พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลနမူနာ

สามวิธีในการเอาชนะความชั่วร้าย
ในสุนทรพจน์ครั้งสุดท้ายของมาร์ติน ลูเธอร์ คิง เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 1968 เขาย้ำว่า ‘*เราจะชนะ*’ ซ้ำแล้วซ้ำอีก เขากำลังสะท้อนคำของนักร้องโฟล์กคนหนึ่ง นามว่า โจแอน บาเอส ผู้ซึ่งพาคน 300,000 คน ร้องเพลง ‘*เราจะชนะ*’ ในปี 1963 เพลงนี้พูดถึงการเอาชนะ และการค้นพบความหวัง อนาคต ท่ามกลางความยากลำบากแสนสาหัส ตลอดทั้งปีนี้ เมื่อเราได้ศึกษาพระคัมภีร์ตลอดทั้งเล่ม เราได้เห็นว่าเราไม่ควรคาดหวังว่าชีวิตจะเป็นเรื่องง่าย พระคัมภีร์เป็นความจริงสำหรับชีวิต*จริง* ชีวิตประกอบไปด้วยการต่อสู้สารพัดรูปแบบ การทดลอง การทดลอง การล่อลวงให้หลงไป ความยากลำบาก และการปะทะ แต่ในพระคริสต์ คุณสามารถเป็น *ผู้มีชัย*ได้สดุดี 145:8-13ก
ความรักของพระเจ้าชนะทุกสิ่ง
ความรักคือพลังที่มีพลานุภาพมากที่สุดในโลก เราเอาชนะผ่านทางความรัก นี่คือข้อความของมาร์ติน ลูเธอร์ คิง ผู้ที่กล่าวไว้ว่า ‘ความมืดไม่สามารถขับไล่ความมืดได้ มีเพียงความสว่างเท่านั้นที่ทำได้ ความเกลียดชังไม่สามารถขับไล่ความเกลียดชังออกไปได้ มีเพียงแค่ความรักเท่านั้นที่สามารถทำได้’
พระเจ้าคือแหล่งแห่งความรัก พระองค์ทรง ‘พระกรุณา’ ‘เต็มไปด้วยความรัก’ (ข้อ 8) ‘พระกรุณาของพระองค์อยู่เหนือพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์’ (ข้อ 9) สิ่งที่เอาชนะมารได้คือความรักของพระเจ้า
ในทุกความสัมพันธ์ของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณได้เผชิญกับความยากลำบากอันใหญ่หลวง ให้เราเลียนแบบพระเจ้า ทรงมี ‘พระคุณและทรงพระกรุณา กริ้วช้าและทรงมีความรักมั่นคงอย่างอุดม’ (ข้อ 8)
ความรักของพระเจ้าไม่ใช่ความรักที่อ่อนแอหรือเปราะบาง แต่ได้รับการค้ำจุนโดยฤทธิ์อำนาจและฤทธานุภาพของพระองค์ ประชากรของพระเจ้าจะ ‘กล่าวถึงพระสิริแห่งราชอาณาจักรของพระองค์ และเล่าถึงกิจการอันทรงอานุภาพของพระองค์ เพื่อให้บรรดาบุตรของมนุษย์ทราบถึงกิจการอันทรอานุภาพ..’ (ข้อ 11-12) นี่คือสิ่งที่คุณสามารถยึดมั่นได้ ‘ตลอดทุกชั่วชาติพันธุ์’ เพราะอาณาจักรของพระเจ้านั้นเป็น ‘ราชอาณาจักรนิรันดร์’ (ข้อ 13)
ดังที่เขาประกาศความรักของพระเจ้าและอำนาจของพระองค์ด้วยกัน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ดาวิดหันมาสรรเสริญพระเจ้า: ‘พระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์จะขอบพระคุณพระองค์ และผู้จงรักภักดีทั้งสิ้นของพระองค์จะถวายสาธุการแด่พระองค์’ (ข้อ 10)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่แม้ว่าการต่อสู้ในชีวิตนี้จะใหญ่เพียงใด พวกเราจะเอาชนะได้ และมีความสุขกับความงามที่เต็มไปด้วยสง่าราศีของอาณาจักรของพระองค์ตลอดไป
วิวรณ์ 12:1-13:1ก
พระเยซูทรงชนะมาร
บางครั้ง คุณยังรู้สึกผิดอยู่ แม้ว่าอธิษฐานสารภาพและทูลขอการอภัยไปแล้วบ้างไหม? บางครั้งคุณเคยรู้สึกแย่กับตัวเองแบบไม่มีเหตุผลบ้างหรือไม่? คุณเคยรู้สึกถึงการถูกกล่าวโทษอย่างไม่ชัดเจน คลุมเครือบ้างไหม?
นี่เป็นหนึ่งในวิธีที่มารทำงาน มันคือ ‘ผู้กล่าวหา’ (12:10) คำในภาษาฮีบรูสำหรับซาตาน หมายถึง ‘ผู้กล่าวหา’ หรือ ‘คนที่ใส่ร้าย’ มันกล่าวหาพระเจ้าต่อหน้าประชาชน พระเจ้าถูกตำหนิในทุกสิ่ง มันกล่าวหาว่าไว้ใจพระเจ้าไม่ได้
มันยังกล่าวหาคริสเตียนจำเพาะพระพักตร์พระเจ้าอีกด้วย มันปฏิเสธอำนาจแห่งการตายของพระเยซู กล่าวโทษคุณและทำให้คุณรู้สึกผิด โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นบาปที่เจาะจง แต่เป็นความรู้สึกผิดอย่างกว้างๆ และคลุมเครือ ในทางตรงกันข้าม เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเร้าใจเราให้สำนึกบาปพระองค์จะตรัสกับเราอย่างเจาะจงเสมอ
พระธรรมตอนนี้บอกเราว่า จะสามารถเอาชนะมารได้อย่างไร พระธรรมวิวรณ์เปิดเผยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหลังเหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์และเปิดเผยสิ่งที่อยู่ภายหน้า หลายต่อหลายครั้งยอห์นได้สรุปถึงเรื่องราวของการเสด็จมาครั้งแรกของพระคริสต์จนถึงการเสด็จมาครั้งที่ 2 ของพระองค์ ในแต่ละครั้งมีความขัดแย้งและการข่มเหง แต่ท้ายที่สุดแล้วชัยชนะและการเฉลิมฉลองก็อยู่ที่นั่น
ผู้มีบทบาทสำคัญสามคนในบทที่ 12:
-
พระบุตร
พระเยซูคือ ‘พระบุตร ผู้ที่จะครอบครองดูแลประชาชาติ’ (ข้อ 5ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระองค์ได้ ‘เข้าเฝ้าพระเจ้ายังพระบัลลังก์ของพระองค์’ (ข้อ 5ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) -
มาร
มารถูกอธิบายไว้ในภาพของ ‘พญานาคสีแดง’ (ข้อ 3) อัตลักษณ์ของมันได้ถูกพรรณนาไว้ในข้อ 9: ‘พญานาคใหญ่ตัวนั้นคืองูดึกดำบรรพ์ ที่เขาเรียกกันว่ามารและซาตานผู้ล่อลวงมนุษย์ทั้งโลก มันถูกโยนลงมาที่แผ่นดินโลก และเหล่าบริวารของมันถูกโยนลงมากับมันด้วย’ (ข้อ 9) มันเป็น ผู้กล่าวหา (ข้อ 10) -
ผู้หญิง
บางทีการตีความที่ชัดเจนที่สุดของ ผู้หญิงคนนั้น ก็คือ นางมารีย์ พระมารดาของพระเยซู คำแนะนำอื่น ๆ คือ เธอเป็นดั่งตัวตนแห่งปัญญา เยรูซาเล็มแห่งสวรรค์ ตัวตนแห่งชนชาติอิสราเอล หรือคริสตจักร ในภาพของวันสิ้นโลกและการแปลความในหลากหลายระดับชั้น เธออาจเปรียบได้กับทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้น
หญิงนั้นได้ ‘สวมดวงอาทิตย์เป็นเสื้อผ้า และมีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้าของนาง บนศีรษะของนางมีมงกุฎที่เป็นดาวสิบสองดวง’ (ข้อ 1ข) ‘เธอกำลังให้กำเนิดเด็กคนหนึ่ง’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ภายหลังจากที่เด็กคนนั้นถูกนำไปเข้าเฝ้าพระเจ้าที่พระบัลลังก์ของพระองค์ หญิงผู้นั้น ‘ก็หนีเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร ที่นั่นนางมีสถานที่ซึ่งพระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ เพื่อนางจะได้รับการเลี้ยงดูตลอดหนึ่งพันสองร้อยหกสิบวัน (นั่นก็คือ สามปีครึ่ง)’ (ข้อ 6)
ต่อมาเราได้อ่านว่างูพยายามที่จะกวาดหญิงนั้นออกไป ‘แต่แผ่นดินช่วยหญิงคนนั้นไว้ โดยแยกออกเป็นช่องแล้วกลืนน้ำที่พญานาคพ่นออกจากปาก’ (ข้อ 16)
สิ่งที่ชัดเจนในพระธรรมตอนนี้คือ ท้ายที่สุดพระเยซูชนะมารและพวกพ้องของมัน เบื้องหลังของประวัติศาสตร์มนุษย์นั้นคือพลังที่ยิ่งใหญ่และชาญฉลาดของทั้งความดีและความชั่ว: ‘ขณะนั้นเกิดสงครามขึ้นในสวรรค์ มีคาเอลกับบรรดาทูตสวรรค์ของท่านต่อสู้กับพญานาค และพญานาคกับบริวารของมันก็ต่อสู้’ (ข้อ 7)
ที่สุดแล้ว ความดีเอาชนะความชั่ว: ‘แต่มันพ่ายแพ้และพบว่าไม่มีที่อยู่สำหรับพวกมันในสวรรค์อีกต่อไป มันถูกโยนลงมา… ที่แผ่นดินโลก เหล่าบริวารของมันถูกโยนลงมากับมันด้วย’ (ข้อ 8-9) มันพยายามที่จะ ‘ล่อลวงมนุษย์ทั้งโลก’ (ข้อ 9)
ในตอนนี้ คุณกำลังทำสงครามกับอำนาจปีศาจแห่งความชั่วร้าย แต่ชัยชนะนั้นแน่แท้: ‘พวกเขาชนะพวกมัน’ (ข้อ 11ก) ‘พวกเขา’ คือ คริสตจักร ประชากรของพระเจ้าผู้ที่อยู่ในพระคริสต์ ส่วน ‘มัน’ คือ มาร ซาตาน ผู้ใส่ร้าย งู ผู้ที่จะถูกทำลายล้างอย่างสิ้นซาก คุณเอาชนะมันได้ด้วย 3 วิธี:
-
ไว้วางใจในพระโลหิต
ไม้กางเขนของพระเยซู ‘พระโลหิตของพระเมษโปดก’ (ข้อ 11ก) คือ ชัยชนะอันสูงสุดต่อมาร คุณสามารถแน่ใจได้ในการยืนต่อหน้าพระเจ้า ‘เพราะฉะนั้นไม่มีการลงโทษคนที่อยู่ในพระเยซูคริสต์’ (โรม 8:1) คุณไม่จำเป็นต้องเข้านอนหรือตื่นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกผิด ดังที่ คอรี่ เทน บูม ชี้ให้เห็นว่า ‘พระโลหิตของพระคริสต์นั้นเปรียบดั่งน้ำตาในดวงตา มันช่วยชะล้างสิ่งสกปรกออกไป’ -
เล่าเรื่องราวของคุณ
พวกเขาชนะ ‘ด้วยคำพยานของพวกเขาเอง’ (วิวรณ์ 12:11ข) คำพยานของคุณเป็นวิธีที่มีอำนาจมากที่สุดในการชนะการต่อต้านต่อความเชื่อ มันยากที่คนอื่นจะมาโต้เถียงเรื่องราวของคุณ ไม่มีใครสามารถปฏิเสธประสบการณ์ส่วนตัวของคุณ -
รับความเสี่ยงเพื่อพระเยซู
‘พวกเขาไม่ได้รักตัวกลัวตาย’ (ข้อ 11ค)
‘พวกเขาไม่ได้รักตัวกลัวตาย
|พวกเขาพร้อมที่จะตายเพื่อพระคริสต์’ (ข้อ 11ค, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
คุณสามารถแน่ใจในอนาคตของคุณได้ ดังนั้น คุณสามารถรับความเสี่ยงเพื่อพระเยซูได้ เพราะไม่ว่าอย่างไรคุณจะปลอดภัยในอ้อมแขนของพระองค์
ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่ทันทีที่เราอยู่ฝ่ายพระเยซู เราได้อยู่ฝ่ายผู้ชนะ ขอทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ที่จะเอาชนะศัตรูโดยพระโลหิตแห่งพระเมษโปดก ด้วยคำพยานชีวิตของข้าพระองค์เอง และพร้อมรับความเสี่ยงในชีวิตเพื่อพระองค์
เอสรา 6:1-7:10
ประชากรของพระเจ้ามีชัยเหนือการต่อต้าน
ครั้งหนึ่งมาร์ค ทเวนกล่าวว่า ‘พจนานุกรมเป็นเพียงที่เดียวที่ ความสำเร็จ มาก่อน การทำงาน!’ นิมิตที่ปราศจากการลงมือทำงานเป็นเพียงเรื่องเพ้อเจ้อ คริสตจักรจะไม่สามารถถูกสร้างขึ้นใหม่ได้หากปราศจากพระหัตถ์ของพระเจ้า (7:6) แต่ก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน หากปราศจากการทำงานหนัก การอุทิศตัว และการประยุกต์ใช้
แม้ว่างานในการสร้างพระวิหารจะชะงักอยู่เพราะการต่อต้าน แต่ในที่สุดกษัตริย์ดาริอุส ‘ออกกฤษฎีกา’ (6:1) พวกเขาพบพระราชกฤษฎีกาดั้งเดิมของกษัตริย์ไซรัสที่สั่งการให้สร้างพระวิหารขึ้นใหม่ (ข้อ 1-3) กษัตริย์ดาริอัสจึงสั่งซ้ำว่า งานก่อสร้างนี้ควรดำเนินต่อไปในพระวิหารของพระเจ้า และจะไม่มีผู้ใดมาขัดขวาง (ข้อ 6-12)
พระวิหารเสร็จสมบูรณ์ (ข้อ 14-15) 515 ปีก่อนคริสตกาล และนี่เป็นเหตุให้มีความสุขใจยิ่งและการเฉลิมฉลองมโหฬาร (ข้อ 16) ‘พวกเขาได้ถือเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อเจ็ดวันด้วยความชื่นบาน…เพราะว่าพระยาห์เวห์ได้ทรงทำให้เขาชื่นบาน’ (ข้อ 22)
แต่ก็มีช่วงเงียบเป็นระยะเวลายาวนานในตอนจบของบทที่ 6 และตอนต้นบทที่ 7 (น่าจะ 458 ปีก่อนคริสตกาล) เอสราได้รับการกล่าวถึงว่า เป็นผู้ที่อยู่เหนือทุกคน และรับผิดชอบต่อการตั้งธรรมบัญญัติเพื่อความเชื่อและชีวิตในสังคมของชุมชนประชากรของพระเจ้า ภายหลังจากที่ได้กลับมาจากการเป็นเชลยที่บาบิโลน
เอสราเป็นธรรมาจารย์และ ‘พระหัตถ์ของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอยู่กับท่าน’ (7:6) ‘เอสราได้ตั้งใจของท่านที่จะศึกษาธรรมบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า และทำตามและสอนกฎเกณฑ์และกฎหมายของพระองค์ในอิสราเอล’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) การศึกษาพระวจนะของพระเจ้าแต่ปราศจากการลงมือทำนั้นไร้ค่า
ตัวอย่างของเอสรานั้นเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การเลียนแบบ ให้เราจุ่มตัวลงไปในพระวจนะของพระเจ้า มุ่งมั่นที่จะศึกษาโดยการจัดเวลาและความพยายาม ระลึกไว้เสมอว่า ลำพังพระวจนะของพระเจ้าเองนั้นไม่เพียงพอ เราจำเป็นต้องยอมให้พระวจนะของพระเจ้าเข้ามาสร้างและเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราเช่นกัน นำมาประพฤติปฏิบัติและสอนผู้อื่นให้ทำเหมือนกัน
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระองค์ประทานชัยชนะอย่างเหลือล้นต่อทุกอุปสรรคปัญหาและการต่อต้าน และยังทรงเติมใจของข้าพระองค์ด้วยความสุขใจอย่างยิ่ง ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์ศึกษาการสำแดงของพระเจ้า ที่จะดำเนินชีวิตตาม และสอนให้ผู้อื่นดำเนินชีวิตตามความจริงและทางนั้น
Pippa Adds
วิวรณ์ 12:9
‘พญานาคตัวใหญ่นั้นคืองูดึกดำบรรพ์ ที่เขาเรียกกันว่ามารและซาตานผู้ล่อลวงมนุษย์ทั้งโลก มันถูกโยนลงมาที่แผ่นดินโลก – และเหล่าบริวารของมันถูกโยนลงมากับมันด้วย’
ดีแล้วที่มารถูกโยนออกมาจากสวรรค์ แต่ก็น่าเสียดายที่มันดันมาอยู่บนโลก (… แต่ก็ไม่นานหรอกค่ะ) และมันก็พ่ายแพ้ไป
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)ဤအစီအစဥ္အေၾကာင္း

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
စပ္ဆိုင္ေသာ အစီအစဥ္မ်ား

BibleProject | ဘုရားသခင်၏ထာဝရမေတ္တာ

ဝိညာဥ်ကြီးထွားခြင်းကို တည်ဆောက်ပေးသော အလေ့အကျင့် (၇)ခု

ဆာလံကျမ်း ၁၁၉ အရ၊ နှုတ်ကပတ်တော်တရား

ယေရှု၏ ဘုရားဇာတိတော်ကို အတည်ပြုသောအကြောင်း (၅) ရပ်

BibleProject | ပဋိညာဉ်သစ်၊ ပညာသစ်

ဉာဏ်အရာ၌ အသက်ကြီးသောသူ ဖြစ်ကြလော့

BibleProject | ကားစင်တင်ခြင်းခံဘုရင်

BibleProject | တမန်တော်ပေါလုအကြောင်းလေ့လာချက်

BibleProject | ယေရှုနှင့် လူသားမျိုးနွယ်သစ်
