข้าพระองค์เพื่อให้ความสัมพันธ์ของข้าพระองค์กับพระเจ้าได้รับการฟื้นฟูและกลายเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับหนึ่งในชีวิตของข้าพระองค์

มาระโก 1:29-2:17

ความสำคัญของพระเยซู

ผมรักพระเยซู พระองค์ทรงน่าทึ่งและน่าดึงดูดใจอย่างน่าอัศจรรย์ ทรงรักผู้คนและเปี่ยมไปด้วย “ความสงสาร” ต่อพวกเขาเหล่านั้น (1:41) พวกเขาต่างรักพระองค์ “มีคนจากทุกหนแห่งมาหาพระองค์” (ข้อ 45) ทุกคนอยากพบพระเยซู “ทุกคนกำลังตามหาพระองค์” (ข้อ 37)

พวกเขาพร้อมทำทุกอย่างเพื่อนำคนอื่นมาพบพระเยซูด้วยเช่นกัน (2:4) ฝูงชนทั้งหมดก็มาเฝ้าพระองค์ (ข้อ 13) และเมื่อพระองค์พูดกับพวกเขาว่า “จงตามเรามาเถิด” พวกเขาก็ติดตามพระองค์ไป (ข้อ 14) บ้างก็พาคนป่วยมาหาพระเยซูและพระองค์ก็รักษาพวกเขาให้หาย (1:32–34) รวมถึงแม่ยายของซีโมนด้วย (ข้อ 30–31) พระองค์ยังรักแม้กระทั่งคนเก็บภาษี คนบาปและทรงปีติยินดีมาก ที่ได้ไปร่วมทานอาหารเย็นกับพวกเขา (ข้อ 15) พระองค์มาเพื่อ "คนบาป" อย่างเราจริง ๆ (ข้อ 17)

คุณสามารถบอกลำดับความสำคัญของคนอื่น ๆ จากเวลาที่พวกเขาใช้ไป ในข้อนี้เราจะเห็นว่าพระเยซูทรงใช้เวลาของพระองค์อย่างไร

1. อธิษฐานต่อพระเจ้า

คนส่วนใหญ่มักจะไม่ตื่นเช้ามากนัก เว้นแต่หากพวกเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ สิ่งสำคัญอันดับแรกของพระเยซูคือความสัมพันธ์ของพระองค์กับพระเจ้าพระบิดา “ในเวลาเช้ามืดพระองค์ทรงลุกขึ้นเสด็จออกไปยังที่สงบ และทรงอธิษฐานที่นั่น” (ข้อ 35) สิ่งนี้ท้าทายให้เราทุกคนตื่นแต่เช้าหา “จุดที่เงียบสงบ” (พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) และอธิษฐาน

โดยส่วนตัวแล้ว ผมพบวิธีเดียวที่จะทำให้ตื่นเช้าเป็นประจำสม่ำเสมอนั้นก็คือ เข้านอนให้เร็วขึ้นนั่นเอง

2. ประกาศถึงแผ่นดินสวรรค์

พระเยซูตรัสว่า “ให้พวกเราไปยังเมืองที่อยู่ใกล้เคียง เราจะได้ประกาศที่นั่นด้วย การที่เรามาก็เพื่อสิ่งนี้” (ข้อ 38) ทรงประกาศข่าวประเสริฐเกี่ยวกับแผ่นดินขององค์พระผู้เป็นเจ้าและความจำเป็นที่ผู้คนต้อง “กลับใจใหม่ และเชื่อข่าวประเสริฐ” (ข้อ 14–15) เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการให้อภัย (2:5,10) และเป็นข่าวประเสริฐสำหรับ “คนบาป” โดยเฉพาะ (ข้อ 17) ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องได้ยิน สำหรับพระเยซู การให้อภัยมีความสำคัญมากกว่าการรักษาด้วยซ้ำ

3. การประกาศที่ทรงพลัง

พระเยซูทรง “สงสาร” (1:41) และด้วยความรักที่มีต่อผู้คนที่พระองค์จึงต้องการนำข่าวประเสริฐเรื่องการให้อภัยมาสู่พวกเขาก่อน แต่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คำสอนเท่านั้น พระองค์ทรงสำแดงผ่านการรักษาคนป่วย (ข้อ 40–42, 2:8–12) และขับผีวิญญาณชั่ว (1:39) พระเยซูทรงสำแดงให้เห็นว่าพระองค์เป็นผู้ที่มีสิทธิอำนาจและมีฤทธิ์อำนาจในการยกโทษบาปได้ (2:9–11) ผ่านการรักษาคนง่อย

พระเยซูทรงจัดลำดับความสำคัญอย่างชัดเจน พระเจ้าเป็นอันดับหนึ่ง และอันดับที่สองคือผู้คน และที่เหลือก็คือการสำแดงออกมาอย่างเป็นรูปธรรมถึงการให้ความสำคัญกับสองสิ่งนี้

ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ให้ความสำคัญกับการติดสนิทพระองค์ ขอบคุณพระเจ้าที่ข้าพระองค์สามารถประกาศข่าวประเสริฐเรื่องการให้อภัยแก่ผู้อื่นได้ โปรดเจิมข้าพระองค์ด้วยความเมตตาสงสารขณะที่ได้อธิษฐานเผื่อผู้ป่วยและแสวงหาผู้ที่ต้องการจะได้รับการปลดปล่อย

อพยพ 19:1-20:26

ความสำคัญของความรัก

แม้ว่าพระเจ้าจะเชิญคุณให้ใกล้ชิดสนิทกับพระองค์ แต่อย่าลืมความอัศจรรย์ของความบริสุทธิ์และฤทธิ์อำนาจของพระองค์ พระเจ้าทรงชื่นชมในตัวคุณมาก ดังนั้นพระองค์จะไม่ปล่อยให้คุณมีน้อยกว่าที่คุณเป็น พระองค์ต้องการให้เราเรียนรู้ความบริสุทธิ์จากพระองค์

ตั้งแต่อพยพ 19 ถึง กันดารวิถี 10:10 ประชากรของพระเจ้าอยู่ในจุดเดียวกันที่จะต้องเรียนรู้การเป็นประชากรของพระเจ้า พวกเขาเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ความบริสุทธิ์และฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า พวกเขาไม่สามารถแตะต้องภูเขาที่พระองค์ทรงสถิตอยู่ได้ จากนั้นพระองค์ตรัสกับพวกเขาเกี่ยวกับลำดับความสำคัญของพวกเขาผ่านบัญญัติสิบประการ

1. พระเจ้ารักคุณ

ในบริบทพระธรรมบทที่ 20:2 “เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ผู้ได้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ คือจากดินแดนทาส” พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าที่สำแดงความรักต่อคนพันชั่วอายุคน (ข้อ 6) และเราได้เห็นภาพความรักของพระเจ้าในพระธรรมตอนก่อนหน้านี้ ที่พระเจ้าตรัสว่า “เราชูพวกเจ้าขึ้นดุจดังด้วยปีกนกอินทรี เพื่อนำพวกเจ้ามาถึงเรา” (19:4) พระองค์ยังตรัสอีกว่า “พวกเจ้าจะเป็นของล้ำค่าของเรา...” (ข้อ 5) เราสามารถสำแดงความรักของเราได้โดยการตอบสนองต่อความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ในบริบทของบัญญัติสิบประการ คือ ความรักที่พระเจ้ามีต่อคุณ บางคนพลาดข้อเท็จจริงนี้และมองว่าเป็นเพียงกฎเกณฑ์ พระเจ้าประทานพระบัญญัติเพื่อเป็นการสำแดงความรักที่มีต่อคุณ ให้เราตอบสนองความรักของพระเจ้าโดยการเชื่อฟังและทำตามพระบัญญัติของพระองค์

2. รักพระเจ้า

บัญญัติสี่ประการแรกเกี่ยวกับวิธีที่เราตอบสนองต่อความรักของพระเจ้าโดยการรักพระองค์ “เรารักก็เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน” (1 ยอห์น 4:19) ความรักของเราคือการมีเอกสิทธิ์ (อพยพ 20:3–4) ยำเกรง (ข้อ 7) และสำแดงผ่านการใช้เวลากับพระองค์ (ข้อ 10)

3. รักผู้อื่น

บัญญัติหกข้อสุดท้ายเกี่ยวกับความรักที่เรามีต่อผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของเรา (ข้อ 12) สามี / ภรรยา (ข้อ 14) และเพื่อนบ้านของเรา “ห้ามฆ่าคน อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา อย่าลักทรัพย์ อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน อย่าโลภครัวเรือนของเพื่อนบ้านหรือภรรยาของเพื่อนบ้าน หรือทาสทาสีของเขา” (ข้อ 13–17, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

พระเยซูทรงสรุปไว้ดังนี้ว่า “จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่านด้วยสุดจิตของท่านและด้วยสุดความคิดของท่าน” นั่นแหละเป็นพระบัญญัติข้อสำคัญอันดับแรก ข้อที่สองก็เหมือนกัน คือ “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” ธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับพระบัญญัติสองข้อนี้ (มัทธิว 22:37–40)

บัญญัติสิบประการนี้ไม่ใช่บันไดที่ผู้คนต้องปีนขึ้นไปเพื่อเข้าสู่การทรงสถิตของพระเจ้า แต่เป็นรูปแบบชีวิตที่พระเจ้าประทานให้สำหรับผู้ที่เข้าถึงพระคุณและการไถ่ของพระองค์ ไม่ได้ให้ไว้เพื่อจำกัดอิสระภาพของคุณ แต่เพื่อเป็นการป้องกันต่างหาก สิ่งเหล่านี้ช่วยให้คุณมีอิสระในการดำเนินชีวิตในความสัมพันธ์กับพระเจ้า สำแดงให้คุณเห็นถึงวิธีดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์เช่นเดียวกับที่พระเจ้าทรงบริสุทธิ์ ความรักของคุณที่มีต่อพระเจ้าได้หลั่งไหลออกมาจากความรักของพระเจ้าที่มีต่อคุณ และถือเป็นการตอบสนองต่อความรักของพระเจ้าที่มีต่อคุณด้วยเช่นกัน

ข้าแต่พระบิดา วันนี้ข้าพระองค์นมัสการด้วยความเคารพและยำเกรง ขอบคุณพระองค์ที่ทรงยกชูข้าพระองค์ไว้บนปีกของนกอินทรีและนำมาหาพระองค์ ขอบคุณพระองค์ที่ทรงบอกว่าข้าพระองค์เป็นสมบัติล้ำค่าของพระองค์ โปรดช่วยให้สิ่งสำคัญอันดับแรกของข้าพระองค์คือการนมัสการและรักพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ และให้ข้าพระองค์รักคนอื่นโดยไม่มีเงื่อนไขในแบบที่พระองค์ทรงรักข้าพระองค์

Pippa Adds

“ในเวลาเช้ามืดพระองค์ทรงลุกขึ้นเสด็จออกไปยังที่สงบ และทรงอธิษฐานที่นั่น” (มาระโก 1:35)

ฉันถูกท้าทายด้วยคำว่า “ในเวลาเช้ามืด” ฉันไม่ค่อยชอบที่มันเป็นตอนเช้าและยิ่งแย่ลงในขณะที่มัน “ยังมืด” อยู่ การนอนอยู่บนที่นอนอันอบอุ่นเป็นการทดลองที่ยากเกินจะต้านทานได้ แต่ฉันตระหนักดีว่า นั่นอาจเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการค้นพบความสงบสุข ถ้าพระเยซูตื่นแต่เช้าเพื่ออธิษฐาน อย่างน้อยฉันก็ควรพยายามทำเช่นเดียวกัน

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

Acerca de este Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More