ลูกา 6:20-49

ลูกา 6:20-49 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พระเยซู​มองดู​พวก​ลูกศิษย์​แล้ว​ก็​พูด​ว่า “พวก​คุณ​คน​จน​นี่ ถือ​ว่า​เป็น​เกียรติ​จริงๆ เพราะ​ว่า​อาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เป็น​ของ​คุณ พวก​คุณ​ที่​อดอยาก​หิวโหย​ตอนนี้ ถือ​ว่า​เป็น​เกียรติ​จริงๆ เพราะ​พระเจ้า​จะ​ทำ​ให้​คุณ​อิ่ม​หนำ​สำราญ พวก​คุณ​ที่​ร้องไห้​เสียใจ ถือ​ว่า​เป็น​เกียรติ​จริงๆ เพราะ​พระเจ้า​จะ​ทำ​ให้​คุณ​หัวเราะ​อย่าง​มี​ความ​สุข ให้​ถือ​ว่า​เป็น​เกียรติ​จริงๆ​เมื่อ​คน​เกลียด​คุณ ขับ​ไล่​คุณ ดูถูก​คุณ​และ​กล่าวหา​ว่า​คุณ​เป็น​คน​เลว เพราะ​คุณ​ติดตาม​บุตร​มนุษย์ ใน​วัน​นั้น​ขอ​ให้​ดีใจ​และ​กระโดด​โลดเต้น​ด้วย​ความสุข เพราะ​พระเจ้า​เก็บ​รางวัล​อัน​ยิ่งใหญ่​ไว้​ให้​กับ​พวก​คุณ​แล้ว​ที่​สวรรค์ อย่า​ลืม​ว่า แต่​ก่อน​บรรพบุรุษ​ของ​พวก​เขา​ก็​ทำ​แบบนี้​กับ​พวกผู้พูดแทนพระเจ้า​เหมือน​กัน น่า​อับอาย​จริงๆ​พวก​คุณ​ที่​ร่ำรวย เพราะ​พวก​คุณ​ได้รับ​ความสะดวกสบาย​จน​ครบ​แล้ว น่า​อับอาย​จริงๆ​พวก​คุณ​ที่​อิ่มหนำสำราญ​ตอนนี้ เพราะ​คุณ​จะ​อด​อยาก น่า​อับอาย​จริงๆ​พวก​คุณ​ที่​กำลัง​หัวเราะ​ใน​ตอนนี้ เพราะ​คุณ​จะ​ต้อง​เป็น​ทุกข์​และ​ร้องไห้ น่า​อับอาย​จริงๆ​พวก​คุณ​ที่​ทุก​คน​ยกย่อง​เยินยอ เพราะ​บรรพบุรุษ​ของ​พวก​เขา​ก็​เคย​ยกย่อง​เยินยอ​พวกผู้พูดแทนพระเจ้า​จอม​ปลอม อย่าง​นั้น​มา​แล้ว​เหมือน​กัน แต่​เรา​จะ​บอก​พวก​คุณ​ที่​กำลัง​ฟัง​อยู่​ว่า ให้​รัก​ศัตรู​และ​ทำ​ดี​กับ​คน​ที่​เกลียด​คุณ อวยพร​ให้​กับ​คน​ที่​สาปแช่ง​คุณ อธิษฐาน​ให้​กับ​คน​ที่​โหด​ร้าย​กับ​คุณ ถ้า​มี​ใคร​ตบ​แก้ม​คุณ​ข้าง​หนึ่ง ก็​หัน​อีก​ข้าง​หนึ่ง​ให้​เขา​ตบ​ด้วย ถ้า​มี​ใคร​แย่ง​เสื้อคลุม​ของ​คุณ​ไป ก็​ให้​แถม​เสื้อ​ตัว​ข้าง​ใน​กับ​เขา​ไป​ด้วย ถ้า​มี​ใคร​มา​ขอ​อะไร​จาก​คุณ​ก็​ให้​เขา​ไป และ​ถ้า​มี​ใคร​เอา​ของๆ​คุณ​ไป ก็​อย่า​ทวง​คืน ให้​ทำ​กับ​คน​อื่น​เหมือน​กับ​ที่​คุณ​อยาก​ให้​คน​อื่น​ทำ​กับ​คุณ ถ้า​คุณ​รัก​แต่​เฉพาะ​คน​ที่​รัก​คุณ มี​อะไร​พิเศษ​ตรง​ไหน เพราะ​คน​บาป​ก็​ยัง​รู้จัก​รัก​คน​ที่​รัก​พวก​เขา​เหมือน​กัน ถ้า​คุณ​ดี​กับ​เฉพาะ​คน​ที่​ดี​กับ​คุณ​เท่า​นั้น มี​อะไร​พิเศษ​ตรง​ไหน เพราะ​แม้แต่​คน​บาป​ก็​ทำ​อย่าง​นั้น​เหมือน​กัน หาก​คุณ​ให้​ยืม​เฉพาะ​คน​ที่​คุณ​หวัง​จะ​ได้รับ​คืน​จาก​เขา​เท่านั้น มี​อะไร​พิเศษ​ตรง​ไหน​หรือ เพราะ​แม้แต่​คน​บาป​ก็​ยัง​ให้​คน​บาป​ยืม​โดย​หวัง​ว่า​จะ​ได้​คืน​ทั้งหมด​เหมือน​กัน พวก​คุณ​ต้อง​รัก​ศัตรู​ของ​คุณ ทำ​ดี​กับ​พวก​เขา​ด้วย และ​ให้​พวก​เขา​ยืม​โดย​ไม่​ต้อง​หวัง​ว่า​จะ​ได้​คืน แล้ว​คุณ​จะ​ได้รับ​รางวัล​มากมาย และ​เป็น​ลูก​ที่​แท้​จริง​ของ​พระเจ้า​สูงสุด เพราะ​พระเจ้า​ดี​กับ​คน​เนรคุณ​และ​คน​ชั่ว ขอ​ให้​คุณ​แสดง​ความ​เมตตา​เหมือน​กับ​ที่​พระบิดา​แสดง​ความเมตตา อย่า​ตัดสิน​คน​อื่น แล้ว​พระเจ้า​จะ​ไม่​ตัดสิน​คุณ อย่า​ประณาม​คน​อื่น แล้ว​พระเจ้า​จะ​ไม่​ประณาม​คุณ ยกโทษ​ให้​คน​อื่น แล้ว​พระเจ้า​จะ​ยก​โทษ​ให้​คุณ ถ้า​คุณ​ให้​คน​อื่น พระเจ้า​ก็​จะ​ให้​กับ​คุณ พระองค์​จะ​ใช้​ถ้วยตวง​ที่​อัด​แน่น​จน​ล้น​ออก​มา​เท​ลง​บน​ตัก​ของ​คุณ สรุป​แล้ว​คุณ​ทำ​กับ​คน​อื่น​แบบ​ไหน คุณ​ก็​จะ​ได้รับ​ผล​แบบ​นั้น” พระองค์​ยัง​เล่า​เรื่อง​เปรียบเทียบ​ให้​ฟัง​อีก​ว่า “คน​ตาบอด​จะ​จูง​คน​ตาบอด​ได้​หรือ ทั้ง​สอง​คน​จะ​ไม่​ตก​คู​หรือ ลูกศิษย์​จะ​เหนือ​ครู​หรือ แต่​เมื่อ​เขา​ได้รับ​การอบรม​ครบ​ถ้วน​แล้ว เขา​ก็​จะ​เป็น​เหมือน​กับ​ครู ทำไม​คุณ​ถึง​เห็น​ขี้ผง​ใน​ตา​ของ​พี่น้องคุณ แต่​กลับ​มอง​ไม่​เห็น​ไม้​ซุง​ทั้ง​ท่อน​ใน​ตา​ของ​ตัว​คุณ​เอง แล้ว​คุณ​พูด​กับ​พี่น้อง​ออก​มา​ได้​ยังไง​ว่า ‘เดี๋ยว​ผม​จะ​เขี่ย​ขี้ผง​ใน​ตา​ให้​นะ’ ทั้งๆที่​ซุง​ทั้ง​ท่อน​ใน​ตา​ตัวเอง​ก็​ยัง​มอง​ไม่​เห็น ไอ้​หน้าซื่อใจคด เอา​ท่อน​ซุง​ออก​จาก​ตา​ของ​ตัวเอง​ก่อน แล้ว​จะ​ได้​มอง​เห็น​ชัดๆ​ตอน​เขี่ย​ขี้ผง​ออก​จาก​ตา​ของ​พี่น้อง ต้น​ไม้​ดี​จะ​ออก​ผล​เลวๆ​ไม่​ได้ และ​ต้น​ไม้​เลว​ก็​จะ​ออก​ผล​ดีๆ​ไม่​ได้​เหมือน​กัน อยาก​รู้​ว่า​ต้น​อะไร​ก็​ให้​ดู​ที่​ผล​ของ​มัน คุณ​คงจะ​ไม่​ไป​หา​ลูก​มะเดื่อ​จาก​พุ่มไม้​หนาม หรือ​ลูก​องุ่น​จาก​กอ​หนาม​แน่ คนดี​ก็​จะ​ทำ​ดี​เพราะ​จิตใจ​เต็ม​ไป​ด้วย​สิ่ง​ที่​ดีๆ คน​ชั่ว​ก็​จะ​ทำ​ชั่ว​เพราะ​จิตใจ​เต็ม​ไป​ด้วย​สิ่ง​ชั่วๆ ใจ​เต็ม​ไป​ด้วย​อะไร​ปาก​ก็​จะ​พูด​สิ่ง​นั้น ใน​เมื่อ​คุณ​ไม่​ทำ​ตาม​ที่​เรา​บอก จะ​มา​เรียก​เรา​ว่า องค์​เจ้า​ชีวิต องค์​เจ้า​ชีวิต ทำไม เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า​คน​ที่​มา​หา​เรา​และ​ทำ​ตาม​คำสอน​ของ​เรา​นั้น ก็​เปรียบ​เหมือน​คน​สร้าง​บ้าน ที่​ขุด​ดิน​ลง​ไป​ลึก และ​วาง​รากฐาน​ไว้​บน​หิน เมื่อ​น้ำท่วม กระแส​น้ำ​ไหล​เชี่ยว​มา​พัด​บ้าน บ้าน​ก็​ไม่​สั่นคลอน เพราะ​สร้าง​ไว้​อย่าง​มั่นคง แต่​คน​ที่​ได้​ฟัง แล้ว​ไม่​ทำ​ตาม ก็​เปรียบ​เหมือน​กับ​คน​ที่​สร้าง​บ้าน​ไว้​บน​ดิน ไม่​มี​รากฐาน เมื่อ​กระแส​น้ำ​ไหล​เชี่ยว​มา​พัด​บ้าน บ้าน​ก็​พัง​ราบคาบ เสียหาย​ยับเยิน​ทันที”

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 6

ลูกา 6:20-49 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

พระองค์ทอดพระเนตรดูพวกสาวกของพระองค์แล้วตรัสว่า “ท่านทั้งหลายที่ยากจนก็เป็นสุข เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นของท่าน “ท่านทั้งหลายที่อดอยากเวลานี้ก็เป็นสุข เพราะว่าท่านจะได้อิ่มท้อง “ท่านทั้งหลายที่ร้องไห้เวลานี้ก็เป็นสุข เพราะว่าท่านจะได้หัวเราะ “ท่านทั้งหลายเป็นสุขแม้มีคนเกลียดชังท่าน ไล่ท่านออกจากพวกเขา ประณามท่าน และเหยียดหยามท่านว่าเป็นคนชั่วช้าเนื่องจากท่านเห็นแก่บุตรมนุษย์ ในวันนั้นท่านทั้งหลายจงชื่นชมยินดีและโลดเต้น เพราะบำเหน็จของท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์ บรรพบุรุษของเขาก็ทำอย่างนั้นกับพวกผู้เผยพระวจนะเหมือนกัน “แต่วิบัติแก่พวกท่านที่ร่ำรวย เพราะว่าท่านได้รับความสะดวกสบายแล้ว “วิบัติแก่พวกท่านที่อิ่มท้องในเวลานี้ เพราะว่าท่านจะอดอยาก “วิบัติแก่พวกที่หัวเราะในเวลานี้ เพราะว่าท่านจะเป็นทุกข์และร้องไห้ “วิบัติเมื่อทุกคนบอกว่าท่านดี เพราะบรรพบุรุษของเขาก็ทำอย่างนั้นกับพวกผู้เผยพระวจนะเท็จเหมือนกัน “แต่เราบอกพวกท่านที่กำลังฟังอยู่ว่า จงรักศัตรูของท่าน จงทำดีกับคนที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรแก่คนที่แช่งด่าท่าน จงอธิษฐานเผื่อคนที่ทำร้ายท่าน ใครตบแก้มของท่านข้างหนึ่ง จงหันอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย ใครเอาเสื้อคลุมของท่านไป ถ้าเขาจะเอาเสื้อด้วยก็อย่าหวง จงให้แก่ทุกคนที่ขอจากท่าน และถ้าใครเอาสิ่งของของท่านไป ก็อย่าทวงคืน จงปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนอย่างที่พวกท่านปรารถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่าน “ถ้าพวกท่านรักเฉพาะคนที่รักท่าน ควรนับว่าเป็นคุณความดีของท่านด้วยหรือ? เพราะแม้แต่พวกคนบาปก็ยังรักเฉพาะคนที่รักเขาเหมือนกัน ถ้าพวกท่านทำดีเฉพาะกับคนที่ทำดีต่อท่าน ควรนับว่าเป็นคุณความดีของท่านหรือ? เพราะแม้แต่พวกคนบาปก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน ถ้าท่านทั้งหลายให้ยืมเฉพาะคนที่ท่านหวังจะได้คืน ควรนับว่าเป็นคุณความดีของท่านหรือ? เพราะแม้แต่พวกคนบาปก็ยังให้คนบาปยืมโดยหวังจะได้คืนเหมือนกัน แต่จงรักศัตรูของท่านและทำดีต่อเขา จงให้เขายืมโดยไม่หวังที่จะได้คืน แล้วบำเหน็จของท่านทั้งหลายจะมีบริบูรณ์ แล้วท่านจะเป็นบุตรขององค์ผู้สูงสุด เพราะว่าพระองค์ทรงพระกรุณาทั้งต่อคนอกตัญญูและคนชั่ว พวกท่านจงมีใจเมตตากรุณาเหมือนอย่างพระบิดาของท่านมีพระทัยเมตตากรุณา “อย่าพิพากษาเขา แล้วพวกท่านจะไม่ถูกพิพากษา อย่าตัดสินลงโทษเขา แล้วพวกท่านจะไม่ถูกตัดสินลงโทษ จงยกโทษให้เขา แล้วพวกท่านจะได้รับการยกโทษ จงให้เขา แล้วพวกท่านจะได้รับด้วยแบบยัดสั่นแน่นพูนล้นเต็มหน้าตักของท่าน เพราะว่าเมื่อท่านตวงให้เขาเท่าไร ท่านก็จะได้รับการตวงกลับคืนไปเท่านั้นเช่นกัน” พระองค์ตรัสกับพวกเขาเป็นคำเปรียบเทียบอีกว่า “คนตาบอดจะนำทางคนตาบอดได้หรือ? ทั้งสองคนจะไม่ตกบ่อหรอกหรือ? ศิษย์ย่อมไม่ใหญ่ไปกว่าครู แต่ศิษย์ทุกคนที่ได้รับการฝึกสอนอย่างสมบูรณ์แล้ว ก็จะเป็นเหมือนอย่างครู ทำไมท่านมองเห็นผงที่อยู่ในตาพี่น้องของท่าน แต่กลับมองไม่เห็นไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของตนเอง? ทำไมท่านจึงพูดกับพี่น้องของท่านว่า ‘น้องเอ๋ย ให้ฉันเขี่ยผงออกจากตาของเธอ’ แต่ท่านกลับมองไม่เห็นไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของท่านเอง โอ คนหน้าซื่อใจคด จงดึงไม้ทั้งท่อนออกจากตาของท่านก่อน แล้วท่านจะเห็นได้ถนัด จึงจะเขี่ยผงออกจากตาพี่น้องของท่านได้ “ต้นไม้ดีย่อมไม่เกิดผลเลว หรือต้นไม้เลวย่อมไม่เกิดผลดี เพราะว่าจะรู้จักต้นไม้แต่ละต้นได้ ก็ด้วยผลของมัน เขาทั้งหลายย่อมไม่เก็บผลมะเดื่อจากต้นไม้มีหนามหรือเก็บผลองุ่นจากต้นระกำ คนดีย่อมเอาสิ่งดีออกจากคลังดีในจิตใจของตน และคนชั่วย่อมเอาสิ่งชั่วออกจากคลังชั่วในจิตใจของตน เพราะว่าปากย่อมพูดสิ่งที่เต็มล้นอยู่ในจิตใจ “ทำไมพวกท่านเรียกเราว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้า’ แต่ไม่ทำตามสิ่งที่เราบอกนั้น? ทุกคนที่มาหาเราและฟังคำของเราแล้วทำตาม เราจะสำแดงให้พวกท่านรู้ว่าเขาเป็นเหมือนอะไร เขาเป็นเหมือนคนหนึ่งที่สร้างบ้าน เขาขุดลึกลงไปแล้ววางรากฐานอยู่บนศิลา เมื่อมีน้ำท่วมและมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวมาซัดบ้านนั้น มันก็ไม่หวั่นไหว เพราะถูกสร้างไว้อย่างมั่นคง ส่วนคนที่ได้ยินและไม่ทำตาม ก็เป็นเหมือนคนหนึ่งที่สร้างบ้านอยู่บนดินโดยปราศจากรากฐาน เมื่อมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวมาซัดบ้านนั้น มันก็พังทลายลงทันที และความหายนะของบ้านนั้นก็ยิ่งใหญ่”

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 6

ลูกา 6:20-49 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

พระองค์​ทอดพระเนตรแลดู​เหล่​าสาวกของพระองค์ตรั​สว​่า “ท่านทั้งหลายที่เป็นคนยากจนก็​เป็นสุข เพราะว่าอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของท่าน ท่านทั้งหลายที่อดอยากเวลานี้​ก็​เป็นสุข เพราะว่าท่านจะได้​อิ่มหนำ ท่านทั้งหลายที่​ร้องไห้​เวลานี้​ก็​เป็นสุข เพราะว่าท่านจะได้​หัวเราะ ท่านทั้งหลายจะเป็นสุขเมื่อคนทั้งหลายจะเกลียดชังท่าน และจะไล่ท่านออกจากพวกเขา และจะประณามท่าน และจะเหยียดชื่อของท่านว่าเป็นคนชั่วช้า เพราะท่านเห็นแก่​บุ​ตรมนุษย์ ในวันนั้นท่านทั้งหลายจงชื่นชม และเต้นโลดด้วยความยินดี เพราะ ดู​เถิด บำเหน็จของท่านมี​บริบูรณ์​ในสวรรค์ เพราะว่าบรรพบุรุษของเขาได้กระทำอย่างนั้นแก่พวกศาสดาพยากรณ์​เหมือนกัน แต่​วิบัติ​แก่​เจ้​าทั้งหลายที่​มั่งมี เพราะว่าเจ้าได้รับสิ่งที่เล้าโลมใจแล้ว วิบัติ​แก่​เจ้​าทั้งหลายที่อิ่มหนำแล้ว เพราะว่าเจ้าจะอดอยาก วิบัติ​แก่​เจ้​าทั้งหลายที่หัวเราะเวลานี้ เพราะว่าเจ้าจะเป็นทุกข์และร้องไห้ วิบัติ​แก่​เจ้​าทั้งหลายเมื่อคนทั้งหลายจะยอว่าเจ้าดี เพราะบรรพบุรุษของเขาได้กระทำอย่างนั้นแก่​ผู้​พยากรณ์​เท​็จเหมือนกัน แต่​เราบอกท่านทั้งหลายที่กำลังฟังอยู่​ว่า จงรักศั​ตรู​ของท่าน จงทำดี​แก่​ผู้​ที่​เกล​ียดชังท่าน จงอวยพรแก่​คนที​่​แช่​งด​่าท่าน จงอธิษฐานเพื่อคนที่เคี่ยวเข็ญท่าน ผู้​ใดตบแก้มของท่านข้างหนึ่ง จงหั​นอ​ีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย และผู้ใดริบเอาเสื้อคลุมของท่านไป ถ้าเขาจะเอาเสื้​อด​้วยก็อย่าหวงห้าม จงให้​แก่​ทุ​กคนที่ขอจากท่าน และถ้าใครได้ริบเอาของของท่านไป อย่าทวงเอาคืน จงปฏิบั​ติ​ต่อผู้อื่นอย่างที่ท่านปรารถนาให้เขาปฏิบั​ติ​ต่อท่าน แม้ว​่าท่านทั้งหลายรักผู้​ที่​รักท่าน จะนับว่าเป็นคุณอะไรแก่​ท่าน ถึงแม้​คนบาปก็ยังรักผู้​ที่​รักเขาเหมือนกัน ถ้าท่านทั้งหลายทำดี​แก่​ผู้​ที่​ทำดี​แก่​ท่าน จะนับว่าเป็นคุณอะไรแก่​ท่าน เพราะว่าคนบาปก็กระทำเหมือนกัน ถ้าท่านทั้งหลายให้ยืมเฉพาะแต่​ผู้​ที่​ท่านหวังจะได้คืนจากเขาอีก จะนับว่าเป็นคุณอะไรแก่​ท่าน ถึงแม้​คนบาปก็ยังให้คนบาปยืมโดยหวังว่าจะได้รับคืนจากเขาอีกเท่ากัน แต่​จงรักศั​ตรู​ของท่านทั้งหลาย และทำการดีต่อเขา จงให้เขายืมโดยไม่หวังที่จะได้คื​นอ​ีก บำเหน็จของท่านทั้งหลายจึงจะมี​บริบูรณ์ และท่านทั้งหลายจะเป็นบุตรของผู้​สูงสุด เพราะว่าพระองค์ยังทรงโปรดแก่คนอกตัญญูและคนชั่ว เหตุ​ฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงมีความเมตตากรุณา เหมือนอย่างพระบิดาของท่านมีพระทัยเมตตากรุณา อย่าวินิจฉัยโทษเขา และท่านทั้งหลายจะไม่​ได้​ถู​กวินิจฉัยโทษ อย่ากล่าวโทษเขา และท่านทั้งหลายจะไม่​ถู​กกล่าวโทษ จงยกโทษให้​เขา และท่านจะได้รับการอภัยโทษ จงให้ และท่านจะได้รั​บด​้วย และในตักของท่านจะได้รับตวงด้วยทะนานถ้วนยัดสั่นแน่นพูนล้นใส่​ให้ เพราะว่าท่านจะตวงให้เขาด้วยทะนานอันใด จะตวงให้ท่านด้วยทะนานอันนั้น” พระองค์​ตรัสกับเขาทั้งหลายเป็นคำอุปมาด้วยว่า “คนตาบอดจะนำทางคนตาบอดได้​หรือ ทั้งสองจะไม่ตกลงไปในบ่อหรือ ศิษย์​ไม่​ใหญ่​กว่าครู แต่​ศิษย์​ทุ​กคนที่​ได้​รับการฝึกสอนครบแล้​วก​็จะเป็นเหมือนครูของตน เหตุ​ไฉนท่านมองดูผงที่ในตาพี่น้องของท่าน แต่​ไม่​ยอมพิจารณาไม้ทั้งท่อนที่​อยู่​ในตาของท่านเอง เหตุ​ไฉนท่านจึงจะพู​ดก​ับพี่น้องของท่านว่า ‘​พี่​น้องเอ๋ย ให้​เราเขี่ยผงออกจากตาของเธอ’ แต่​ที่​จร​ิงท่านเองยังไม่​เห​็นไม้ทั้งท่อนที่​อยู่​ในตาของท่าน ท่านคนหน้าซื่อใจคด จงชักไม้ทั้งท่อนออกจากตาของท่านก่อน แล​้​วท​่านจะเห็นได้ถนัดจึงจะเขี่ยผงออกจากตาพี่น้องของท่านได้ ด้วยว่าต้นไม้​ดี​ย่อมไม่​เก​ิดผลเลว หรือต้นไม้เลวย่อมไม่​เก​ิดผลดี เพราะว่าจะรู้จักต้นไม้​ทุ​กต้นได้​ก็​เพราะผลของมัน เพราะว่าเขาย่อมไม่​เก​็บผลมะเดื่อจากต้นไม้​มี​หนาม หรือย่อมไม่​เก​็บผลองุ่นจากพุ่มไม้​หนาม คนดี​ก็​ย่อมเอาของดีออกจากคลั​งด​ี​แห่​งใจของตน และคนชั่​วก​็ย่อมเอาของชั่วออกจากคลังชั่วแห่งใจของตน ด้วยใจเต็​มด​้วยอะไร ปากก็​พู​ดออกมาอย่างนั้น เหตุ​ไฉนท่านทั้งหลายจึงเรียกเราว่า ‘​พระองค์​เจ้าข้า พระองค์​เจ้าข้า​’ แต่​ไม่​กระทำตามที่เราบอกนั้น ทุ​กคนที่มาหาเราและฟังคำของเรา และกระทำตามคำนั้น เราจะแจ้งให้ท่านทั้งหลายรู้​ว่า เขาเปรียบเหมือนผู้​ใด เขาเปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างเรือน เขาขุ​ดล​ึกลงไป แล​้วตั้งรากบนศิ​ลา และเมื่อน้ำมาท่วม กระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่ง แต่​ทำให้​เรือนนั้นหวั่นไหวไม่​ได้ เพราะได้ตั้งรากบนศิ​ลา ส่วนคนที่​ได้​ยินและมิ​ได้​กระทำตาม เปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างเรือนบนดินไม่ก่อราก เมื่อกระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่ง เรือนนั้​นก​็พังทลายลงทั​นที และความพินาศของเรือนนั้​นก​็​ใหญ่​ยิ่งนัก​”

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 6

ลูกา 6:20-49 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

พระองค์ทอดพระเนตรแลดูเหล่าสาวกของพระองค์ตรัสว่า <<ท่านทั้งหลายที่เป็นคนยากจนก็เป็นสุข เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นของท่าน <<ท่านทั้งหลายที่อดอยากเวลานี้ก็เป็นสุข เพราะว่าท่านจะได้อิ่มหนำ <<ท่านทั้งหลายที่ร้องไห้เวลานี้ก็เป็นสุข เพราะว่าท่านจะได้หัวเราะ <<ท่านทั้งหลายจะเป็นสุข เมื่อคนทั้งหลายจะเกลียดชังท่าน และจะไล่ท่านออกจากพวกเขา และจะประณามท่าน และจะเหยียดชื่อของท่านว่าเป็นคนชั่วช้า เพราะท่านเห็นแก่บุตรมนุษย์ ในวันนั้นท่านทั้งหลายจงชื่นชม และเต้นโลดด้วยความยินดีเพราะ ดูเถิด บำเหน็จของท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์ เพราะว่าบรรพบุรุษของเขา ได้กระทำอย่างนั้นแก่พวกผู้เผยพระวจนะเหมือนกัน <<แต่วิบัติแก่เจ้าทั้งหลายที่มั่งมี เพราะว่าเจ้าได้รับสิ่งที่เล้าโลมใจแล้ว <<วิบัติแก่เจ้าทั้งหลายที่อิ่มหนำเวลานี้ เพราะว่าเจ้าจะอดอยาก <<วิบัติแก่เจ้าทั้งหลายที่หัวเราะเวลานี้ เพราะว่าเจ้าจะเป็นทุกข์และร้องไห้ <<วิบัติแก่เจ้าทั้งหลาย เมื่อคนทั้งหลายจะยอว่าเจ้าดี เพราะบรรพบุรุษของเขาได้กระทำอย่างนั้นแก่ผู้เผยพระวจนะเท็จเหมือนกัน <<แต่เราบอกท่านทั้งหลายที่กำลังฟังอยู่ว่า จงรักศัตรูของท่าน จงทำดีแก่ผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรแก่คนที่แช่งด่าท่าน จงอธิษฐานเพื่อคนที่เคี่ยวเข็ญท่าน ผู้ใดตบแก้มของท่านข้างหนึ่ง จงหันอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย และผู้ใดริบเอาเสื้อคลุมของท่านไป ถ้าเขาจะเอาเสื้อด้วยก็อย่าหวงห้าม จงให้แก่ทุกคนที่ขอจากท่าน และถ้าใครได้ริบของของท่านไป อย่าทวงเอาคืน จงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่ท่านปรารถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่าน <<แม้ว่าท่านทั้งหลายรักผู้ที่รักท่าน จะทรงนับว่าเป็นคุณอะไรแก่ท่าน ถึงแม้คนบาปก็ยังรักผู้ที่รักเขาเหมือนกัน ถ้าท่านทั้งหลายทำดีแก่ผู้ที่ทำดีแก่ท่าน จะทรงนับว่าเป็นคุณอะไรแก่ท่าน เพราะว่าคนบาปก็กระทำเหมือนกัน ถ้าท่านทั้งหลายให้ยืมเฉพาะแต่ผู้ที่ท่านหวังจะได้คืนจากเขาอีก จะทรงนับว่าเป็นคุณอะไรแก่ท่าน ถึงแม้คนบาปก็ยังให้คนบาปยืม โดยหวังว่าจะได้รับคืนจากเขาเท่ากัน แต่จงรักศัตรูของท่านทั้งหลาย และทำการดีต่อเขา จงให้เขายืมโดยไม่หวังที่จะได้คืนอีก บำเหน็จของท่านทั้งหลายจึงจะมีบริบูรณ์ และท่านทั้งหลายจะเป็นบุตรของพระเจ้าสูงสุด เพราะว่าพระองค์ยังทรงโปรดแก่คนอกตัญญูและคนชั่ว ท่านทั้งหลายจงมีความเมตตากรุณา เหมือนอย่างพระบิดาของท่านมีพระทัยเมตตากรุณา <<อย่าวินิจฉัยโทษเขา และท่านทั้งหลายจะไม่ได้ถูกวินิจฉัยโทษ อย่ากล่าวโทษเขา และท่านทั้งหลายจะไม่ถูกกล่าวโทษ จงยกโทษให้เขา และเขาจะยกโทษให้ท่าน จงให้เขา และท่านจะได้รับด้วย และในตักของท่านจะได้รับตวงด้วยทะนานถ้วนยัดสั่นแน่นพูนล้นใส่ให้ เพราะว่าท่านจะตวงให้เขาด้วยทะนานอันใด พระเจ้าจะได้ทรงตวงให้ท่านด้วยทะนานอันนั้น>> พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายเป็นคำอุปมาด้วย ว่า <<คนตาบอดจะนำทางคนตาบอดได้หรือ ทั้งสองจะไม่ตกลงไปในบ่อหรือ ศิษย์ไม่ใหญ่กว่าครู แต่ศิษย์ทุกคนที่ได้รับการฝึกสอนครบแล้ว ก็จะเป็นเหมือนครูของตน เหตุไฉนท่านมองดูผงที่ในตาพี่น้องของท่าน แต่ไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของท่าน ท่านก็ไม่รู้สึก เหตุไฉนท่านจึงจะพูดกับพี่น้องของท่านว่า <พี่น้องเอ๋ย ให้เราเขี่ยผงออกจากตาของเธอ> แต่ที่จริงท่านเองยังไม่เห็นไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของท่าน ท่านคนหน้าซื่อใจคด จงชักไม้ทั้งท่อนออกจากตาของท่านก่อน แล้วท่านจะเห็นได้ถนัด จึงจะเขี่ยผงออกจากตาพี่น้องของท่านได้ <<ด้วยว่าต้นไม้ดีย่อมไม่เกิดผลเลว หรือต้นไม้เลวย่อมไม่เกิดผลดี เพราะว่าจะรู้จักต้นไม้ทุกต้นได้ก็เพราะผลของมัน เพราะว่าเขาย่อมไม่เก็บผลมะเดื่อจากต้นไม้มีหนาม หรือย่อมไม่เก็บผลองุ่นจากต้นระกำ คนดีก็ย่อมเอาของดีออกจากคลังดีแห่งใจของตน และคนชั่วก็ย่อมเอาของชั่วจากคลังชั่วแห่งใจของตน ด้วยใจเต็มด้วยอะไรปากก็พูดออกมาอย่างนั้น <<เหตุไฉนท่านทั้งหลายจึงเรียกเราว่า <พระองค์เจ้าข้า พระองค์เจ้าข้า> แต่ไม่กระทำตามที่เราบอกนั้น ทุกคนที่มาหาเราและฟังคำของเรา และกระทำตามคำนั้น เราจะแจ้งให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า เขาเปรียบเหมือนผู้ใด เขาเปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึก เขาขุดลึกลงไปแล้วตั้งรากบนศิลา และเมื่อน้ำมาท่วม กระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่ง แต่ทำให้หวั่นไหวไม่ได้ เพราะได้สร้างไว้มั่นคง ส่วนคนที่ได้ยินและมิได้กระทำตาม เปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึกบนดินไม่ก่อราก เมื่อกระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่งตึกนั้น ตึกนั้นก็พังทลายลงทันที และความพินาศของตึกนั้นก็ใหญ่ยิ่งนัก>>

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 6

ลูกา 6:20-49 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

พระเยซูทอดพระเนตรเหล่าสาวกและตรัสว่า “ความสุขมีแก่ท่านผู้ขัดสน เพราะอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของท่านแล้ว ความสุขมีแก่ท่านผู้หิวโหยอยู่ในขณะนี้ เพราะท่านจะได้อิ่มเอม ความสุขมีแก่ท่านผู้ร่ำไห้อยู่ในขณะนี้ เพราะท่านจะได้หัวเราะ ความสุขมีแก่ท่านเมื่อมนุษย์เกลียดชังท่าน เมื่อเขาอเปหิและลบหลู่ท่าน และปฏิเสธนามของท่านประหนึ่งเป็นสิ่งชั่วช้าเพราะบุตรมนุษย์ “ในวันนั้นจงชื่นชมยินดีและโลดเต้นด้วยความเปรมปรีดิ์เถิดเพราะบำเหน็จของท่านในสวรรค์ยิ่งใหญ่นัก เนื่องจากบรรพบุรุษของเขาได้ปฏิบัติเช่นเดียวกันนั้นกับบรรดาผู้เผยพระวจนะ “แต่วิบัติแก่เจ้าผู้มั่งมี เพราะเจ้าได้รับความสุขสบายแล้ว วิบัติแก่เจ้าผู้อิ่มหมีพีมันอยู่ในขณะนี้ เพราะเจ้าจะหิวโหย วิบัติแก่เจ้าผู้หัวเราะอยู่ในเวลานี้ เพราะเจ้าจะโศกเศร้าและร่ำไห้ วิบัติแก่เจ้าเมื่อคนทั้งปวงยกย่องเจ้า เพราะบรรพบุรุษของเขาได้ปฏิบัติเช่นเดียวกันนั้นกับบรรดาผู้เผยพระวจนะเท็จ “แต่เราบอกท่านที่ฟังอยู่ว่าจงรักศัตรูของท่าน จงทำดีแก่ผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรคนที่แช่งด่าท่าน จงอธิษฐานเผื่อผู้ที่ทำร้ายท่าน ถ้าผู้ใดตบแก้มท่าน จงหันแก้มอีกข้างให้เขาด้วย ถ้าผู้ใดเอาเสื้อคลุมของท่านไป จงยอมให้เขาเอาเสื้อของท่านไปด้วย จงให้แก่ทุกคนที่ขอท่าน และถ้าใครเอาสิ่งที่เป็นของท่านไป อย่าเรียกร้องสิ่งนั้นกลับคืน จงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่ท่านปรารถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่าน “ถ้าท่านรักแต่ผู้ที่รักท่าน ท่านจะน่าสรรเสริญที่ตรงไหน? แม้แต่ ‘คนบาป’ ก็รักคนที่รักเขา และถ้าท่านทำดีแก่ผู้ที่ดีต่อท่าน ท่านจะน่าสรรเสริญที่ตรงไหน? แม้แต่ ‘คนบาป’ ก็ทำเช่นนั้น และถ้าท่านให้ยืมเฉพาะผู้ที่ท่านคาดว่าจะได้คืนจากเขา จะน่าสรรเสริญที่ตรงไหน? แม้แต่ ‘คนบาป’ ก็ให้ ‘คนบาป’ ยืม โดยคาดหวังว่าจะได้คืนครบถ้วน แต่จงรักศัตรูของท่าน จงทำดีต่อเขา และให้เขายืมโดยไม่หวังจะได้อะไรคืนมา แล้วท่านจะได้รับบำเหน็จใหญ่หลวงและจะได้เป็นบุตรขององค์ผู้สูงสุดเพราะพระองค์ทรงกรุณาต่อคนอกตัญญูและคนชั่ว จงเมตตากรุณาเช่นเดียวกับที่พระบิดาของท่านทรงเมตตากรุณา “อย่าตัดสินแล้วท่านจะไม่ถูกตัดสิน อย่ากล่าวหาแล้วท่านจะไม่ถูกกล่าวหา จงให้อภัยแล้วท่านจะได้รับการอภัย จงให้แล้วท่านจะได้รับ และทะนานที่ตวงเต็มยัดสั่นแน่นพูนล้นจะถูกเทลงในตักของท่าน เพราะท่านใช้ทะนานอันใดก็จะใช้ทะนานอันเดียวกันนั้นตวงแก่ท่าน” พระองค์ยังตรัสคำอุปมานี้แก่เขาอีกว่า “คนตาบอดจะนำทางคนตาบอดได้หรือ? ทั้งคู่จะไม่ตกหลุมหรือ? ศิษย์ย่อมไม่เหนือกว่าครูของตน แต่ทุกคนที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างสมบูรณ์แล้วจะเป็นเหมือนครูของตน “เหตุใดท่านมองดูผงขี้เลื่อยในตาของพี่น้องแต่ไม่ใส่ใจกับไม้ทั้งท่อนในตาของท่านเอง? ท่านพูดกับพี่น้องได้อย่างไรว่า ‘พี่น้องเอ๋ย ให้เราเขี่ยผงออกจากตาของท่าน’? ในเมื่อตัวท่านเองไม่เห็นไม้ทั้งท่อนในตาของตนเอง เจ้าคนหน้าซื่อใจคด จงชักไม้ทั้งท่อนออกจากตาของตนก่อนแล้วเจ้าจะเห็นชัด จึงจะเขี่ยผงออกจากตาของพี่น้องได้ “ต้นไม้ดีย่อมไม่ให้ผลเลวและต้นไม้เลวย่อมไม่ให้ผลดี เราจะรู้จักต้นไม้แต่ละต้นได้ด้วยผลของมัน พุ่มหนามย่อมไม่ออกผลเป็นมะเดื่อ หรือกอหนามย่อมไม่ออกผลเป็นองุ่น คนดีย่อมนำสิ่งดีออกจากความดีที่สะสมไว้ในใจของตน ส่วนคนชั่วก็นำสิ่งชั่วออกจากความชั่วที่สะสมไว้ในใจของตน เพราะปากย่อมเอ่ยสิ่งที่เอ่อล้นออกมาจากใจ “เหตุใดท่านจึงเรียกเราว่า ‘พระองค์เจ้าข้า พระองค์เจ้าข้า’ แต่ไม่ทำตามที่เราบอก? เราจะแสดงให้ท่านเห็นว่าผู้ที่มาหาเรา ฟังคำของเรา แล้วนำไปปฏิบัตินั้นเป็นเช่นไร เขาเป็นเหมือนคนที่สร้างบ้านผู้ขุดลึกลงไปวางฐานรากบนศิลา เมื่อน้ำท่วมและกระแสน้ำเชี่ยวซัดใส่บ้าน บ้านนั้นก็ไม่สั่นไหวเพราะสร้างไว้อย่างดี ส่วนผู้ที่ได้ยินคำของเราแต่ไม่ได้นำไปปฏิบัติก็เป็นเหมือนคนที่สร้างบ้านบนพื้นโดยไม่วางฐานราก เมื่อกระแสน้ำเชี่ยวซัดใส่บ้าน บ้านนั้นก็ล้มครืนและถูกทำลายราบคาบ”

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 6

YouVersion ใช้คุกกี้สำหรับการปรับแต่งการใช้งาน และประสบการณ์ของคุณ การที่คุณได้ใช้เว็บไซต์ของเรา ถือเป็นการที่คุณยอมรับวัตถุประสงค์ของการใช้คุกกี้ ซึ่งมีคำอธิบายอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา