14
การชโลมพระเยซูที่เบธานี
(มธ.26:2-16; ลก.22:1-6)
1อีกสองวันจะถึงเทศกาลปัสกา และเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ พวกหัวหน้าปุโรหิตกับครูสอนกฎบัญญัติหาอุบายที่จะจับพระเยซูมาฆ่า 2พวกเขาพูดกันว่า “แต่อย่าลงมือช่วงเทศกาล ไม่อย่างนั้นประชาชนจะก่อการจลาจล”
3ที่หมู่บ้านเบธานี ขณะพระเยซูอยู่ที่โต๊ะอาหารในบ้านของซีโมนคนโรคเรื้อน มีผู้หญิงคนหนึ่งถือขวดที่ทำจากหินงดงามใส่น้ำมันหอมราคาแพงมากทำจากนารดาบริสุทธิ์ เธอทุบขวดนั้นและรินน้ำมันหอมชโลมศีรษะของพระองค์
4บางคนที่นั่นไม่พอใจพูดกันว่า “ทำไมทำให้น้ำมันหอมเสียไปเปล่าๆ 5ถ้าขายจะได้เงินมากกว่าค่าแรงหนึ่งปี#14:5 ภาษากรีก มากกว่า 300 เดนาริอัน แล้วเอาเงินให้คนยากจน” และพวกเขาก็ตำหนิเธออย่างรุนแรง
6พระเยซูพูดว่า “อย่ายุ่งกับเธอ ไปกวนใจเธอทำไม หญิงคนนี้ได้ทำสิ่งดีงามให้เรา 7เจ้าจะมีคนยากจนอยู่ด้วยเสมอ#14:7 ดู ฉธบ.15:11 และเจ้าก็ช่วยเขาได้ทุกเมื่อที่ต้องการ แต่เจ้าจะไม่มีเราอยู่ด้วยเสมอไป 8เธอทำในสิ่งที่เธอทำได้ คือรินน้ำหอมลงบนตัวเราล่วงหน้า เพื่อเตรียมฝังศพของเรา 9เราบอกความจริงว่า ไม่ว่าข่าวประเสริฐจะเผยแพร่ไปที่ใดทั่วโลก สิ่งที่หญิงนี้ทำจะได้รับการเล่าขานเพื่อระลึกถึงเธอ”
10แล้วยูดาสอิสคาริโอทหนึ่งในสาวกสิบสองคน ไปพบพวกหัวหน้าปุโรหิต เพื่อเสนอตัวที่จะทรยศพระเยซู 11พวกหัวหน้าปุโรหิตฟังแล้วก็ดีใจ และสัญญาว่าจะให้เงินยูดาส เขาจึงจ้องหาโอกาสที่จะมอบพระองค์ให้พวกนั้น
อาหารมื้อสุดท้าย
(มธ.26:17-30; ลก.22:7-23)
12วันแรกของเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ ซึ่งตามธรรมเนียมจะมอบลูกแกะปัสกา พวกสาวกของพระเยซูถามพระองค์ว่า “พระองค์ต้องการให้เราจัดเตรียมปัสกาเพื่อกินที่ไหน”
13พระองค์จึงส่งสาวกสองคนไป สั่งว่า “จงเข้าไปในเมือง จะมีชายคนหนึ่งถือเหยือกน้ำมาพบเจ้า จงตามเขาไป 14จงบอกเจ้าของบ้านที่ชายคนนั้นเข้าไปว่า ‘ท่านอาจารย์ถามว่า ห้องรับรองแขกของเราที่เราจะกินปัสการ่วมกับพวกสาวกอยู่ที่ไหน’ 15เขาจะพาไปดูห้องใหญ่ชั้นบนซึ่งตกแต่งไว้พร้อมแล้ว จงเตรียมปัสกาให้พวกเราที่นั่น”
16พวกสาวกทั้งสองเข้าไปในเมือง และได้พบตามที่พระเยซูบอกไว้ทุกอย่าง ดังนั้นพวกเขาจึงจัดเตรียมปัสกา
17พอถึงตอนเย็น พระเยซูมาพร้อมกับสาวกสิบสองคน 18ขณะที่นั่งกินอาหารอยู่ที่โต๊ะ พระองค์พูดว่า “เราบอกความจริงว่า คนหนึ่งในพวกเจ้าจะทรยศเรา เป็นคนที่กำลังกินอาหารร่วมกับเราตอนนี้”
19พวกสาวกเสียใจและถามพระองค์ทีละคนว่า “ไม่ได้หมายถึงข้าพเจ้าใช่ไหม”
20พระเยซูตอบว่า “เป็นหนึ่งในสาวกสิบสองคน คนที่จุ่มขนมปังในชามเดียวกับเรา 21บุตรมนุษย์จะเป็นไปตามที่มีเขียนไว้ แต่วิบัติแก่คนที่ทรยศบุตรมนุษย์ ถ้าเขาไม่ได้เกิดมาเลยยังจะดีต่อตัวเขามากกว่า”
22ขณะกินอาหาร พระเยซูหยิบขนมปัง ขอบคุณพระเจ้า แล้วหักส่งให้พวกสาวก และพูดว่า “รับไปเถิด นี่คือกายของเรา”
23จากนั้นพระองค์หยิบถ้วย แล้วขอบคุณพระเจ้า ยื่นให้พวกเขา และทุกคนก็ดื่มจากถ้วยนั้น
24พระองค์พูดกับพวกเขาว่า “นี่คือโลหิตแห่งพันธสัญญา #14:24 ฉบับสำเนาบางฉบับว่า พันธสัญญาใหม่ ของเรา ซึ่งหลั่งออกเพื่อคนมากมาย 25เราบอกความจริงว่า เราจะไม่ดื่มเหล้าองุ่นนี้อีก จนกว่าจะถึงวันนั้นที่เราดื่มเหล้าองุ่นใหม่#14:25 หรือ เราดื่มใหม่ในอาณาจักรของพระเจ้า”
26เมื่อร้องเพลงสรรเสริญแล้ว พวกเขาก็ออกไปที่ภูเขามะกอกเทศ
พระเยซูทำนายการปฏิเสธของเปโตร
(มธ.26:31-35)
27พระเยซูพูดกับพวกสาวกว่า “พวกเจ้าจะทิ้งเราไปกันหมด เพราะมีเขียนไว้ว่า
‘เราจะฟาดฟันคนเลี้ยงแกะ
และฝูงแกะจะกระจัดกระจายไป’ # 14:27
ศคย.13:7
28 แต่หลังจากเราฟื้นขึ้นจากความตาย เราจะไปกาลิลีก่อนหน้าพวกเจ้า”
29เปโตรประกาศว่า “แม้ทุกคนจะทิ้งพระองค์ ข้าพเจ้าจะไม่ทิ้งพระองค์”
30พระเยซูตอบว่า “เราบอกความจริงว่า วันนี้คืนนี้ก่อนไก่ขันสองหน#14:30 ฉบับสำเนาเก่าแก่บางฉบับไม่มี สองหน เจ้าจะตัดขาดเราสามครั้ง”
31แต่เปโตรยังยืนกรานว่า “ถึงแม้ข้าพเจ้าต้องตายกับพระองค์ ข้าพเจ้าก็จะไม่มีวันตัดขาดพระองค์” และคนที่เหลือทั้งหมดก็พูดอย่างเดียวกัน
เกทเสมนี
(มธ.26:36-46; ลก.22:40-46)
32พวกเขาไปที่แห่งหนึ่งเรียกว่าเกทเสมนี พระเยซูพูดกับพวกสาวกว่า “นั่งอยู่ที่นี่ขณะที่เราอธิษฐาน” 33พระองค์พาเปโตร ยากอบ และยอห์นไปด้วย พระองค์เริ่มเศร้าโศกและเป็นทุกข์ยิ่ง 34พระองค์พูดกับพวกเขาว่า “จิตวิญญาณของเราท่วมท้นด้วยความทุกข์โศกเศร้าแทบตาย จงเฝ้าระวังอยู่ที่นี่”
35พระองค์เดินเลยไปอีกหน่อยหนึ่ง แล้วซบลงที่พื้น อธิษฐานว่า ถ้าเป็นไปได้ขอให้ชั่วโมงนี้ผ่านพ้นไปจากพระองค์ 36พระองค์พูดว่า “อับบา#14:36 ภาษาอาราเมคสำหรับคำว่า พ่อ พระบิดา ทุกสิ่งเป็นไปได้สำหรับพระองค์ ขอเอาถ้วยนี้ไปจากลูกเถิด แต่อย่าให้เป็นไปตามที่ลูกต้องการ ขอให้เป็นไปตามที่พระองค์ประสงค์”
37แล้วพระองค์กลับมา และพบว่าพวกสาวกนอนหลับอยู่ จึงพูดกับเปโตรว่า “ซีโมน เจ้าหลับอยู่หรือ คอยเฝ้าอยู่สักชั่วโมงไม่ได้หรือ 38จงเฝ้าระวังและอธิษฐาน เพื่อเจ้าจะไม่พ่ายแพ้ต่อสิ่งล่อใจ จิตวิญญาณพร้อมแล้ว แต่กายยังอ่อนกำลัง”
39แล้วพระองค์ไปอธิษฐานขอสิ่งเดิมอีกครั้ง 40เมื่อพระองค์กลับมาก็พบว่าพวกเขายังหลับอยู่เพราะง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น พวกเขาไม่รู้จะพูดอะไรกับพระองค์
41เมื่อกลับมาเป็นครั้งที่สาม พระองค์พูดกับพวกเขาว่า “พวกเจ้ายังนอนหลับพักผ่อนอยู่หรือ พอเถอะ ถึงเวลาแล้ว ดูเถิด บุตรมนุษย์ได้ถูกมอบให้ตกอยู่ในมือของคนบาป 42ลุกขึ้นไปกันเถิด คนทรยศมาถึงแล้ว!”
พระเยซูถูกจับกุม
(มธ.26:47-56; ลก.22:47-50; ยน.18:3-11)
43เมื่อพระองค์พูดยังไม่ทันขาดคำ ยูดาสหนึ่งในสาวกสิบสองคนก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับคนกลุ่มใหญ่ที่ถือดาบและกระบอง ซึ่งถูกส่งมาจากพวกหัวหน้าปุโรหิต ครูสอนกฎบัญญัติ และผู้อาวุโส
44คนทรยศได้เตรียมสัญญาณกับพวกนั้นว่า “คนที่ข้าพเจ้าจูบคือคนนั้น จงจับกุมและคุมตัวเขาไป” 45ยูดาสตรงเข้ามาหาพระเยซูทันที และพูดว่า “รับบี” แล้วจูบพระองค์ 46พวกนั้นจึงจับกุมพระเยซู 47แล้วคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็ชักดาบออกมาฟันถูกหูคนรับใช้ของมหาปุโรหิตขาด
48พระเยซูพูดว่า “เราก่อการกบฏหรือ พวกท่านจึงได้ถือดาบและกระบองมาจับเรา 49ทุกวันเราอยู่กับท่าน สั่งสอนในลานวิหาร และท่านก็ไม่ได้จับกุมเรา แต่จะต้องเป็นจริงตามพระคัมภีร์” 50แล้วทุกคนก็ทิ้งพระองค์และหนีไปหมด
51ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ติดตามพระองค์มา มีแต่ผ้าลินินห่มกาย ตอนที่คนเหล่านั้นจะจับเขา 52เขาก็สลัดผ้าทิ้งแล้วเปลือยกายหนีไป
พระเยซูต่อหน้าสภาแซนเฮดริน
(มธ.26:57-68; ลก.22:67-71; ยน.18:12,13,19-24)
53พวกเขาพาพระเยซูไปพบมหาปุโรหิต และพวกหัวหน้าปุโรหิต ผู้อาวุโส ครูสอนกฎบัญญัติที่มาชุมนุมกัน 54เปโตรตามพระเยซูไปห่างๆ จนเข้าไปถึงลานบ้านของมหาปุโรหิต ที่นั่นเขาไปนั่งผิงไฟกับพวกยามเฝ้าวิหาร
55พวกหัวหน้าปุโรหิตและทั้งสภาแซนเฮดริน เสาะหาหลักฐานมาปรักปรำพระเยซู เพื่อจะฆ่าพระองค์ แต่หาไม่พบ 56มีหลายคนเป็นพยานเท็จปรักปรำพระองค์ แต่คำให้การของพวกเขาไม่สอดคล้องกัน
57แล้วมีบางคนยืนขึ้นเป็นพยานเท็จปรักปรำพระองค์ว่า 58“พวกเราได้ยินเขาพูดว่า ‘เราจะทำลายวิหารนี้ที่สร้างด้วยมือมนุษย์ และในสามวัน เราจะสร้างอีกวิหารหนึ่งขึ้น ที่ไม่ได้สร้างด้วยมือมนุษย์’ ” 59แต่คำพยานของพวกเขาก็ขัดแย้งกันเอง
60แล้วมหาปุโรหิตจึงยืนขึ้นต่อหน้าที่ประชุมและถามพระเยซูว่า “เจ้าจะไม่ตอบอะไรเลยหรือ เจ้าจะไม่แก้ข้อกล่าวหาของคนเหล่านี้หรืออย่างไร” 61แต่พระเยซูนิ่งไม่ตอบ
มหาปุโรหิตจึงถามพระองค์อีกว่า “เจ้าเป็นพระเมสสิยาห์ บุตรขององค์ผู้ที่ได้รับการสรรเสริญหรือ”
62พระเยซูพูดว่า “เราเป็น และท่านจะเห็นบุตรมนุษย์นั่งอยู่ด้านขวามือขององค์ผู้มีฤทธิ์และมาบนหมู่เมฆแห่งฟ้าสวรรค์”
63มหาปุโรหิตจึงฉีกเสื้อของตน และพูดว่า “เราจะต้องหาพยานอีกทำไม 64พวกท่านได้ยินคำหมิ่นประมาทแล้ว ท่านคิดเห็นอย่างไร”
พวกเขาทั้งหมดเห็นพ้องกันว่าพระองค์สมควรตาย 65บางคนก็ถ่มน้ำลายใส่พระองค์ เอาผ้าปิดตา ทุบตีพระองค์ และพูดว่า “ผู้เผยพระวจนะ ทายสิว่าใครทำ” แล้วพวกทหารยามก็จับพระองค์ไปทุบตี
เปโตรตัดขาดพระเยซู
(มธ.26:69-75; ลก.22:56-62; ยน.18:16-18,25-27)
66ขณะเปโตรอยู่ในลานบ้าน มีสาวใช้คนหนึ่งของมหาปุโรหิตผ่านมา 67เมื่อเธอเห็นเปโตรผิงไฟอยู่ก็จ้องมอง และพูดว่า
“เจ้าก็อยู่กับเยซูชาวนาซาเร็ธด้วย”
68แต่เปโตรปฏิเสธว่า “เจ้าพูดอะไรข้าไม่รู้เรื่อง” แล้วออกไปที่ทางเข้า#14:68 ฉบับสำเนาเก่าแก่บางฉบับว่า ทางเข้าและไก่ก็ขัน
69สาวใช้เห็นเขาที่นั่น ก็พูดกับคนที่ยืนแถวนั้นอีกว่า “คนนี้เป็นหนึ่งในพวกนั้น” 70เขาก็ปฏิเสธอีก
ต่อมาสักครู่ คนที่ยืนใกล้ๆ พูดกับเปโตรว่า “ใช่แน่ๆ เจ้าเป็นหนึ่งในพวกนั้น เพราะเจ้าเป็นชาวกาลิลี”
71เปโตรจึงขอให้ตัวเองถูกแช่งสาปและสาบานว่า “ข้าไม่รู้จักชายคนที่พวกเจ้าพูดถึง”
72ทันใดนั้นไก่ก็ขันเป็นครั้งที่สอง#14:72 ฉบับสำเนาเก่าแก่บางฉบับไม่มี เป็นครั้งที่สอง เปโตรจึงนึกถึงคำที่พระเยซูพูดกับเขาว่า “ก่อนไก่ขันสองหน#14:72 ฉบับสำเนาเก่าแก่บางฉบับไม่มี สองหน เจ้าจะตัดขาดเราสามครั้ง” และเขาก็ร้องไห้เสียใจ